หุ้นกลุ่มลีสซิ่งปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า หลังจากธนาคารใหญ่อย่าง SCB ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจ เปลี่ยนผ่านจากธุรกิจแบงก์สู่ธุรกิจเทคโนโลยีการเงิน หรือ Financial Technology
โดยราคาหุ้นกลุ่มลีสซิ่งและบัตรเครดิตวันนี้ (23 กันยายน) ณ เวลา 12.30 น. เคลื่อนไหวดังนี้
- SAWAD อยู่ที่ 65 บาท -3.70%
- MTC อยู่ที่ 60 บาท -4.38%
- TIDLOR อยู่ที่ 36 บาท -4.00%
- SAK อยู่ที่ 8.55 บาท -1.16%
- ASK อยู่ที่ 34.70 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
- AMANAH อยู่ที่ 5.20 บาท -0.95%
- THANI อยู่ที่ 4.18 บาท -0.95%
- MICRO อยู่ที่ 7.60 บาท -1.30%
- SINGER อยู่ที่ 42.75 บาท -1.16%
- KTC อยู่ที่ 59.75 บาท -1.65%
- AEONTS อยู่ที่ 193 บาท -3.02%
วานนี้ (22 กันยายน) SCB ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร และจัดตั้งบริษัท Holding SCBX ผ่านการโอนย้ายธุรกิจจาก SCB ให้อยู่ภายใต้ SCBX จำนวน 9 บริษัท ประกอบด้วย Card X, SCB Securities, SCB 10X, SCB Abacus, MONIX, Purple Ventures, Digital Ventures, SCB Tech X, Token X) และจัดตั้งบริษัทใหม่จำนวน 5 บริษัท (Auto X, Alpha X, CPG-SCB VC Fund, AISCB JV, Data X) เพื่อพัฒนาองค์กรให้อยู่ในรูปแบบ Financial Technology Group
ฝ่ายวิจัย บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า จากการปรับโครงสร้างของ SCB ครั้งนี้ บริษัทย่อยของ SCBX ที่จะกระทบผู้ประกอบการไฟแนนซ์ ได้แก่
- Card X ที่ได้แยกธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลจากธนาคาร กระทบต่อ AEONTS และ KTC
- Auto X จากการเริ่มดำเนินธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยเบื้องต้นคาดว่า Auto X จะเน้นการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่ SCB มีความเชี่ยวชาญเดิม กระทบต่อ MTC, AMANAH, TIDLOR และ SAWAD
- Alpha X ที่ได้ร่วมมือตั้งเป็น JV กับ บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ปคอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด สำหรับการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถซูเปอร์คาร์และบิ๊กไบค์ กระทบ THANI
ในระยะสั้นประเมินว่าทุกๆ สินเชื่อที่ได้รับผลกระทบที่ลดลง -1% จะกระทบต่อกำไรสุทธิปี 2565 จากมากไปน้อย ได้แก่ AEONTS, MTC, AMANAH, TIDLOR, KTC, SAWAD และ THANI
ขณะที่ระยะยาว ขอดูแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ Card X, Auto X และ Alpha X ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของกลุ่มไฟแนนซ์ในด้านต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำ นโยบายการแข่งขันด้านราคา และช่องทางการหาลูกค้า
ทั้งนี้ยังคงน้ำหนักการลงทุนเท่ากับตลาด จากแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 ที่ยังได้รับแรงกดดันจาก
1. อัตราผลตอบแทนสินเชื่อ (Loan Yield) ที่ต่ำ
2. ยอดการใช้จ่ายและสินเชื่อบัตรเครดิตที่จะหดตัวในไตรมาส 3/64 จากการล็อกดาวน์
3. ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่จะเพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น เพื่อกระตุ้นการติดตามหนี้ และเพิ่มยอดปล่อยสินเชื่อในช่วงที่มีการระบาดของโควิด
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP