×

เสรีพิศุทธ์ ยื่นยุบพรรคพลังประชารัฐและ 6 พรรคเล็ก ปมรับเงินรายเดือน ยินยอมให้ครอบงำพรรค

โดย THE STANDARD TEAM
08.08.2022
  • LOADING...
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

วันนี้ (8 สิงหาคม) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วย สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะสมาชิกทีมกฎหมายพรรคเสรีรวมไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกต้ัง (กกต.) ขอให้มีการไต่สวนพรรคการเมือง กรณีพรรคใหญ่ครอบงำพรรคเล็กด้วยการจ่ายเงินเดือน 

 

โดยสืบเนื่องจากกรณีการประชุมร่วมรัฐสภาที่เคยมีการพิจารณาเอาสูตรการคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการหารด้วย 100 หรือ 500 ซึ่งพรรคการเมืองขนาดใหญ่ต่างก็ต้องเอาสิ่งที่ตัวเองเป็นประโยชน์ แต่ได้พบว่ามีลักษณะการล็อบบี้ ส.ส. จากพรรคการเมืองขนาดเล็ก และมีกระแสข่าวว่ามี ส.ส. จากพรรคการเมืองขนาดเล็ก จะไปเข้าร่วมกับพรรคใหญ่อย่างพรรคพลังประชารัฐ จึงมองว่ายอมเป็นทาสทางการเมืองเพื่อให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่บงการ

 

สำหรับพรรคการเมืองที่ยื่นยุบในวันนี้ ประกอบด้วย พรรคพลังไทยรักไทย, พรรคไทรักธรรม, พรรคพลังชาติไทย, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคพลเมือง, พรรคพลังธรรมใหม่ และพลังประชารัฐ

 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ระบุว่า กรณีนี้หัวหน้าพรรคเล็กได้มีการพบปะกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นลักษณะของการยินยอมให้มีการครอบงำด้วยการไปรับเงินเดือน ซึ่งคลิปเสียงที่หลุดออกมาเป็นเพราะพรรคการเมืองขนาดเล็กบางพรรคมีความเห็นที่ไม่ตรงกับพรรคการเมืองใหญ่ จึงเป็นไปได้ว่าพรรคการเมืองใหญ่ไม่พอใจ จนมีการเผยแพร่คลิปเสียงออกมา แต่เมื่อมีคลิปเสียงออกมาก็ย่อมมีการปฏิเสธ จึงมีการอ้างว่าเป็นลักษณะการกู้ยืมเงิน ซึ่งไม่มีใครเชื่อถือเพราะไม่มีสัญญากู้ยืมเงินตามกฎหมาย 

 

โดยการรับเงินยังมีการรับทุกเดือน ซึ่งมี ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นผู้ดูแล ดังนั้นจึงมีหลักฐานชัดเจนจากคลิปและการออกมาพูดของบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จึงถือได้ว่าเหตุดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตามมาตรา 28 และ 29 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่ส่งผลให้พรรคการเมืองขนาดเล็กถูกยุบพรรคได้ ส่วนพรรคการเมืองที่มีการครอบงำก็อาจส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคทุกข์ลงโทษจำคุก ซึ่งในอดีตเคยมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว 

 

ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวไม่จำเป็นต้องสอบในชั้นกรรมาธิการปราบปรามทุจริต โดยเฉพาะตัวเองได้มายื่นต่อ กกต. ให้ตรวจสอบโดยตรงอยู่แล้ว ซึ่งในกรณีนี้ไม่รวมถึงการล็อบบี้ระหว่างรัฐมนตรีกับ ส.ส. ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเรื่องนี้ไม่มีการตรวจสอบอยู่ในชั้นกรรมการซึ่งใกล้แล้วเสร็จ 

 

ด้าน สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. และประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการยื่นร้องวันนี้ว่า ต้องการให้กฎหมายที่มีอยู่เกิดความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นไปตามมาตรา 28 และ 29 ของกฎหมายพรรคการเมืองที่มีการเขียนชัดเจนว่า เพื่อเป็นการป้องกันบุคคลภายนอกครอบงำพรรคการเมือง ซึ่งเจตนารมณ์ต้องการให้พรรคการเมืองมีความเป็นอิสระ และหลักฐานครั้งนี้ถือว่าชัดเจนเพราะมีการให้เงินพรรคการเมืองแบบรายเดือน และถือเป็นเรื่องที่ กกต. ต้องดำเนินการโดยเร็วและต้องตรงไปตรงมา โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน หาก กกต. มีความเห็นสอดคล้องกับการยื่นร้องครั้งนี้ก็จะมีการส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคต่อไป และสามารถทำได้เร็วที่สุดภายใน 15 วัน

 

นอกจากนี้ส่วนตัวยังหาว่าสิ่งที่ยื่นหลักฐานให้ กกต. วันนี้ จะทำให้ กกต. ทำงานอย่างตรงไปตรงมา และสื่อสารถึงความคืบหน้ากับประชาชน เพราะ กกต. เองก็สอบตกในเรื่องของคะแนนความโปร่งใส โดยเรื่องนี้ก็จะเป็นการกู้คืนศักดิ์ศรีให้กับทาง กกต. ว่าจะทำงานตรงไปตรงมาหรือไม่ พร้อมกับเตือนในฐานะที่เคยเป็นอดีต กกต. ที่ไม่อยากเห็นคนของ กกต. ต้องติดคุกตอนแก่

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising