หลายคนคงรู้จักและเคยไป Open House แหล่งรวบรวมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่บนชั้น 6 ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งนอกจากจะเป็นเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ที่รวบรวมหนังสือน่าสนใจทั่วโลกก็ยังมีอีเวนต์ประจำทุกเดือน แต่ครั้งนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Rico (ริโค) ร้านอาหารสเปนหนึ่งเดียวในห้างที่เราอยากให้มาลองเปิดประสบการณ์สัมผัสรสชาติร่วมสมัยของสเปนและประเทศโดยรอบ
บรรยากาศโปร่งโล่งสบายภายในร้าน
The Vibe
ด้วยความที่ Rico ตั้งอยู่ในบริเวณ Open House การจัดร้านและบรรยากาศจึงโปร่งโล่ง ตกแต่งด้วยกระเบื้องลวดลายต่างๆ ถอดแบบจากสเปน พร้อมโทนสีจัดจ้านสดใสของผนังและเครื่องจานชาม และครัวเปิดซึ่งเผยให้เห็นเบื้องหลังรสชาติความอร่อยของอาหารทุกจานบนโต๊ะ ด้วยรายล้อมไปด้วยหน้าต่าง จึงทำให้เห็นวิวเมืองกรุงคนละแบบทั้งกลางวันและกลางคืน
สีสันของการตกแต่งยังต่อเนื่องไปถึงอาหาร
The Concept
เชฟจี๋-นิติรัฐ มุละดา ผู้เคยผ่านประสบการณ์ทำงานในร้านอาหารชื่อดังอย่าง 4 Garçons และ Water Library เล่าให้เราฟังถึงคอนเซปต์อาหารซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางออกค้นหารสชาติที่สเปน และหลังจากกลับมาไทยก็ได้เริ่มหยิบจับวัตถุดิบจากสเปนและครีเอตกับทวิสต์ให้มีกลิ่นอายสเปนผสมผสานกับประเทศโดยรอบ Rico จึงไม่ใช่ร้านอาหารสเปนต้นตำรับ หากแต่เป็นความร่วมสมัย แต่ไม่ฟิวชันที่รับประทานง่าย รสชาติดี และนำเสนอวัตถุดิบตลอดจนพืชผักและเครื่องเทศแปลกใหม่ที่หลายคนอาจยังไม่เคยลองมาก่อน อีกทั้งมีลูกเล่นที่แฝงอยู่ในอาหารทุกจานรอให้ผู้รับประทานได้ค้นหา
เชฟจี๋-นิติรัฐ มุละดา
จุดร่วมของวัฒนธรรมการกินของชาวสเปนที่คล้ายชาวไทยคือการแบ่งปันบนโต๊ะอาหาร ซึ่งสำหรับอาหารสเปนจะมีทั้งทาปาส (Tapas) อาหารจัดใส่จานเล็ก มักจะสั่งหลายอย่างเพื่อแบ่งกันรับประทาน และ ปินโชส์ (Pintxos) อาหารชิ้นเล็กที่วางบนจานหรือถาดแล้วเสียบไม้เพื่อให้จิ้มกินได้สะดวก ช่วงเวลาบนโต๊ะอาหารของชาวสเปนโดยเฉพาะมื้อค่ำจึงผ่านไปอย่างช้าๆ และกินเวลาค่อนข้างนาน เพื่อให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับรสชาติอาหาร การพูดคุยกับเพื่อนฝูง และทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ พร้อมด้วยเครื่องดื่มสร้างบรรยากาศครึกครื้นอย่างแซงเกรียหรือไวน์แดง
สีสันสดใสตัวแทนทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
The Dishes
ไม่ว่าจะแวะมานั่งดื่มสังสรรค์หลังเลิกงานหรือดินเนอร์แบบจัดเต็มก็มีเมนูทาปาสและปินโชส์ให้เลือกหลากหลายและจำแนกเป็นหมวดหมู่ เริ่มต้นด้วยอาหารกินเล่นและกับแกล้มไวน์สุดคลาสสิก Spanish Cold Cuts (400 บาท) โคลด์คัตเนื้อ 5 ชนิดนำเข้าจากสเปน ประกอบด้วย Jamón Serrano ขาหมูแฮม, Chorizo ไส้กรอกหมักผสมปาปริก้า, Salchichón หน้าตาคล้ายซาลามี แต่ไขมันแทรกเยอะ พร้อมด้วยพริกไทย, Cecina แฮมจากขาวัวที่ผ่านการตากแห้งจนเหลือเพียงเนื้อและรสชาติเค็มแบบกลมกล่อม และโคลด์คัตประเภทสุดท้าย Mortadella หมูสไลซ์บางๆ คล้ายโบโลญา พร้อมผสมเนื้อมะกอกให้มีรสและสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์
(ซ้าย) ขนมปังไซส์พอดีคำใส่พริกหวานผัดหอมใหญ่,
(ขวา) ไข่วายร้ายคลุกพริกปาปริก้ารสเผ็ดร้อนสมชื่อ,
(ล่าง) บร็อกโคลีย่างจนหอม
Deviled Egg (80 บาท) ไข่ต้มสุกคลุกพริกปาปริก้า คว้านไข่แดงออกมาตีให้เนื้อละเอียด ผสมแตงกวาดอง ไส้กรอกโชริโซ และมัสตาร์ด จะกินรองท้องหรือกินร่วมกันกับปินโชส์และทาปาสจานอื่นก็ได้ ตามมาด้วย Goat Piquillo (180 บาท) ขนมปังท็อปด้วยพริกหวานผัดหอมใหญ่ ชีสนมแพะที่ตีขึ้นจนเป็นเนื้อครีมเบาน่าสัมผัส พริกพิคีโญและถั่วพิสตาชิโอบดราดเดรสซิ่งบัลซามิกรีดักชันปิดท้าย แม้จะมีส่วนผสมของชีสนมแพะ แต่ปินโชส์จานนี้กลับทำออกมาได้อย่างดีและไม่มีความคาว
ลองเพิ่มเมนูทาปาสที่เป็นผักย่างกันบ้าง Grilled Broccolini (280 บาท) เบบี้บร็อกโคลีย่างไฟให้มีกลิ่นรมควันเล็กน้อย จากนั้นราดด้วยน้ำส้มสายชูวิเนเกร็ตต์ที่ทำจากไขมันเจียวหอมๆ ของเนื้อหมู Ibérico Ham ส่วนขา โรยหน้าผักย่างด้วยเนื้อโคลด์คัต Jamón Serrano ไข่ต้มสับ และชีส Manchego มาถึงเมนูขายดีตลอดกาล Charred Octopus (480 บาท) หนวดหมึกยักษ์ซูวีด์นานกว่า 6 ชั่วโมงจนได้เนื้อสัมผัสที่มีความหนึบ เสิร์ฟกับซอสพริกพิคีโญ
(บน) ปลาหมึกยักษ์ย่างเนื้อหนุบหนับ จานนี้อร่อยมาก,
(ล่าง) ปาเอญาทะเลสำหรับทุกคนในบ้าน
นอกจากอาหารจานเล็กๆ ให้สั่งมาลองได้หลายอย่างแล้ว Rico ก็มีอาหารจานใหญ่ให้แชร์กันอย่างจุใจอย่าง Seafood Paella (820 บาท) ข้าวผัดสเปนในกระทะแบน โดยเริ่มจากการนำข้าวไปหุงในน้ำสต็อกที่ได้จากตัวกุ้งและปลาหมึก และหญ้าฝรั่นกับพริกป่นปาปริก้าเพื่อเพิ่มสีสันจัดจ้าน จากนั้นคลุกเคล้าในกระทะกับหอยแมลงภู่ หอยลาย กุ้ง และปลาหมึก เป็นอีกหนึ่งเมนูแชร์กันที่เหมาะชวนคนที่บ้านมารับประทาน
(ซ้าย) Apasionada,
(ขวา) Plum Mojito
The Drinks
ตัดรสจัดจ้านของอาหารด้วยเครื่องดื่มใสๆ ไร้แอลกอฮอล์ที่เกิดจากการมิกซ์ผลไม้เข้าด้วยกัน Apasionada (160 บาท) น้ำเสาวรสกับขิงสดสไลซ์บางผสมโซดา จิบแล้วได้ความสดชื่นแถมยังมีความเผ็ดนิดๆ เป็นลูกเล่น หรือถ้าชอบสไตล์เบอร์รีอยู่แล้ว Bayas (160 บาท) น่าจะเหมาะ เพราะเป็นน้ำมิกซ์เบอร์รีกับมินต์และโซดาที่ชวนสดชื่นทีเดียว
แต่ถ้าอยากลองอะไรที่แปลกใหม่ แนะนำ Plum Mojito (160 บาท) พลัมกับเสาวรส สองผลไม้ที่เสริมรสซึ่งกันและกัน ได้ทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม แต่กลมกล่อมและแก้เลี่ยนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
Rico
Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
Address: ชั้น 6 Open House เซ็นทรัล เอ็มบาสซี กรุงเทพฯ
Budget: เริ่มต้นที่ 160 บาท
Contact: 0 2129 7777
