×

TASTE: Red Lobster พาชิมอาหารร้านซีฟู้ดชื่อดังจากฟลอริดาที่ยกเมนูเด็ดในอเมริกามาเสิร์ฟให้ชิม

23.09.2022
  • LOADING...
Red Lobster

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • Red Lobster เป็นเชนร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังที่เปิดมานานตั้งแต่ปี 1968 มีจุดกำเนิดอยู่ในรัฐฟลอริดา ก่อนต่อมาจะประสบความสำเร็จมากภายในไม่กี่ปี เป็นที่รู้จักจากการเสิร์ฟอาหารทะเลคุณภาพดีในราคาที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้
  • Cheddar Bay Biscuit เมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ไม่ได้มาจากทะเล เพราะเป็นบิสกิตเชดดาร์ชีสทาเนยกระเทียมที่เริ่มฮิตมาตั้งแต่ปี 1992 เนื่องจากร้านทำแจกคนที่มายืนรอคิวกินอาหาร แต่รสชาติและความหอมกลับเตะตาจนต้องนำเข้ามาเป็นเมนูประจำ
  • ถ้าใครอยากลิ้มลองล็อบสเตอร์สดๆ จากมหาสมุทรแอตแลนติกแบบไม่ปรุงแต่ง เราแนะนำให้สั่ง Live Maine Lobster (1,350 บาท) ที่ร้านเลือกใช้เมนล็อบสเตอร์ตัวโตๆ เนื้อหวานนุ่มมาอบพร้อมซอสบัตเตอร์สูตรเฉพาะ ทำให้ล็อบสเตอร์ยังคงความฉ่ำและหวานธรรมชาติ

หลังจากทุกคนเฝ้ารอคอยอย่างตื่นเต้นที่จะได้มีร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังจากฝั่งอเมริกา มาเปิดสาขาแรกอยู่ในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่ ในที่สุดตอนนี้ร้าน ‘Red Lobster’ ก็พร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ พร้อมกับบรรยากาศดูพรีเมียมสมกับวัตถุดิบพระเอกประจำร้าน และหลายเมนูเด็ดที่ยกมาจากฝั่งอเมริกา

 

Red Lobster เป็นเชนร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังที่เปิดมานานตั้งแต่ปี 1968 มีจุดกำเนิดอยู่ในรัฐฟลอริดา ก่อนต่อมาจะประสบความสำเร็จมากภายในไม่กี่ปี เป็นที่รู้จักจากการเสิร์ฟอาหารทะเลคุณภาพดีในราคาที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้

 

และหลังจากเชนมีสาขาอยู่ทั่วโลกกว่า 700 แห่ง ในที่สุดกรุงเทพฯ ก็ได้เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ด้วยการยกทุกเมนูยอดนิยมจากฝั่งอเมริกามาเสิร์ฟให้ทุกคนชิม

 

Red Lobster

 

เมื่อเดินเข้ามาทุกคนจะสังเกตเห็นได้ทันทีว่าร้านเน้นการตกแต่งด้วยเส้นลายโค้งเป็นหลัก เพราะอยากให้มีความรู้สึกเคลื่อนไหวสมกับเป็นร้านอาหารทะเล ผสมกลิ่นอายโมเดิร์นและใส่องค์ประกอบสไตล์อเมริกันไดเนอร์เข้ามาด้วยนิดๆ

 

ส่วนอาหารที่ร้านจะเน้นเมนูล็อบสเตอร์นำเข้าตามฤดูเป็นหลัก แต่ยังมีของกินเล่น ของหวาน ค็อกเทล และม็อกเทลให้สั่งมาชิมได้ด้วย วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปดูกันว่าหากแวะมาที่นี่แล้วมีอะไรไม่ควรพลาด

 

Red Lobster

Red Lobster

 

อันดับแรก Cheddar Bay Biscuit เมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ไม่ได้มาจากทะเล เพราะเป็นบิสกิตเชดดาร์ชีสทาเนยกระเทียมที่เริ่มฮิตมาตั้งแต่ปี 1992 เนื่องจากร้านทำแจกคนที่มายืนรอคิวกินอาหาร แต่รสชาติและความหอมกลับเตะตาจนต้องนำเข้ามาเป็นเมนูประจำ

 

เมื่อมาที่ร้านทุกคนจะได้รับบิสกิตคนละชิ้น แต่หากใครกินไม่สะใจสามารถสั่งเพิ่มได้ มีให้เลือกระหว่าง 6 ชิ้นและ 12 ชิ้น ราคาชิ้นละ 35 บาท

 

Red Lobster

 

Shrimp Cocktail (180 บาท) น่าจะเป็นเมนูที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เพราะเสิร์ฟบ่อยในงานปาร์ตี้ เป็นเมนูกุ้งเสิร์ฟแบบเย็นพร้อมซอสค็อกเทลต้นตำรับ น่าสั่งมากินเล่นระหว่างรออาหาร

 

แนะนำซิกเนเจอร์กินเบาๆ อีกสักอย่าง Lobster Tail Lobster Roll (980 บาท) ถ้าหากถามถึงเมนูล็อบสเตอร์กับชาวอเมริกัน เราเชื่อว่าส่วนใหญ่ก็ต้องแนะนำเมนูนี้ล่ะ

 

โดยของร้าน Red Lobster จะทำตามฉบับคลาสสิก คือนำเนื้อล็อบสเตอร์ทั้งชิ้นไปคลุกซอสมายองเนสและเซเลอรี ก่อนเสิร์ฟมาในขนมปัง กินคู่กับเครื่องเคียงอย่างสลัดและฟรายส์

 

Red Lobster

Red Lobster

 

มาชิมเมนูสำหรับคนอยากกินล็อบสเตอร์แบบจุกๆ กันบ้าง ร้านจะมีให้เลือกหลายสไตล์ตั้งแต่เสิร์ฟแบบเดี่ยวๆ ทั้งตัว หรือมาพร้อมซอสปรุงรส เช่น Spaghetti Aglio Olio with Live Maine Lobster (1,620 บาท) เป็นสปาเกตตีพริกกระเทียมแบบคลาสสิก แต่เสิร์ฟมาพร้อมล็อบสเตอร์สดๆ ที่ปรุงด้วยเนยกระเทียมแบบฉ่ำๆ

 

ร้านบอกว่าล็อบสเตอร์ส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากแคนาดาเป็นหลัก แต่ก็อาจมีการเปลี่ยนแหล่งวัตถุดิบบ้างตามฤดูกาล ราคาก็เช่นกัน

 

Red Lobster

Red Lobster

 

เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากลิ้มลองล็อบสเตอร์สดๆ จากมหาสมุทรแอตแลนติกแบบไม่ปรุงแต่ง เราแนะนำให้สั่ง Live Maine Lobster (1,350 บาท) ที่ร้านเลือกใช้เมนล็อบสเตอร์ตัวโตๆ เนื้อหวานนุ่มมาอบพร้อมซอสบัตเตอร์สูตรเฉพาะ ทำให้ล็อบสเตอร์ยังคงความฉ่ำและหวานธรรมชาติ

 

และหากใครอยากลองแกะเองก็ได้ แต่ที่ร้านก็มีบริการแกะให้เช่นกัน (หลังจากทุกคนถ่ายรูปเสร็จแล้ว)

 

Red Lobster

 

เนื้อส่วนหางของล็อบสเตอร์จะมีความเด้งแน่นที่สุด ถ้าใครอยากสัมผัสแบบเต็มๆ คำ ร้านจะมีเมนูที่ใช้ส่วนหางของล็อบสเตอร์เท่านั้นให้สั่งมาลองด้วย

 

เช่น Duo Lobster Tails (1,550 บาท) เสิร์ฟหางล็อบสเตอร์ 2 ชิ้นมาพร้อมซอสคนละรสชาติ คือซอสคลาสสิกที่โชว์ความหวานและเนื้อสัมผัสล็อบสเตอร์ ส่วนอีกชิ้นเป็นซอสเทอร์มิดอร์รสชาติเข้มข้น 

 

อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าชอบรสชาติแบบไหนมากกว่า ทว่าอย่าลืมบีบเลมอนเพิ่มรสชาติเปรี้ยวๆ หอมๆ ด้วยก็พอ

 

Red Lobster

 

อาหารแนะนำจานสุดท้าย Ultimate Feast (1,950 บาท) เป็นจานรวมเมนูไฮไลต์มาให้ชิมในจานเดียว เราแนะนำสำหรับคนมาครั้งแรกแต่ตัดสินใจเลือกไม่ได้ หรือวันไหนอยากลองหลายๆ อย่าง เพราะเมนูนี้มีครบทั้งหางล็อบสเตอร์ ปูหิมะ กุ้งอบเนย กุ้งทอดกรอบ โดยทุกคนเลือกเครื่องเคียงเพิ่มได้ 2 อย่าง เช่น มันฝรั่ง แอสพารากัส หรือโคลสลอว์

 

Red Lobster

 

ปิดท้ายด้วยของหวานและค็อกเทลที่เป็นเครื่องดื่มจริงๆ โดยร้านจะมีซิกเนเจอร์ค็อกเทลให้สั่งมาลองด้วย เมนูน่าสนใจเช่น Lobsterini Martini (280 บาท) ที่มีกุ้งเสิร์ฟมาให้กินคู่เครื่องดื่ม หรือ Lobsterfest Rum Punch (280 บาท) และ Lobster Rock (250 บาท) ก็เหมาะสำหรับสั่งมาจิบคู่กับอาหารเพื่อเรียกความสดชื่น

 

Red Lobster

 

Red Lobster

 

เมนูขนมซิกเนเจอร์ต้องลองก็มี Signature Strawberry Shortcake (250 บาท) ที่ใช้สตรอว์เบอร์รีสด ซอสสตรอว์เบอร์รี และวิปครีม จัดมาให้แบบเต็มๆ โดนใจคนชอบเมนูสตรอว์เบอร์รีแน่นอน

 

Red Lobster

 

แต่ถ้าเป็นคนชอบของหวานที่หนักแน่นขึ้นมาหน่อย เราบอกเลยว่าอย่าพลาด Flambe Burnt Cheesecake (280 บาท) เป็นชีสเค้กวอลนัตที่มาพร้อมโฮมเมดรัมคาราเมลซอส ก่อนเสิร์ฟจะราดด้วยเหล้ารัมที่จุดไฟให้แอลกอฮอล์ระเหยออกจนหมด แต่ยังคงมีความหอม

 

Red Lobster

 

นอกจากเมนูล็อบสเตอร์ต่างๆ แล้ว ร้านก็ยังมีสเต๊ก เบอร์เกอร์ สลัด ฟิชแอนด์ชิปส์ ให้สั่งมาลองได้อีก ถ้าใครอยากชิมล็อบสเตอร์และอาหารทะเลสดใหม่แบบจุใจสไตล์อเมริกันก็ลองแวะมาได้เลย โดยเราแนะนำให้จองโต๊ะล่วงหน้าเพื่อจะมั่นใจว่าเดินทางไปแล้วได้กินล็อบสเตอร์แน่นอน!

 

Red Lobster

Open: เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.

Address: ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น G

Budget: เริ่มต้น 1,000-2,000 บาท

Facebook: www.facebook.com/redlobsterthailand

Instagram: redlobsterth

Map: https://goo.gl/maps/tS8qMVzidEoCoNdc7

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X