×

ผลตรวจเลือดพนักงานโรงงานเก็บกากแคดเมียมสมุทรสาคร พบสารโลหะเกินมาตรฐาน 7 คนจาก 21 คน

โดย THE STANDARD TEAM
22.04.2024
  • LOADING...
แคดเมียม

วันที่ 17 เมษายน 2567 อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส. ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังประชุม กมธ. ว่า กมธ. ได้พิจารณาเรื่องกาก แคดเมียม ที่ประชาชนและสังคมให้ความสนใจ โดยเชิญปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการความร่วมมือ ร่วมกับอีก 5 หน่วยงานตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหากากแคดเมียม คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ

 

ทั้งนี้ สิ่งที่ กมธ. เป็นห่วงคือ การขนย้ายกากแคดเมียมทั้งหมด 12,400 กว่าตัน กลับไปจังหวัดตากให้เกิดความปลอดภัย กมธ. ได้มีข้อเสนอว่าให้ใช้ดับเบิลบิ๊กแบ็กใส่กากแคดเมียม โดยมีพลาสติกปูที่พื้นแล้วขนย้ายโดยใส่ในตู้คอนเทนเนอร์ไปที่จังหวัดตาก เมื่อถึงที่หมายต้องไม่มีการดัมป์ลงบ่อฝังกลบ 7 บ่อ แต่ให้ใช้วิธียกถุงบิ๊กแบ็กลงไปในบ่อแทน เพื่อไม่ให้ฟุ้งกระจาย และเสนอให้สร้างบ่อฝังกลบเพิ่มด้วย เพราะ 7 บ่อเดิมคงไม่เพียงพอ และเสนอให้ขนย้ายให้เร็วขึ้น ไม่ใช่เริ่มขนย้ายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอของบกลางจากนายกรัฐมนตรีเพื่อมาดำเนินการ

 

“ผมเชื่อว่าท่านนายกฯ จะเห็นด้วย เพราะท่านนายกฯ เป็นห่วงประชาชนเช่นกัน หากให้เอกชนดำเนินการเองคงล่าช้า เพราะกลัวจะเสียค่าใช้จ่าย หลังจากนั้นค่อยไปฟ้องเรียกค่าดำเนินการจากผู้ประกอบการที่ทำการละเมิดกฎหมายให้มารับผิดชอบค่าใช้จ่าย เพราะในกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าสามารถเรียกร้องได้” อัครเดชกล่าว

 

นอกจากนั้นได้ทราบจากรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครว่า จากการตรวจประชาชนรอบโรงงานเก็บสารแคดเมียมในจังหวัดสมุทรสาคร ตรวจเลือด 21 คน พบความเข้มข้นสารโลหะในเลือดมีค่าเกินมาตรฐาน 7 คน ส่วนประชาชนรอบโรงงานตรวจ 34 คน เกินมาตรฐาน 17 คน 

 

อัครเดชย้ำว่า ตรงนี้เป็นความห่วงใย จึงขอให้ทางหน่วยงานไปสอบสวนโรคและติดตามประชาชนกลุ่มนี้ต่อไป แล้วให้ขยายผลตรวจเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชนกลุ่มอื่น 

 

ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชี้แจงเรื่องการตรวจสภาพอากาศและน้ำ พบว่าบริเวณโดยรอบโรงงานไม่พบสารปนเปื้อนแคดเมียมเกิดค่ามาตรฐาน กมธ. จึงขอให้จังหวัดไปตรวจเพิ่มเติมในแหล่งน้ำธรรมชาติที่ต่อเนื่องจากท่อระบายน้ำในโรงงานทั้ง 3 แห่งว่า น้ำในสระและสัตว์น้ำมีสารปนเปื้อนหรือไม่ แล้วให้รายงานผลให้ กมธ. ทราบภายใน 7 วัน จังหวัดสมุทรสาครจะเร่งดำเนินการแล้วแจ้งผลให้ประชาชนได้ทราบต่อไป

 

ประธาน กมธ. อุตสาหกรรม กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่ละเมิดกฎหมาย ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งคณะทำงาน มีหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐของกระทรวงอุตสาหกรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนย้ายกากแคดเมียมดังกล่าวแล้ว โดยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมย้ำว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดโดยไม่เกรงกลัวใคร

 

ในส่วนผู้ประกอบการปลายทาง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ชี้แจงว่า มีการละเมิด พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป ส่วนต้นทางที่ปล่อยกากแคดเมียมออกมา ตัวแทนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งว่า ใบอนุญาตมี 2 ใบคือ ใบอนุญาตประกอบโลหะกรรม ซึ่งหมดอายุไปแล้ว และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือ รง.4 ได้รับอนุญาตเพราะ EIA ระบุว่า การฝังในบ่อคอนกรีตอย่างถาวร ห้ามขุดขึ้นมาเด็ดขาด แต่เมื่อมีการละเมิดกฎหมายจะต้องไปดูว่ามีการละเมิดกฎหมายเหมืองแร่ข้อไหน ส่วนใบ รง.4 ที่ยังไม่หมดอายุ กระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบอำนาจให้อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ไปดูว่าจะดำเนินคดีในข้อหาอะไรได้บ้าง

 

นอกจากนั้น ผู้แทนของอธิบดีดีเอสไอชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดีเอสไอรับเข้ามาเป็นคดีพิเศษแล้ว จะมีการโอนสำนวนจาก บก.ปทส. มาให้ดีเอสไอดำเนินคดีแทน ซึ่งจะมีการประชุมกันในเร็วๆ นี้ โดยจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐและผู้ประกอบการต้นทางและปลายทางอย่างเร่งด่วน

 

อัครเดชย้ำว่า กมธ. ได้ขอให้เร่งประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ประชาชนคลายความกังวล ให้ชี้แจงขั้นตอนในการเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ในส่วน กมธ. จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไปตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สบายใจ และตนเข้าใจว่าการขนกากแคดเมียมกลับไปจังหวัดตาก ประชาชนคงไม่ต่อต้านถ้าได้ข้อมูลชัดเจน โดยภาครัฐลงไปทำความเข้าใจให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และขอให้ประชาชนฟังข้อมูลจากส่วนราชการ อย่าฟังข้อมูลจากข่าวลือหรือผู้ไม่หวังดีที่ปั่นกระแสให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising