×

ชาวรัสเซียชาตินิยม ‘โกรธเกรี้ยว’ แค่ไหน หลังกองทัพถดถอยครั้งใหญ่ในสงครามยูเครน

12.09.2022
  • LOADING...
สงครามยูเครน

สถานการณ์สงครามยูเครนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลายเป็นข่าวใหญ่ที่น่าจับตามอง หลังกองทัพยูเครนเริ่มปฏิบัติการโต้กลับกองทัพรัสเซียอย่างหนักหน่วงและฉับพลัน ด้วยการบุกยึดคืนหลายเมืองสำคัญในจังหวัดคาร์คีฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ส่งสัญญาณของการ ‘พลิกสถานการณ์’ ที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสงครามนี้

 

หลายเมืองที่ยึดคืนได้รวมไปถึงอิซิอุม (Izium) และคูเปียนสก์ (Kupiansk) อันเป็นจุดยุทธศาสตร์และเส้นทางจัดส่งเสบียงหลักในแนวรบทางตะวันออกของกองทัพรัสเซีย

 

โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยถึงการล่าถอยของกำลังพล ชนิดที่ทิ้งอาวุธและกระสุนไว้มากมายว่าเป็นการ ‘ตั้งใจ’ ที่จะล่าถอย เพื่อเปิดทางให้มีการรวมกำลังพล (Regroup) และเสริมกำลังรบในแนวหน้าของแคว้นโดเนตสก์ (Donetsk) และอ้างว่ากองทัพรัสเซียได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีฐานที่มั่นของทัพยูเครนหลายจุดในคาร์คีฟ ซึ่งเป็นการโจมตีของกองกำลังทางอากาศ และการยิงขีปนาวุธและปืนใหญ่โจมตีอย่างแม่นยำ จนทำให้ฝ่ายยูเครนเองก็สูญเสียไปไม่น้อยเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้กองทัพยูเครนยังคงรุกคืบอย่างหนัก และคาดว่าอาจพุ่งเป้าไปถึงการบุกยึดคืนแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ในภูมิภาคดอนบาส ที่รัสเซียประกาศรับรองเอกราชไปก่อนหน้านี้

 

สิ่งที่เกิดขึ้นในสายตาของยูเครนและนักวิเคราะห์ผู้ติดตามสถานการณ์มองว่านี่เป็นความ ‘ถดถอย’ และความ ‘ล้มเหลว’ ครั้งใหญ่สุดของรัสเซีย นับตั้งแต่เปิดฉาก ‘ปฏิบัติการพิเศษทางทหารเต็มรูปแบบ’ ในยูเครนมานานกว่า 6 เดือน

 

ในขณะที่ผู้นำกองทัพรัสเซียและกลุ่มชาวรัสเซียชาตินิยมจำนวนมากมองว่ามีความ ‘จำเป็นอย่างยิ่ง’ ที่รัฐบาลเครมลินจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงด้านยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ ซึ่งอาจหมายถึงการประกาศสงครามเพื่อระดมพลทั้งประเทศหากไม่ต้องการพ่ายศึกครั้งนี้ต่อยูเครน

 

สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามแผน

รัมซาน คาดีรอฟ (Ramzan Kadyrov) ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน พันธมิตรของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งมีกองกำลังร่วมรบกับทหารรัสเซียอยู่ในแนวหน้า โพสต์คลิปข้อความเสียงความยาว 11 นาที ในแอปพลิเคชัน Telegram ปฏิเสธการสูญเสียเมืองอิซิอุม ในขณะที่วิจารณ์ผลงานของกองทัพรัสเซีย

 

เขายอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นไปตามแผน และระบุว่าหากวันนี้หรือพรุ่งนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร เขาจะถูกบังคับให้ไปหาผู้นำรัสเซียเพื่ออธิบายให้พวกเขาทราบถึงสถานการณ์ภาคสนาม

 

“ผมไม่ใช่นักยุทธศาสตร์เหมือนพวกในกระทรวงกลาโหม แต่เห็นได้ชัดว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ผมคิดว่าพวกเขาจะได้ข้อสรุปบางอย่าง”

 

คาดีรอฟยังประกาศว่า พื้นที่ซึ่งถูกยูเครนบุกยึดคืนไปทั้งหมดจะกลับมาอยู่ในการควบคุมของรัสเซียอีกครั้ง และมั่นใจในกำลังพลที่เตรียมพร้อมไว้สำหรับสถานการณ์เช่นนี้

 

“เรามีคนของเราอยู่ที่นั่น นักรบที่เตรียมไว้โดยเฉพาะสำหรับสถานการณ์เช่นนี้ นักรบอีก 10,000 คน พร้อมที่จะเข้าร่วมกับพวกเขา เราจะไปถึงโอเดสซาในระยะเวลาอันใกล้ที่สุด”

 

มอสโกยังเงียบ

ท่าทีอันนิ่งเฉยของผู้นำเครมลิน ตั้งแต่ปูติน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือแม้แต่ เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ ต่อสถานการณ์รบในยูเครน ก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ชาวรัสเซียชาตินิยมและผู้สนับสนุนรัสเซีย ที่พากันแสดงความเห็นกราดเกรี้ยวในโซเชียลมีเดีย

 

โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (10 กันยายน) ซึ่งเป็นช่วงที่กองทัพรัสเซียกำลังล่าถอยจากการโจมตีอย่างหนักของยูเครน ปรากฏว่าปูตินยังคงไปร่วมพิธีเปิดชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ณ สวนสนุกแห่งหนึ่งในมอสโก ราวกับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสมรภูมิ ในขณะที่บรรยากาศบริเวณจตุรัสแดงยังมีการจุดดอกไม้ไฟอย่างสวยงาม เพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งเมืองครบ 875 ปี ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุข

 

ที่ผ่านมาปูตินเคยกล่าวไว้ว่า ทหารรัสเซียที่ตกเป็นเหยื่อในปฏิบัติการทางทหารในยูเครนนั้นถือว่าได้ ‘สละชีวิตเพื่อรัสเซีย’

 

ในช่วงแรกที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ยอมออกมาแสดงท่าทีหรือตอบคำถามใดๆ ต่อสถานการณ์ในยูเครน ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจอย่างมากต่อกลุ่มผู้สนับสนุนการทำสงครามของรัสเซีย ที่พากันโพสต์ข้อความกราดเกรี้ยวในโซเชียลมีเดีย

 

“พวกมันกำลังฉี่อยู่มั้ง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาปิดปากและไม่พูดอะไรนะ เรื่องนี้มันทำให้เจ็บใจอย่างร้ายแรง” หนึ่งในบล็อกเกอร์ผู้สนับสนุนการทำสงครามของรัสเซีย ซึ่งใช้ชื่อว่า Rybar โพสต์ข้อความใน Telegram

 

กระทั่งกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ในวันเสาร์ ประกาศข่าวการอนุญาตให้กำลังทหารล่าถอยออกมาจากคาร์คีฟ เพื่อ ‘รวมกลุ่มใหม่’ และมุ่งเน้นการรบไปยังแนวหน้าในแคว้นโดเนตสก์

แต่กลายเป็นว่าแถลงการณ์ที่ออกมากลับยิ่งสร้างความโกรธเคืองมากขึ้นไปอีกสำหรับเหล่าบล็อกเกอร์และชาวเน็ตผู้สนับสนุนรัสเซียที่ต้องการให้เครมลินทำอะไรมากกว่านี้

 

ไม่ระดมพลทั้งประเทศ อาจถึงขั้นพ่ายสงคราม?

อิกอร์ เกอร์คิน (Igor Girkin) อดีตทหารผ่านศึกรัสเซียและอดีตเจ้าหน้าที่ FSB หรือหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น ‘ชาวรัสเซียชาตินิยม’ ที่เคยมีบทบาทในการผนวกรวมแคว้นไครเมียเข้ากับรัสเซีย และเป็นผู้บัญชาการรบที่นำกลุ่มกบฏในแคว้นโดเนตสก์เปิดฉากสงครามดอนบาสเมื่อปี 2014 กล่าวถึงการถดถอยของกองทัพรัสเซียในครั้งนี้ โดยเปรียบเทียบกับความพ่ายแพ้ของรัสเซียในยุทธนาวีมุกเดน (Battle of Mukden) หรือสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1905 ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของรัสเซีย ที่นำมาสู่การปฏิวัติภายในประเทศ

 

เกอร์คินซึ่งไม่หวั่นเกรงการวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำระดับสูงของเครมลิน กล่าวถึงชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียว่าเป็นเพียง ‘จอมพลกระดาษแข็ง’ และเน้นย้ำว่ารัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนแน่หากยังไม่ประกาศระดมพลทั้งประเทศเพื่อสู้ศึกในครั้งนี้

 

สำหรับรัฐบาลเครมลินแล้ว ความโกรธแค้นของกลุ่มชาตินิยมต่อความล้มเหลวของกองทัพนั้นอาจน่ากลัวกว่าเสียงวิจารณ์ของพวกเสรีนิยมที่สนับสนุนตะวันตกและต่อต้านปูติน

 

โดยผลสำรวจความเห็นของประชาชนรัสเซียส่วนใหญ่จนถึงตอนนี้ ยังคงสนับสนุน ‘ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร’ ของกองทัพรัสเซียในยูเครน

 

แต่กระแสวิจารณ์และความเคลื่อนไหวในเชิงต่อต้านรัฐบาลปูตินในระดับทางการ เริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 

 

โดย 7 ส.ส. จากเขตเทศบาลสมอลนี (Smolny) ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ถูกตำรวจเรียกตัวหลังจากที่พยายามส่งหนังสือแก่สภาล่างหรือสภาดูมา เพื่อเรียกร้องให้ขับปูตินออกจากตำแหน่ง ในข้อหากบฏจากการตัดสินใจเปิดฉากบุกยูเครนโดยปราศจากการยั่วยุ และสงครามที่เกิดขึ้นได้ทำลายความมั่นคงของรัสเซีย

 

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สภาเทศบาลเขตโลโมโนซอฟสกี (Lomonosovsky) ของมอสโก ยังได้ประกาศการตัดสินใจภายหลังการประชุมเมื่อวันที่ 8 กันยายน เรียกร้องให้ปูตินลาออก โดยให้เหตุผลว่า ‘ทุกอย่างนั้นผิดพลาด’ นับตั้งแต่ที่ปูตินเริ่มรับตำแหน่งสมัยที่ 2 และพวกเขาเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงอำนาจเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ของชาติ และกล่าวหาท่าทีอันแข็งกร้าวของปูตินว่าทำให้รัสเซียกลับสู่ยุคสงครามเย็น

 

ด้าน เซอร์เก มิโรนอฟ ผู้นำพรรค ‘จัสต์ รัสเซีย’ ซึ่งเป็นฝ่ายค้านเพียงในนามและแท้จริงเป็นพันธมิตรของปูติน ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ถึงการแสดงดอกไม้ไฟเพื่อฉลองวันก่อตั้งมอสโกว่าควรจะยกเลิกเสีย หากคำนึงถึงสถานการณ์ทางทหารที่กำลังเกิดขึ้น

 

เช่นเดียวกับ เซมยอน เปกอฟ นักข่าวสงครามของรัสเซีย โพสต์ข้อความทาง Telegram ว่าการเฉลิมฉลองในมอสโกนั้นเป็นการดูหมิ่นต่อเหล่าทหารที่กำลังเผชิญสถานการณ์ในยูเครน พร้อมปฏิเสธท่าทีของรัฐบาลเครมลินที่ไม่ยอมประกาศสงครามเต็มรูปแบบว่าเป็นโรคจิตเภทอย่างหนึ่ง

 

“รัสเซียจะกลายเป็นตัวเองได้ ผ่านการกำเนิดของชนชั้นสูงทางการเมืองใหม่หรือไม่ก็จะสิ้นสุดดำรงอยู่ไป” ข้อความระบุ

 

ภาพ: Office of President of Ukraine / Instagram

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising