งานวิจัยล่าสุดเผย อัตราการตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แม้หลายประเทศในประชาคมโลกจะให้คำมั่นแก้ไขปัญหานี้ร่วมกัน โดยพื้นที่ป่าไม้ราว 41,200 ตารางกิโลเมตร หรือเทียบเท่าขนาดสวิตเซอร์แลนด์ทั้งประเทศได้รับความเสียหายจากปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าในปี 2022
อัตราการตัดไม้ทำลายป่ายังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยพื้นที่ป่าไม้ขนาดเท่ากับสนามฟุตบอล 11 สนามถูกทำลายลงในทุกๆ 1 นาทีเมื่อปีที่แล้ว โดยบราซิลถือเป็นหนึ่งในประเทศที่สูญเสียพื้นที่ป่าไม้มากที่สุด ขณะที่สถานการณ์ในอินโดนีเซียกลับดีขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น
ทั้งนี้ ผู้นำและผู้แทนประเทศต่างๆ เคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมมือกันยุติปัญหานี้อย่างจริงจังภายในที่ประชุม COP26 ที่จัดขึ้นในสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร เมื่อช่วงปลายปี 2021 โดยประชาคมโลกเห็นพ้องที่จะยุติและฟื้นฟูพื้นที่ป่าและที่ดินเสื่อมโทรมภายในปี 2030 ซึ่งสถิติที่เกิดขึ้นอาจทำให้การทำตามเป้าหมายดังกล่าวเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น
บทวิเคราะห์ล่าสุดโดย Global Forest Watch ระบุว่า ปัจจุบันยังห่างไกลกับคำมั่นสัญญาใหม่ที่เคยให้ไว้ในการประชุมที่สกอตแลนด์ โดยในแต่ละปีการสูญเสียพื้นที่ป่า โดยเฉพาะป่าดิบชื้นและป่าฝนในบราซิล คองโก และอินโดนีเซีย ล้วนส่งผลกระทบอย่างมากต่อความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศ รวมถึงภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่มีแนวโน้มจะยิ่งรุนแรงและแปรปรวนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากพื้นที่ป่าเหล่านี้ล้วนมีส่วนสำคัญในการช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาล
นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า กลไกหรือหน้าที่ของระบบนิเวศเหล่านี้ไม่สามารถชดเชย ทดแทน หรือแทนที่ได้ง่ายๆ ด้วยการปลูกต้นไม้ให้มากยิ่งขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว เพราะป่าเหล่านี้ต่างต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่าที่จะเติบโตสมบูรณ์ และทำหน้าที่ช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศโลกได้ขนาดนี้
ทั้งนี้ ปี 2022 บราซิลสูญเสียพื้นที่ป่าดึกดำบรรพ์มากที่สุดถึง 11 ล้านไร่ ตามมาด้วยดีอาร์คองโก 3.2 ล้านไร่, โบลิเวีย 2.4 ล้านไร่, อินโดนีเซีย 1.4 ล้านไร่, เปรู 1 ล้านไร่ และโคลอมเบีย 8 แสนไร่
แฟ้มภาพ: Savo Ilic / Shutterstock
อ้างอิง: