ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ระหว่างการให้สัมภาษณ์พิเศษว่า ขณะนี้ยูเครนยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO โดยระบุว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนต้องจบลงก่อนที่ชาติสมาชิกจะสามารถพิจารณารับยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้
อย่างไรก็ตาม ไบเดนเปิดเผยว่า สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร NATO จะเดินหน้าส่งมอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงและอาวุธแก่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี และกองกำลังของยูเครนตามที่พวกเขาต้องการ เพื่อให้สงครามที่เกิดขึ้นในดินแดนแห่งนี้สิ้นสุดลงโดยเร็ว
คำกล่าวของไบเดนมีขึ้นก่อนที่เขาจะเดินทางไปยังยุโรปเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของ NATO ในลิทัวเนีย โดยหนึ่งในวาระสำคัญของการประชุมที่จะเปิดฉากขึ้นนั่นคือเรื่องของสงครามในยูเครน และการที่เซเลนสกีพยายามผลักดันให้ยูเครนเป็นสมาชิกรายใหม่ของ NATO
“ผมคิดว่า ณ ตอนนี้เสียงจากที่ประชุมคงยังไม่เป็นเอกฉันท์สำหรับประเด็นที่ว่าเราจะพิจารณาให้ยูเครนเป็นสมาชิกหรือไม่ ในช่วงเวลาที่สงครามยังคุกรุ่น” ไบเดนกล่าว “ถ้าคุณทำอย่างนั้น…หากสงครามยังคงยืดเยื้อ ก็แสดงว่าชาติสมาชิกทุกชาติอยู่ในสงครามด้วย แปลว่าเรากำลังทำสงครามกับรัสเซีย”
นอกจากนี้ ไบเดนเผยว่าเขาได้หารือกับเซเลนสกีอยู่เป็นระยะเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่าเขาได้บอกผู้นำยูเครนว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าส่งมอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับยูเครน เหมือนเช่นที่เคยทำกับอิสราเอลในระหว่างที่ดำเนินกระบวนการนี้
“ผมคิดว่าเราต้องกำหนดเส้นทางที่เหมาะสมสำหรับยูเครนเพื่อให้มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO” ไบเดนกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 กรกฎาคม) สหรัฐฯ ประกาศว่าจะจัดส่งระเบิดลูกปราย (Cluster Munitions) ให้กับยูเครนตามคำขอเป็นครั้งแรก ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน เนื่องจากระเบิดลูกปรายถูกมองว่าเป็นอาวุธร้ายแรงที่ปัจจุบันถูกแบนในกว่า 120 ประเทศ ซึ่งในกรณีนี้ไบเดนกล่าวว่า “มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก” ในการจัดส่งอาวุธซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนัก แต่เขาเชื่อว่านี่เป็นสิ่งจำเป็น เพราะกระสุนของยูเครนกำลังจะหมดลง
ภาพ: CNN
อ้างอิง:
