×

เศรษฐาเชื่อไม่มีเหตุเกมการเมืองโหวตคว่ำงบ 67 มั่นใจพรรคร่วมรัฐบาลเหนียวแน่น ด้านฝ่ายค้านเอกฉันท์ไม่รับร่าง

โดย THE STANDARD TEAM
22.03.2024
  • LOADING...

วันนี้ (22 มีนาคม) ที่รัฐสภา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปรัฐสภาเพื่อติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระที่ 2 และ 3 โดยกล่าวถึงกระแสการโหวตคว่ำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ 2567 ว่าเท่าที่ทราบไม่น่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น อ่านหนังสือพิมพ์มี 1 ฉบับที่ลงข่าวนี้ ซึ่งทางฝ่ายสภาก็เช็กแล้วไม่มีประเด็นอะไร เราเองก็ทำงานด้วยกันดี และยังมั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาล 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เตรียมรับมือกับเกมการเมืองไว้อย่างไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้เตรียมก็ทำงานไปเรื่อยๆ ทุกวัน ทำงานก็เอาผลงานเป็นตัวชี้วัด และทำงานกับทุกพรรคได้ดี เมื่อคืนนี้ได้เจอกับอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ ไม่มีสัญญาณอะไรถ้าวัดจากเรื่องงานเป็นหลัก การทำงานร่วมกันดีตรงนี้ไม่มีประเด็นอะไร 

 

ส่วนได้สอบถามไปยัง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่ได้ถามต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน

 

ฝ่ายค้านเสียงเอกฉันท์ ไม่รับร่างงบฯ 67 อึ้งแผนล้มเศรษฐา ดันประวิตรนั่งนายกฯ 

 

ขณะที่ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติเอกฉันท์เห็นตรงกันว่า จะลงมติไม่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวการโหวตไม่เห็นชอบจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ทราบข่าวเรื่องนี้เลย ต้องจับตากันดูว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้น โอกาสคงเป็นไปได้ยากในวาระนี้ ต้องจับตาดูกันต่อไป ถ้าเกิดขึ้นก็แปลว่ามีรอยแตกร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล หรือมีการแก่งแย่งชิงอำนาจที่หลายฝ่ายอาจลือกันมาแล้วก่อนหน้านี้ ว่าจะมีการแย่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีกันหรือไม่ ถ้าข่าวลือเป็นจริงก็คงจะได้เห็นกันว่าที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในการร่วมรัฐบาล

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงลงโทษหากมีสมาชิกในพรรคร่วมฝ่ายค้านโหวตเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯ นั้น ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ไม่ได้มองว่าเป็นบทลงโทษ แต่มองว่าเป็นการปฏิบัติร่วมกันตามมติที่มีในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถ้าไม่ได้ปฏิบัติตามมติตนก็คิดว่าเป็นไปตามสัดส่วน อย่างครั้งที่แล้วมีพรรคเล็กที่ไม่ได้ลงมติตามวิปฝ่ายค้าน เวลามีโควตาอะไร เราก็ต้องไม่นับเขาเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะเขาไม่ทำตามมติก็เป็นตามปกติ ไม่ได้มีการลงโทษอะไร

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากรอบนี้เกิดขึ้นจะทำอย่างไร ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ก็คงเหมือนๆ กัน มี สส. กี่คนก็นับสัดส่วนไปตามนั้น ส่วนการลงโทษของพรรคนั้นๆ ที่จะลงโทษ สส. ที่ไม่ปฏิบัติตามมติวิปฝ่ายค้านก็เป็นเรื่องของพรรคนั้นๆ ตนมีหน้าที่ในการดูแลพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค คงไม่มีสิทธิ์ไปลงโทษใคร

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนพรรคก้าวไกล หากมีคนโหวตเห็นชอบจะสะท้อนถึงความเห็นของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า “ผมมั่นใจว่าไม่มี 100%”

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงโอกาสที่จะมีการดึงเศรษฐาลง เพื่อดัน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า “ถ้าถามผม ผมถามว่าเอาจริงเหรอครับ ผมถามแค่นี้แหละ” พร้อมกล่าวต่อว่า ตนถามกับสังคมดีกว่าว่า 4 ปีที่ผ่านมาสังคมรู้สึกอย่างไร หากเรามีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ. ประวิตร

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แต่ก็มีโอกาสถ้าคว่ำเศรษฐาได้ ปกรณ์วุฒินิ่งไปสักครู่ พร้อมกล่าวว่า “เอ๊ะ นี่เราเลือกนายกฯ ตามความต้องการของประชาชนหรือความต้องการของอะไรกันแน่ครับ ผมว่ามันเป็นเรื่องการแก่งแย่งอำนาจโดยที่ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ ผมว่าประชาชนก็น่าจะรับรู้ว่าสุดท้ายแล้วไม่ได้เป็นประโยชน์กับสังคมหรือประเทศชาติ”

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising