×

‘เอสซีจี’ ถือเงินสด 9.5 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หวังรับมือความเสี่ยงหลังจากกำไรปีก่อนลดลง 55%

26.01.2023
  • LOADING...
เอสซีจี

บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย เผยแผนปีนี้ถือเงินสดสูงสุด 9.5 หมื่นล้านบาท รับมือความไม่แน่นอนที่อาจลุกลามเป็นวิกฤต ส่วนปี 2566 ตั้งงบลงทุน 4-5 หมื่นล้านบาท ลงทุนเฉพาะโครงการที่จำเป็น ด้านความคืบหน้าการสปินออฟหุ้น SCGC ยังอยู่ระหว่างพิจารณาสถานการณ์

 

ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ เอสซีจี (SCC) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทถือครองเงินสดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 9.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากบริษัทประเมินว่ายังมีปัจจัยจากความไม่แน่นอนที่สูงจะเข้ามามีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะจากปัญหาความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) กรณีการทำสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่แม้ปัจจุบันจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนที่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะหากกลับมีความขัดแย้งจนเกิดความรุนแรงอีกจะเป็นความเสี่ยงต่อวิกฤตราคาพลังงานดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในปี 2565 ที่ผ่านมาได้

 

สำหรับในปีนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนรวมไว้ที่ประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท จากปี 2565 ที่ใช้เงินลงทุนรวมไปประมาณมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยงบลงทุนปีนี้จะแบ่งสัดส่วน 50% ใช้ลงทุนต่อเนื่องในโครงการปิโตรเคมีครบวงจรที่เวียดนาม ขนาดกำลังผลิต 1.50 ล้านตันต่อปีให้แล้วเสร็จ และส่วนที่เหลืออีกราว 2 หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ขยายธุรกิจใหมๆ โดยเน้นลงทุนในโครงการที่มีความจำเป็น

 

“เวลาเกิดวิฤต ปกติมักจะตัดงบลงทุนที่ยังไม่จำเป็นออกไปก่อน เพราะมองไปข้างหน้าความไม่แน่นอนยังมีอยู่ บริษัทจึงไม่ต้องการเข้าไปเสี่ยง อย่างแผนเดิมใน 2565 เราวางแผนจะใช้เงินลงทุนที่ 8 หมื่นล้านบาท แต่จบปีใช้ลงทุนจริงๆ ราว 5 หมื่นล้านบาท เพราะบริษัทเห็นภาพความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ส่วนเงินสดที่เราถือไว้ปัจจุบันที่ 9.5 หมื่นล้านบาท ก็เป็นการเตรียมความพร้อม หากวิกฤตเกิดขึ้นมาอีกเราก็จะยังมีความแข็งแรงอยู่ต่อไปได้ เพราะฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง ส่วน D/E Ratio ตอนนี้ของบริษัทก็ยังถือว่าต่ำ เพราะยังต่ำกว่า 1 เท่า”

 

สำหรับภาพรวมของธุรกิจปิโตรเคมีซึ่งในอดีตในช่วงธุรกิจขาขึ้นเคยมีสัดส่วนของกำไรประมาณ 70% ของบริษัทนั้น ปัจจุบันมีสัดส่วนที่ลดลงเพราะวัฏจักรยังอยู่ในช่วงของการลงทุน โดยประเมินว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะยังอยู่ในขาลงต่อเนื่องในปี 2566-2567 จากซัพพลายใหม่ที่เข้ามากดดันราคา จากนั้นจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นในปี 2568 

 

ด้าน รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) กล่าวว่า แผนหลักในปีนี้จะเน้นการทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งให้มากที่สุด เพื่อรับมือความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต

 

สำหรับในปีนี้ คาดการณ์ว่ารายได้รวมของบริษัทจะเติบโตขึ้น 10% เมื่อเปรียบจากปี 2565 ที่มีรายได้ประมาณ 5.7 แสนล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนจากโครงการลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ ในเวียดนาม ที่จะเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยยังต้องติดตามราคาปิโตเคมีภัณฑ์ที่เคลื่อนตามราคาตลาดในช่วงที่โรงงานเดินเครื่องผลิตด้วยว่าจะออกมาอย่างไร 

 

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกที่ภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นรวมถึงนโยบายการเปิดประเทศของจีนส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นบวกต่อความต้องการใช้สินค้า

 

ทั้งนี้ เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังจากกำไรสุทธิในไตรมาส 4/65 ออกมาทำจุดต่ำสุดในรอบ 14-15 ปีนับจากช่วงที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ โดยสถานการณ์ในปี 2565 มีหลายปัจจัยที่มากระทบ โดยเฉพาะวิกฤตราคาพลังงานถ่านหินที่พุ่งขึ้นทำ All Time High

 

นอกจากนี้ ยังรับผลกระทบจากความต้องการสินค้าที่ลดลง เพราะจีนมีนโยบาย Zero-COVID และภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศ ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายลดสต๊อกและหยุดการสั่งสินค้า รวมถึงยังมีเรื่องต้นทุนการเงินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของทั่วโลกอีกด้วย

 

IPO ‘เอสซีจี เคมิคอลส์’ ส่อเค้าเลื่อนยาว

รุ่งโรจน์กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชน (IPO) ของ บมจ.เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น บริษัทขอดูสถานการณ์ก่อน เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจต่างประเทศ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวดีก็ตาม 

 

ทั้งนี้ บริษัทมีระยะเวลาราว 1 ปี ในการนำ บมจ.เอสซีจี เคมิคอลส์ ขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 และหากไม่สามารถ IPO ได้ทันตามเกณฑ์ของ ก.ล.ต. จะต้องยื่นไฟลิ่งใหม่ ซึ่งบริษัทก็มีความพร้อมในเรื่องของข้อมูลและเอกสารอยู่แล้ว


บทความที่เกี่ยวข้อง 


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising