×

สว. รับหลักการสมรสเท่าเทียม ตั้ง กมธ. ถก 7 วัน ลุ้นผ่านก่อนปิดสมัย

โดย THE STANDARD TEAM
02.04.2024
  • LOADING...

วันนี้ (2 เมษายน) ในการประชุมวุฒิสภา ซึ่งเป็นการประชุมครั้งก่อนสุดท้ายของสมัยประชุมนี้ ก่อนที่จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 9 เมษายน มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม วาระแรก หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเสร็จแล้ว และส่งต่อมาให้วุฒิสภาพิจารณาต่อให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรส่งมาให้ 

 

บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความราบรื่น สว. ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างกฎหมาย โดย วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ และโฆษกคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ที่พิจารณาคู่ขนาน อภิปรายเป็นข้อสังเกตว่าประเทศที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมในลักษณะนี้มีเพียงไม่กี่ประเทศ และในประเทศมุสลิมไม่รับรองกฎหมายฉบับนี้เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน 

 

ดังนั้นควรจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ที่สำคัญร่างกฎหมายนี้เป็นการรับรองสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวที่มีความหลากหลายทางเพศ อย่างไรก็ตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่บังคับไม่ให้ทำการ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ใช้สิทธิที่สามารถทำได้ ดังนั้นหากเห็นว่าผิดคำสอนศาสนาก็ไม่ต้องไปทำก็ได้

 

เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบเชิงศีลธรรมทางสังคม เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์ การล่วงละเมิดทางเพศ การลักลอบอุ้มบุญ และข้อจำกัดในการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา คณะกรรมาธิการจึงมีข้อสังเกตว่า ประเด็นทางศาสนาควรมีการสร้างการรับรู้ในหมู่ผู้ที่นับถือศาสนาที่มีพระเจ้าองค์เดียว เพื่อให้ยอมรับการก่อตั้งครอบครัว 

 

ทั้งนี้ องค์กรศาสนาที่เกี่ยวข้องควรดำรงบทบาทในการสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องต่อสาธารณชน ตลอดจนเป็นองค์กรที่หาทางออกในเรื่องที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงค่านิยม รวมถึงควรทำหน้าที่ป้องกันหรือระงับข้อพิพาททางความคิดของคนที่อยู่ร่วมกันทางสังคมในอนาคต ส่วนประเด็นทางวัฒนธรรมควรมีมาตรการในเชิงสังคมหรือนโยบาย เพื่อรองรับการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวให้เอื้อต่อการสร้างครอบครัวรูปแบบใหม่ เช่น การกำหนดนโยบายส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสเพศเดียวกัน หรือผู้ที่มีลักษณะข้ามเพศ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองและบุตร

 

ด้าน เสรี สุวรรณภานนท์ ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ลุกขึ้นขออภิปรายเป็นคนแรก ว่าเรื่องความเท่าเทียมเห็นได้ว่าเราพยายามเรียกร้องมาโดยตลอด จะเห็นได้ว่าถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหลายฉบับ และค่อยๆ พัฒนาขึ้น เพียงแต่ปัญหาเรื่องเพศไม่ค่อยยอมรับกันเท่าไรในโลกความเป็นจริง แม้จะพบเจอกับคนใกล้ตัวที่เราได้พบเสมอมา

 

“ผมได้พบตั้งแต่สมัยมัธยมศึกษา มีเพื่อนมีรุ่นน้อง โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนชาย มีเพื่อนนักเรียนเหล่านี้มีพฤติกรรมแสดงออกไปในแนวทางคนละเพศกัน แรกๆ ก็อาจดูว่าแปลกออกไป แต่ด้วยเวลาที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าสังคมยอมรับมากขึ้น ตอนแรกต้องปิดๆ บังๆ แอบๆ แต่เมื่อสังคมยอมรับมากขึ้นก็มีความชัดเจน” เสรีกล่าว

 

เสรีย้ำว่า เรื่องเพศเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัจจุบันโลกเจริญขึ้นเยอะ เป็นเรื่องที่แปลก ธรรมชาติสร้างให้มีหญิงกับชาย แต่ธรรมชาติเองกลับสร้างให้ชายเป็นหญิง หรือหญิงเป็นชาย แล้วจำนวนคนมากขึ้น

 

“ผมคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องยอมรับความจริงในสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น เพียงแต่ว่าเราจะทำให้เขาอยู่อย่างไรในสังคมปัจจุบัน ผมยอมรับได้ว่ากฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมา มีภาคประชาชนเสนอกฎหมายเหล่านี้เข้ามา แสดงว่าประชาชนต้องการ เราคงจะไม่ตัดสินใจหรือพิจารณาตามกระแส แต่ต้องพิจารณาตามเหตุผล” เสรีกล่าว

 

เสรีกล่าวต่อว่า หากกฎหมายบังคับใช้แล้ว เราต้องไปดูอีกด้านหนึ่งด้วย ให้เขาใช้ชีวิตด้วยกันได้ ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ เราให้โอกาสแต่งงานกัน จดทะเบียนกัน แต่อยู่ได้พักเดียวก็เลิกกัน ก็กลายเป็นปัญหาสังคม ดังนั้นเราต้องช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วย เช่น ก่อนจะจดทะเบียนสมรสกัน ให้อยู่ด้วยกันก่อน 6 เดือนได้หรือไม่ เมื่อเข้าเงื่อนไขก็มาจดทะเบียนกัน 

 

“ผมก็คงเลี่ยงไม่ได้ ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงว่าในสังคมโลกปัจจุบันความจำเป็นที่จะต้องให้คนเพศเดียวกันอยู่ด้วยกัน หมั้นกัน สมรสกัน และเกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยา หรือระหว่างบุคคลถ้าหย่ากันผลจะเป็นอย่างไร…ผมเรียนกฎหมายมา เป็นทนายความมา เพราะฉะนั้นกฎหมายมรดกมันเกี่ยวพันกัน เชื่อมโยงกันหมด เพราะฉะนั้นเราอย่าเพิ่งคิดว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นชัยชนะ เราต้องคิดไปไกลกว่านั้น” เสรีกล่าว

 

ขณะที่ พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร อภิปรายว่า ความทุกข์ของประชาชนคือเรื่องของเรา เรื่องนี้ต้องเห็นใจพี่น้องชาว LGBTQIA+ ตนอยากให้กรรมาธิการปรับแก้ช่วงอายุในการสมรสเป็น 20 ปี เพื่อป้องกันปัญหาสังคมที่จะตามมา เช่น การล่วงละเมิดทางเพศ และอยากให้กฎหมายฉบับนี้มีผลทันที ไม่จำเป็นต้องรอ 180 วัน เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่รอคอยกฎหมายฉบับนี้อยู่ ได้ใช้กฎหมายนี้โดยเร็วที่สุด ส่วนกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่ต้องแก้ไขตามคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เช่น การเปลี่ยนแบบฟอร์มในระบบราชการ

 

ด้านตัวแทนภาคประชาชนผู้เสนอกฎหมายกล่าวว่า ในฐานะเยาวชนที่เป็นกะเทย ขอขอบคุณ สว. ที่เห็นคุณค่า เห็นศักดิ์ศรี และความเป็นอยู่ของกลุ่ม LGBTQIA+ นี่จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการให้สิทธิความเป็นธรรมทางเพศ มีความสำคัญต่อลมหายใจของ LGBTQIA+ เชื่อว่ามวลมนุษยชาติจะเห็นว่าการให้สิทธิกับพวกเรานั้นเป็นการต่อลมหายใจของพวกเราจริงๆ

 

ในที่สุดที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบ 147 คน ไม่เห็นชอบ 4 คน งดออกเสียง 7 คน จากสมาชิก 158 คน หลังจากนี้จะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาจำนวน 27 คน และกำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising