สีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการ ‘Robinhood’ แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเตรียมระดมทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของแพลตฟอร์ม Robinhood ขึ้นเป็น ‘ซูเปอร์แอปฯ’ ที่พร้อมรองรับการเป็นผู้ให้บริการในระดับภูมิภาค (Regional Player) ภายในปี 2565
โดยผู้บริหาร Robinhood เล่าถึงแผนการเติบโตทางธุรกิจในปีหน้าว่า ในส่วนของธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี ซึ่งเป็นธุรกิจเริ่มต้นของ Robinhood จะมีการขยายขอบเขตการให้บริการสู่ต่างจังหวัด โดยจะเริ่มนำร่องที่ 3 จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ศักยภาพและมีความต้องการบริการด้านฟู้ดเดลิเวอรีสูง
ขณะเดียวกัน บริษัทจะเดินหน้าเพิ่มศักยภาพและคุณภาพของร้านค้าและไรเดอร์ ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น เน้นสนับสนุนและช่วยเหลือร้านค้าที่ช่วยลูกค้า นอกจากนี้ ยังเตรียมผสานพลังความร่วมมือกับบริษัทในกลุ่ม SCBX เช่น Auto X, Card X, Data X, SCB Tech X เป็นต้น ในการหาลูกค้า (Customer Acquisition) พร้อมการนำเอาดาต้ามาต่อยอดด้านสินเชื่อ และบริการทางการเงินอื่นๆ การทำโฆษณา การทำโปรโมชันกับลูกค้า เพื่อประโยชน์สูงสุดของร้านค้าและลูกค้า
“ปัจจุบัน Robinhood ฟู้ดเดลิเวอรีมีฐานลูกค้าที่ลงทะเบียนใช้งานจำนวน 2.3 ล้านคน มีจำนวนร้านค้าที่เปิดให้บริการบนแอปฯ กว่า 164,000 ร้าน มีไรเดอร์ 26,000 คน มีจำนวนออร์เดอร์ต่อวันเฉลี่ยอยู่ที่ 150,000 ออร์เดอร์ ในปีหน้าเราตั้งเป้าว่าจะมีฐานลูกค้าในส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4 ล้านคน และมีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นเป็น 3 แสนร้านค้าตามการขยายฐานบริการออกสู่ต่างจังหวัด” สีหนาทกล่าว
สีหนาทกล่าวอีกว่า นอกจากการรุกธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีต่อเนื่องแล้ว ในปีหน้าบริษัทจะมีการขยายแพลตฟอร์ม Robinhood เข้าสู่ 3 ธุรกิจใหม่ที่เป็น Non-Food ได้แก่
- บริการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน กิจกรรมท่องเที่ยว รถเช่า ประกันภัย (Online Travel Agent) เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก และช่วยผู้ประกอบการ SMEs ไม่ต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ตัวแทนในการขายห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์
- บริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า (Mart Service) เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการขาย และเป็นสะพานเชื่อมให้ผู้ประกอบการได้เจอกับลูกค้า Robinhood ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและพร้อมซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ
- บริการรับ-ส่งของ (Express Service) แบบ On-demand เพื่อรองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังขยายตัวแบบก้าวกระโดด
“สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวเราตั้งเป้าว่าในปีหน้าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมให้บริการบนแอปฯ 45,000 ราย และมีทริปการท่องเที่ยวถูกจองผ่านแอปฯ 4.8 แสนครั้ง ขณะที่ธุรกิจ Mart Service ตั้งเป้ามี Outlets เข้าร่วมแอปฯ 8,000-10,000 แห่ง มีฐานลูกค้า 1.5 ล้านราย ส่วนธุรกิจรับ-ส่งของ ตั้งเป้าจะมีฐานลูกค้าองค์กร 5,000 แห่ง และมีธุรกรรม 4,000 ครั้งต่อเดือน” สีหนาทกล่าว
ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการ 3 ธุรกิจใหม่ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า นอกจากนี้บริษัทยังได้วางแผนเตรียมระดมทุนในช่วงกลางปีหน้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของแพลตฟอร์ม และมุ่งพัฒนาบริการสู่การเป็น ‘ซูเปอร์แอปฯ สัญชาติไทย’ อย่างเต็มตัว ที่พร้อมรองรับบทบาทการเป็นผู้ให้บริการในระดับภูมิภาค
“เราคาดว่างบลงทุนเพื่อพัฒนาสู่การเป็นซูเปอร์แอปฯ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปี 2023 จะอยู่ที่ราว 4-5 พันล้านบาท แต่หลังจากนั้นจะต้องระดมทุนต่อ ซึ่งคาดว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 1-3 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มคุยในช่วงกลางปีหน้า อาจจะเป็นรูปแบบ Strategic Partners หรือระดมทุนเป็น Series ตามปกติก็ได้” ธนากล่าว
ธนาประเมินว่า ธุรกิจเดินทางท่องเที่ยวในปีหน้าของ Robinhood จะเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูงสุด เนื่องจากเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวของไทยจะเริ่มกลับมาอย่างจริงจัง อย่างไรก็ดี ธุรกิจส่งอาหารจะยังมีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ และจะเป็นตัวนำลูกค้าเข้ามาใช้บริการธุรกิจอื่นๆ
“ในปีหน้า Robinhood จะยังขาดทุนอยู่ และจะยังไม่ทำกำไรใน 2-3 ปี แต่เราจะขาดทุนลดลงเนื่องจากจะมีธุรกิจ Non-Food ที่ทำรายได้จาก GP เข้ามาช่วย วันนี้เราก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นขนาดกลางแล้ว เราตั้งเป้าจะเป็นผู้เล่นรายกลางที่มีความแข็งแกร่งก่อน ส่วนการจะก้าวขึ้นไปเป็นผู้เล่นรายใหญ่หรือ Big Player อาจต้องเป็นจุดที่เราเข้าไปให้บริการในต่างประเทศได้ 2-3 ประเทศก่อน โดยแผนการขยายบริการไปต่างประเทศขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะออกไปที่ใดบ้าง แต่ที่แน่ๆ จะเป็นประเทศใกล้เคียงในภูมิภาค” ธนากล่าว
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
