เมื่อพูดถึงไอศกรีม ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพเด็กเล็กๆ ยืนเกาะหน้าตู้แช่ที่เต็มไปด้วยไอศกรีมหลากรสหลายสีสัน หากไอศกรีมเหล่านั้นสามารถพูดได้ก็คงกำลังจะบอกกับเด็กน้อยว่า ‘เลือกฉันสิจ๊ะ’ ‘ลองฉันสิเธอ’ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อเด็กน้อยโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เขาไม่กลับไปกินไอศกรีมที่ร้านเดิมอีกแล้ว เพราะเขาคิดว่าการเป็นผู้ใหญ่ไปเกาะหน้าตู้ไอศกรีมช่างดูไม่คูล ไม่สมวัยเสียเลย แต่เราอยากให้ทุกคนสลัดความคิดที่ว่าร้านไอศกรีมไม่ใช่ที่ของผู้ใหญ่ แล้วมาลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเกิดมีร้านไอศกรีมสำหรับผู้ใหญ่จะเป็นอย่างไร
ภายนอกดูเหมือนคาเฟ่มุ้งมิ้งทั่วไป แต่ข้างในกลับมี ‘อะไร’ มากกว่านั้น
The Vibe
จากปากซอยทองหล่อข้ามไปอีกฝั่งถนนแล้วเดินต่อไปไม่ถึง 5 นาที เลี้ยวซ้ายเข้าสุขุมวิท 34 ก็พลันสะดุดตากับ Ryn Cafe (ริน คาเฟ่) ตึกแถวสีสันสดใสที่หากมองจากภายนอกก็ดูเหมือนคาเฟ่มุ้งมิ้งทั่วไป แต่เราแอบได้ข่าวมาว่าคาเฟ่มุ้งมิ้งแห่งนี้มีอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดา เมื่อเข้าไปในร้าน มองเห็นรูปวัวตัวใหญ่เพนต์ด้วยมือสีสันสวยงาม บรรยากาศโดยรอบเหมือนห้องนั่งเล่นเด็ก มีตุ๊กตา หนังสือการ์ตูน เบาะนั่ง โต๊ะญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปวัยเด็กอีกครั้ง
(บน) สอง ‘ริน’ ไอรินทร์ วงศ์วัชร์จิรและทาริน เจียรกุล (ล่าง) บรรยากาศภายในร้าน
ถัดจากห้องนั่งเล่นเด็กก็เป็นตู้ไอศกรีมพร้อมชั้นวางเหล้าแปลกๆ หลายตัว ที่หน้าเคาน์เตอร์ เราพบกับ ไอรินทร์ วงศ์วัชร์จิร และ ทาริน เจียรกุล คู่รักหนุ่มสาวผู้อยู่เบื้องหลังร้านนั่งเล่นเด็กๆ ของผู้ใหญ่แห่งนี้ ทั้งสองเล่าให้ฟังถึงที่มาของร้านตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นสตูดิโอให้เช่าและออฟฟิศทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง แบรนดิ้ง ก่อนที่จะมาเป็นสปีกอีซี่บาร์ไอศกรีม ซึ่งทางไอรินทร์เชี่ยวชาญด้านมาร์เก็ตติ้งและการนำเสนอความคิดไอเดียใหม่ๆ ส่วนทารินอยู่ในวง (การ) เหล้า และทำงานกับบริษัทอิมพอร์ตเตอร์ ผู้นำเข้าทั้งคราฟต์เบียร์และคราฟต์สปิริตจากทั่วโลก เขาจึงมีแบ็กกราวด์เรื่องเหล้ามากพอสมควร จากความถนัดของทั้งสองผสมกับไอเดียที่อยากนำเสนอคราฟต์สปิริตให้เข้าถึงง่ายขึ้น จึงเป็นที่มาของร้านไอศกรีมสุราสรรพรส และตั้งชื่อร้านด้วยการเล่นคำระหว่างชื่อจริงของทั้งสองที่ลงท้ายด้วย ‘ริน’ เหมือนกัน อีกทั้ง ‘ริน’ ยังหมายถึงลักษณะท่าทางการยกขวดเหล้าที่เทลงแก้ว
ลืมภาพบาร์ลึกลับกับเก้าอี้หนังไปเสีย
The Concept
คอนเซปต์ของ Ryn Cafe ก็น่าสนใจไม่แพ้ตัวไอศกรีม เพราะเล่นแง่กับไอเดียของ สปีกอีซี่ ซึ่งปกติจะเป็นคำเรียกประเภทบาร์ที่มีทางเข้าลึกลับ มองจากหน้าร้านแล้วดูไม่เหมือนบาร์ หรือต้องได้รับคำเชื้อเชิญจึงจะสามารถเข้าไปในบาร์ได้ ซึ่งทั้งสองมองว่าสปีกอีซี่ไม่ต้องดูแมนๆ หรือให้บรรยากาศบาร์ยุโรปหรูหรา ตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้คลาสสิก พร้อมแสงไฟมืดสลัว แล้วทำไมสปีกอีซี่จะมาแบบลับ-ลวง-พรางด้วยหน้าร้านไอศกรีมไม่ได้ล่ะ
คุณล่ะอยากลองแบบไหน?
ทารินแนะนำให้เรารู้จักคราฟต์สปิริต ซึ่งเป็นเหล้าที่แบตช์ (Batch) หรือจำนวนการผลิตแต่ละครั้งไม่ได้มหาศาลแบบอุตสาหกรรม แถมเหล้าแต่ละตัวยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ทำให้เกิดสุนทรีย์ระหว่างการจิบเหล้าเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ทารินหยิบวอดก้ายี่ห้อหนึ่งให้เราดูแล้วอธิบายว่า วอดก้าตัวนี้มาจากเวียดนาม ให้สัมผัสละมุนนุ่มลึกกว่าวอดก้าทั่วไป แถมยังมีกลิ่นตะไคร้อีกด้วย หรือจะเป็นเมสคัล (Mezcal) เหล้าประเภทเดียวกับเตกีลา แต่มีกระบวนการทำเหล้าที่พิถีพิถันและซับซ้อนกว่าเตกีลา และมักจะทำขึ้นที่โรงงานเล็กๆ ประจำตระกูลของผู้คนแถวเม็กซิโก
Snow White Raised a Cow
The Ice Cream
ไอศกรีมสกู๊ปแรก Snow White Raised a Cow (ไอศกรีม 80 บาท / ไอศกรีมจับคู่รัม 150 บาท) เปรียบความขาวของไอศกรีมเหมือนดั่งสโนว์ไวต์ ก้อนนี้เป็นไอศกรีมนมรสละมุนลิ้น เด็กๆ สั่งแค่นี้ก็พอ ถ้าโตแล้วและอยากกินแบบจับคู่ไอศกรีมกับเหล้า แนะนำให้จับคู่กับรัม ซึ่งรัมที่เสิร์ฟมาจากแคริบเบียน ได้จากการหมักสับปะรดทั้งเนื้อและเปลือกเข้าด้วยกัน ให้กลิ่นหอมชวนนึกถึงไอศกรีมรัมเรซิ่น แต่ลืมลูกเกดไปซะ เพราะนี่คือคราฟต์สปิริตแพริ่ง จับคู่เหล้ากับไอศกรีม ให้ความเก๋ไก๋ไม่แพ้ไวน์แพริ่งเลยทีเดียว
ไอศกรีมรสไวต์ช็อกโกแลตเพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยโฮมเมดบราวนี มีหน้าตาเป็นจุดๆ คล้ายเจ้าดัลเมเชียน
สกู๊ปที่สอง Dalmatian Choc (ไอศกรีม 80 บาท / ไอศกรีมจับคู่เมสคัล 275 บาท) ไอศกรีมรสไวต์ช็อกโกแลตที่เพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยโฮมเมดบราวนี นุ่มหนึบหนับเวลาทาน แถมยังมีหน้าตาเป็นจุดๆ คล้ายจุดบนสุนัขพันธุ์ดัลเมเชียน ชวนนึกถึงการ์ตูนคลาสสิกของ Walt Disney เรื่อง 101 Dalmatians (เราหวังว่าที่ร้านจะทำรส Cruella de Vil ในเร็ววัน) สำหรับไอศกรีมไวต์ช็อกบราวนีสามารถจับคู่กับเบอร์เบิน หรือถ้าเป็นสายดื่มและหลงใหลในความลึกลับซับซ้อนของกลิ่นสโมกกี้ของเมสคัล จะเลือกสั่งมาราดไอศกรีมทานคู่กันก็ดีไม่น้อย
Join the Dark Side, We Got Beer
แม้จะมีไอศกรีมผสมคราฟต์สปิริตหลายตัวให้ลิ้มลอง ยังมีไอศกรีมผสมเบียร์มาให้ลองชิมกันด้วย Join the Dark Side, We Got Beer (ไอศกรีม 150 บาท / ไอศกรีมจับคู่เบอร์เบิน 220 บาท) ไม่มีอะไรมากไปกว่าดาร์กช็อกโกแลตกับพอร์ตเตอร์เบียร์ไอศกรีม 2 ความเข้มที่เข้าคู่กัน แต่เมื่อนำมาจับคู่กับเหล้าต้องเบอร์เบินเท่านั้น ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะหม่ำจนหมดไปตั้งแต่เมื่อไรเรายังจำไม่ได้เลย
Who Lives in a Pineapple Under the Sea?
ตัวการ์ตูนไหนที่อยู่ในบ้านทรงสับปะรดใต้ทะเล? เจ้า Spongebob ไงจะใครล่ะ รสนี้ตั้งชื่อเพื่ออุทิศแด่เจ้าฟองน้ำเหลืองโดยเฉพาะ Who Lives in a Pineapple Under the Sea? (ไอศกรีม 150 บาท / ไอศกรีมจับคู่รัม 220 บาท) ไอศกรีมเหล้ารสนี้ตั้งชื่อเกี่ยวข้องกับสับปะรด เพราะมีส่วนผสมของเหล้าที่ได้จากสับปะรดอย่างรัมที่เราพูดถึงเมื่อตอนต้น ไหนๆ ก็เป็นไอศกรีมรสรัมแล้ว ทำไมจะจับคู่กับรัมอีกไม่ได้ล่ะ จริงไหม
ติน-ติน-กิน-จิน ไอศกรีมราสเบอร์รีปั่นผสมพรีเมียมจินจากอังกฤษ
ส่วนใครที่อยากได้ไอศกรีมเหล้าแบบใสๆ แนะนำให้ปรึกษา Tintin ตัวการ์ตูนหนุ่มเบลเยียม ไอศกรีมรสเปรี้ยวผสมแอลกอฮอล์ Tin Tin Gin Gin (ไอศกรีม 150 บาท / ไอศกรีมจับคู่จิน 220 บาท) อ่านว่า ติน-ติน-กิน-จิน ตัวนี้เป็นไอศกรีมราสป์เบอร์รีปั่นผสมพรีเมียมจินจากอังกฤษ ถ้ายังไม่รู้ว่าจินคืออะไร ลองมาหาคำตอบได้จากไอศกรีมสกู๊ปนี้
Met ไวน์สัญชาติเยอรมันที่ทำจากน้ำผึ้ง
นอกจากคราฟต์สปิริตไอศกรีมก็ยังมีเครื่องดื่มแนวคราฟต์อีกหลายตัวให้ลอง Met (220 บาท) หากทารินไม่บอกว่าแก้วนี้คือไวน์เราก็คงไม่รู้ เพราะ Met เป็นไวน์สัญชาติเยอรมนีที่ทำจากน้ำผึ้ง เป็นเครื่องดื่มต้นตำรับที่สืบทอดมาจากชาวไวกิ้งในสแกนดิเนเวีย รสชาติหอมหวาน ดื่มง่าย และต้องเสิร์ฟแบบออนเดอะร็อกเท่านั้น
ออร์แกนิกจินจากเยอรมัน ใช้จูนิเปอร์และสมุนไพรที่หาได้จากแคว้นบาวาเรีย
แล้วถ้าอยากจิบเหล้าแต่ไม่อยากลองอะไรแปลกๆ ชอบแบบเบสิก แต่ไม่เอาออนเดอะร็อก ควรดื่มอะไรดี? เราแนะนำ Granit Gin & Tonic (380 บาท) หรือจินกับโทนิกนั่นแหละ ทารินเลือกที่จะนำเสนอ Granit Gin ออร์แกนิกจินจากเยอรมนี ใช้จูนิเปอร์และสมุนไพรที่หาได้จากแคว้นบาวาเรีย ก่อนที่จะเสร็จขั้นตอนกลั่นเหล้าจิน เหล้าแบรนด์นี้จะถูกนำมากรองอีกชั้นด้วยหินแกรนิต จึงเป็นที่มาของชื่อ Granit Gin นั่นเอง เวลาเสิร์ฟจะมาพร้อม Fentimans Tonic Water น้ำโทนิกจากอังกฤษที่ผสมพืชพรรณและสมุนไพรหลายชนิด
What You Should Know:
- Mezcal จัดเป็นเหล้าประเภทเดียวกับเตกีลา มีต้นกำเนิดในเม็กซิโก ซึ่งมักจะผลิตโดยโรงงานเล็กๆ โดยใช้ใบอะกาเว (Agave) กลบดินแล้วเผาเพื่อให้มีกลิ่นรมควันหอมฉุย
- นอกจากไอศกรีม ทางร้านยังจำหน่ายคราฟต์สปิริตอีกด้วย โดยเน้นไปที่คราฟต์สปิริตจากฝั่งเยอรมนีเป็นหลัก
- หลายคนอาจจะเคยได้ยินแต่อาจไม่เก็ตว่า Gin & Tonic คืออะไร แต่หากพูดถึงวอดก้า แทบทุกคนน่าจะรู้จักดี ซึ่งจินก็คือหนึ่งในผลผลิตจากวอดก้า โดยเกิดขึ้นเมื่อนำวอดก้าไปกลั่นอีกรอบ พร้อมผสมผลจูนิเปอร์ สมุนไพรหรือเครื่องเทศเพื่อไปอินฟิวส์กับวอดก้า จนได้เป็น ‘จิน’ เหล้าสีใสกิ๊กที่หากให้แยกแยะด้วยตาเปล่าระหว่างจินกับวอดก้าก็คงบอกไม่ถูก แต่ถ้าให้ลองชิมก็จะพบว่าจินมีความนุ่มและละมุนกว่าวอดก้า (โดยส่วนใหญ่) ซึ่งถ้ากระดกเหล้าจินเพียวๆ หรือดื่มแบบออนเดอะร็อกก็ดูไม่เข้าท่าสักเท่าไร ถ้ามาผสมกับโทนิกจะดื่มง่ายขึ้นและยังคงคาแรกเตอร์ของจินเหมือนเดิม โดยโทนิกก็คือน้ำอัดก๊าซคล้ายโซดา แต่เพิ่มควินินเข้าไปด้วย ในสมัยก่อนโทนิกเป็นยารักษาโรคมาลาเรีย แต่ปัจจุบันกลายเป็นมิกเซอร์เสียอย่างนั้น…
Ryn Cafe [ปิดถาวร]
Open: เปิดวันจันทร์ถึงเสาร์ เวลา 11.00-00.00 น.
Address: ปากซอยสุขุมวิท 34 กรุงเทพฯ
Budget: เริ่มต้นที่ 80 บาท
Contact: โทร. 09 5151 9914, www.facebook.com/ryncafe
