×

เลือกตั้ง 2566 : เสรีพิศุทธ์-สุดารัตน์-วราวุธ เสนอนโยบายต่างประเทศและจุดยืนต่อเมียนมา ในการดีเบตรอบ 2

โดย THE STANDARD TEAM
26.04.2023
  • LOADING...
เสรีพิศุทธ์

วันนี้ (25 เมษายน) ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน THE STANDARD จัดงาน THE STANDARD DEBATE: เลือกตั้ง 66 ENDGAME เกมที่แพ้ไม่ได้ ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป โดยมีตัวแทน 10 พรรคการเมืองร่วมประชันวิสัยทัศน์ 

 

สำหรับ Round 2 : The Grand Battle ดวลวิสัยทัศน์ตัวต่อตัว คู่ที่ 9 ภายใต้คำถามที่ว่า ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกับเมียนมา ไทยมักถูกหลายประเทศวิจารณ์ว่า ไม่แสดงบทบาทการทูตเชิงรุก ทั้งในเรื่องการช่วยส่งเสริมประชาธิปไตยและการแก้ปัญหาสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะกรณีกองทัพเมียนมาใช้กำลังกวาดล้างชนกลุ่มน้อย เป็นเหตุให้มีประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมาก และเกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม 

 

หากคุณได้เป็นรัฐบาล ไทยจะพลิกบทบาททางการทูตต่อเมียนมาอย่างไร จะมีนโยบายอะไรเป็นพิเศษ จะมีส่วนอย่างไรในการสนับสนุนให้เมียนมาเดินไปสู่การเลือกตั้งอย่างสันติ และจะวางบทบาทตัวเองอย่างไรในภูมิภาคอาเซียน

 

โดย พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเสรีรวมไทย หมายเลข 25 กล่าวว่า “ตอนนี้สงครามอาจจะไม่มี แต่กองทัพเมียนมาก็เอาอย่างประเทศไทยคือ ชอบปฏิวัติและรัฐประหาร ออกรัฐธรรมนูญมากีดกันผู้คน 

 

“สำหรับประเทศไทยเราจะใช้กำลังเข้าแก้ไขปัญหาต่างๆ ก็แก้ไขไม่ได้ เพราะไทยไม่ได้รบมานาน ทหารเกณฑ์ก็ใช้ไม่ได้ วิธีการที่จะแก้ไขตรงนี้จะต้องดูเรื่องของเศรษฐกิจเป็นหลัก คือทำอย่างไรให้เศรษฐกิจของเราเติบโตขึ้นได้ด้วยสถานการณ์ต่างประเทศเป็นหลัก

 

“นอกจากนั้นในเรื่องการค้า การต่างประเทศ เราอาจต้องบอยคอตพม่า และสุดท้ายเรื่องการปราบปรามยาเสพติดที่รัฐบาลพม่าตั้งฐานใช้ยาเสพติดในประเทศ เราต้องจริงจัง เพื่อไม่ให้เขามีรายได้

 

“เราไม่สนับสนุนเผด็จการพม่า เพราะเราก็ไม่สนับนุนเผด็จการไทย เมื่อไม่สนับสนุน เราก็ต้องบอยคอตเขาด้วยการไม่คบหาสมาคมด้วย เช่นเดียวกับที่ผมไม่คบหารัฐบาลเผด็จการของไทย” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าว

 

โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย เบอร์ 32 กล่าวว่า “ที่ผ่านมารัฐบาลของ พล.อ. ประยุทธ์ ไม่สามารถใช้เรื่องของการต่างประเทศเพื่อสร้างประโยชน์ให้ประเทศของเรา หรือแม้แต่การแก้ไขปัญหาของประเทศเมียนมา แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราใช้การต่างประเทศไปเพื่อแก้ตัวและแก้ต่างว่ารัฐบาลทหารไม่ได้ทำอย่างนั้นอย่างนี้

 

“ดังนั้นเรื่องของเมียนมาเราคิดว่ามีความสำคัญ เพราะเขามีพรมแดนติดประเทศไทย ในฐานะที่เราทำให้อาเซียนเป็นที่รู้จักได้ เราควรจะมีบทบาทตรงนี้ เข้าไปพูดคุยกับรัฐบาลเมียนมาในการพาเขากลับสู่ประชาธิปไตย 

 

“อย่างที่เรียนไปว่า ไทยสร้างไทยเราให้ความสำคัญกับนโยบายการต่างประเทศ และดิฉันเสียดายค่ะที่ในเวลาที่ผ่านมารัฐบาลของ พล.อ. ประยุทธ์ ใช้การต่างประเทศไปกับการแก้ต่างให้รัฐบาลทหารและตามเวทีต่างๆ ไม่ได้ใช้เวทีไปกับการค้า 

 

“ถ้าเป็นดิฉัน ดิฉันจะใช้นโยบายเรื่องการต่างประเทศเป็นตัวนำ ทั้งเศรษฐกิจและเจรจา FTA แม้ไม่มีตำแหน่ง ดิฉันยังต้องบินไปเจรจานำวัคซีนมาให้คนไทยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และยังบินไปเจรจากับ สปป.ลาว เรื่องฝุ่น PM2.5 สำหรับกรณีเมียนมา ดิฉันจะบินไปเจรจากับเขา จนเขาไว้เนื้อเชื่อใจ และกลับสู่หลักประชาธิปไตย” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

 

ขณะที่ วราวุธ ศิลปอาชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคชาติไทยพัฒนา หมายเลข 18 กล่าวว่า “เราเชื่อว่าในแต่ละประเทศจะมีความเปราะบางและซับซ้อนในการบริหารต่างประเทศ เราไม่อยากให้ต่างประเทศมาวุ่นวายกับการเมืองของเราเช่นใด เราก็ไม่ควรไปยุ่งกับความซับซ้อนในการเมืองของประเทศอื่นเช่นกัน

 

“แต่พรรคชาติไทยพัฒนาเรามีนโยบายคือ ‘อย่าสร้างศัตรูใกล้บ้าน อย่าสร้างมิตรไกลตัว’ การที่เราไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการเมืองของเพื่อนบ้าน ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเลย แต่ยังมีเรื่องของสิทธิมนุษยชนและเรื่องผู้ลี้ภัยต่างๆ 

 

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในเสาหลักของอาเซียน เป็นจุดศูนย์กลางของอาเซียน ดังนั้นการใช้การทูตเชิงรุกในการดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน ดูแลพี่น้อง (เพื่อนบ้าน) ที่ได้รับความเดือดร้อนนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ 

 

“ส่วนเรื่องการค้าหรือมิติอื่นๆ ผมคิดว่านั่นจะเป็นการทำงานระหว่างประเทศอยู่แล้ว แต่การที่เพื่อนบ้านของเราเกิดศึกสงครามขึ้น ประเทศไทยเราจะไม่ไปยุ่งกับสงครามของเขา แต่เราจะเน้นที่การดูแลนโยบายอื่นๆ แต่เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นสิ่งที่เราจะต้องยืนหยัดเอาไว้ และอาจแสดงความห่วงใยไปยังประเทศเมียนมา ถ้าเกิดกรณีการแทรกแซงการเลือกตั้งหรือเรื่องต่างๆ ของเมียนมา” วราวุธกล่าวในท้ายที่สุด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising