×

ไทยกลายเป็นประตูนรกสู่เครือข่ายมิจฉาชีพ! รังสิมันต์จี้รัฐบาลหยุดเพิกเฉยต่อขบวนการอาชญากรรมชายแดน

โดย THE STANDARD TEAM
03.04.2024
  • LOADING...

วันนี้ (3 เมษายน) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 2 วาระพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ซึ่งสมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เข้าชื่อกันตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 

 

รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเกี่ยวกับการขาดประสิทธิภาพของรัฐบาลในการจัดการปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และนโยบายต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลเคยแถลงนโยบายว่าจะให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยคุกคามข้ามชาติ และการเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของตำรวจ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 – มิถุนายน 2566 คาดว่าขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ได้สร้างความเสียหายเป็นจำนวน 285,000 คดี คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวถือว่าสูงกว่างบประมาณของกระทรวงต่างๆ เสียอีก

 

รังสิมันต์อธิบายว่า ธุรกิจเหล่านี้ใช้บัญชีม้าในการรับโอนเงิน ทำให้ธนาคารอายัดได้เพียงบัญชีเปล่า แต่สาวไปไม่ถึงตัวการใหญ่ ข้อมูลจากหน่วยความมั่นคงที่ได้รับมายืนยันตรงกัน หนึ่งในเส้นทางการเงินของบัญชีม้าจะถูกโอนไปที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ของพวกต้มตุ๋นหลายขบวนการ ในปี 2552 ด้วยแรงกดดันจากทางการจีนที่ได้รับผลกระทบจากแก๊งเหล่านี้ ทำให้มีการทลายขบวนการนี้อย่างจริงจัง มิจฉาชีพเหล่านี้ต้องหนีไปอยู่ในบ่อนคาสิโนของชนกลุ่มน้อยที่ติดอาวุธในเมียนมา ซึ่งมีกองกำลังของตนเองในการคุ้มครองเหล่ามิจฉาชีพได้

 

“ทั้งหมดนี้นำไปสู่การก่อให้เกิดอภิมหาขบวนการสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนเป็นระบบ ยากต่อการทลายมากที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา”

 

เครือข่ายค้ามนุษย์ จากเล่าก์ก่ายสู่เมียวดี

 

รังสิมันต์ยกตัวอย่างบ่อนคาสิโนที่ได้รับแจ้งว่ามีมิจฉาชีพกระจายตัวอยู่ตามเมืองสำคัญ เช่น เล่าก์ก่าย, ล่าเสี้ยว และเมียวดี ซึ่งมีชายแดนติดต่อกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก รังสิมันต์ได้มีโอกาสพูดคุยกับหนึ่งในผู้เสียหายที่ตัดสินใจไปเสี่ยงโชคหางานในเมียนมาช่วงสถานการณ์โควิด ปรากฏว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์มารับตัวเขาใส่ใต้ท้องรถไปที่เล่าก์ก่าย และเมื่อนายจ้างชาวจีนตรวจสุขภาพก็พบว่าผู้หญิงที่มาด้วยกันกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งนายจ้างชาวจีนจับผู้หญิงไปทำแท้งโดยไม่ให้ตัดสินใจ

 

“ความเสียหายแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ประเทศไทย แต่เกิดขึ้นทั่วโลก ท่านนายกรัฐมนตรีทราบไหมว่าประเทศไทยกลายเป็นประตูปากนรกของขบวนการเครือข่ายสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์ไปอีกแล้ว” รังสิมันต์กล่าว

 

โดยหลังจากเล่าก์ก่ายแตก ขบวนการมิจฉาชีพได้ย้ายมาสมทบที่เมียวดี รังสิมันต์เน้นย้ำว่าเมืองนี้จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญของรัฐบาลนี้ ว่าจะจริงจังกับนโยบายแค่ไหน และเมียวดีกำลังมีอาชญากรรมเฟื่องฟู เพราะอยู่ติดกับอำเภอแม่สอด มีไฟฟ้า น้ำมัน อินเทอร์เน็ต ส่งไปจากไทย มีช่องทางธรรมชาติมากมาย และเจ้าหน้าที่ของประเทศไทยคุยง่าย เป็นความพิเศษที่ทำให้เมืองเมียวดีเป็นแหล่งอาชญากรรมที่ถูกจับตามองจากรัฐบาลทั่วโลก

 

ทรมานแรงงาน ไม่มองเป็นมนุษย์

 

รังสิมันต์ได้ยกตัวอย่างแหล่งคาสิโน 34 แห่ง ที่แฝงขบวนการต้มตุ๋นไว้ เช่น ชเวโก๊กโก่ ซึ่งมีที่ดินถึง 75,000 ไร่ มีเจ้าของชาวจีนชื่อ เสอจื้อเจียง ซึ่งปัจจุบันถูกจับในประเทศไทยโดยหมายจับของทางการจีน และยังมีข่าวว่าเมื่อตอนที่ถูกจับ ชาวจีนคนนี้กำลังรับประทานอาหารอยู่กับชนชั้นสูงของประเทศไทยด้วย และบริษัท หย่า ไท่ ของชาวจีนคนดังกล่าว ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักการเมืองท้องถิ่นในอำเภอแม่สอด และนักการเมืองระดับชาติ

 

“ทราบไหมครับว่าบริษัท หย่า ไท่ เคยมาพรีเซนต์ในกรรมาธิการ Entertainment Complex หรือสถานบันเทิงครบวงจร เมื่อสภาชุดที่แล้ว ไม่ทราบว่าใครเอามา ไม่รู้เหมือนกัน แต่ข่าวแว่วๆ ว่าเป็นพรรคการเมืองของฝ่ายรัฐบาล” รังสิมันต์ระบุ

 

รังสิมันต์ชี้ว่า นี่เป็นโครงการที่ทุนสีเทาพยายามแทรกแซงเข้ามาในประเทศไทย เพื่อสร้างชเวโก๊กโก่ เป็นเมืองแฝดที่ฝั่งแม่สอดด้วย เรื่องเหล่านี้ผู้เสียหายคือชาวไทย พร้อมยกตัวอย่างเมืองอื่นๆ เช่น KK Park ที่เดินทางไปง่ายโดยไร้ ตม. หรือศุลกากรควบคุม และเมืองใหม่หวันหยา ที่ลงทุนโดยบริษัทแห่งหนึ่งที่จดทะเบียนในประเทศไทย ออฟฟิศตั้งอยู่ที่อำเภอแม่สอด ซึ่งเจ้าของพื้นเพเคยเป็นคนไต้หวัน แต่ได้สัญชาติไทย

 

รังสิมันต์ยังเปิดคลิปวิดีโอแสดงความโหดร้ายของแก๊งต้มตุ๋นในเมียวดีและเมืองต่างๆ ที่นายจ้างจีนจะใช้ความรุนแรงลงโทษแรงงานที่ทำไม่ได้ตามเป้า มีทั้งการฟาดด้วยเก้าอี้ ขังในห้องมืด หรือช็อตไฟฟ้า ทำให้บางคนถึงกับตัดสินใจฆ่าตัวตายหรือหลบหนี ส่วนแรงงานที่ไม่อยากหลอกลวงคนอื่นจะมีทั้งการฆ่าเพื่อค้าอวัยวะ หรือบังคับค้าประเวณี เพราะนายจ้างชาวจีนเหล่านี้ไม่มองแรงงานเป็นมนุษย์ด้วยกัน แต่มองเป็นทรัพย์สิน

 

รัฐบาลเกรงใจบ่อนคนมีสี?

 

รังสิมันต์ยังยกตัวอย่างคาสิโนราว 17 แห่งในเมียวดีที่คนไทยเป็นเจ้าของ เช่น เมียวดีคอมเพล็กซ์ ที่มีเจ้าของคือนายตำรวจ ‘พล.ต.ต. อ อ่าง’ ที่ยังคงรับราชการอยู่ในปัจจุบัน มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนในรัฐบาล เคยรับราชการอยู่ที่อำเภอแม่สอดในสมัยรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

 

“บ่อนของคนไทยบางบ่อนเจ้าของก็เคยเป็นถึงอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม บางบ่อนก็อยู่ในโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 17 (ตท. 17) ถ้าไม่ติดว่าผมมีคดีความเยอะแล้วจะเปิดให้หมด” รังสิมันต์กล่าว

 

รังสิมันต์ตั้งคำถามว่า นี่คือเหตุผลที่เป็นอุปสรรคต่อการกวาดล้างขบวนการมิจฉาชีพในเมียวดีหรือไม่ ทำให้รัฐบาลเพิกเฉยต่อการเอาจริงเอาจัง เพราะสุดท้ายแหล่งเงินเหล่านี้ก็จะไปถึงเครือข่ายของพวกตัวเอง ซึ่งเส้นทางไปสู่บ่อนที่ไม่มีทั้ง ตม. หรือศุลกากร ก็ล้วนเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้กำกับของนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น หรือเป็นเพราะรัฐบาลไทยมีความเกรงใจกับบ่อนของคนมีสีทั้งหลาย

 

ท้ายสุด รังสิมันต์ได้เสนอแนวทางผลักดันมาตรการเพื่อสกัดเครือข่ายมิจฉาชีพและการค้ามนุษย์ คือใช้มาตรการทางการทูตและการทหารอย่างจริงจัง โดยศึกษาจากมาตรการของประเทศจีน คุมช่องทางธรรมชาติโดยกวดขันจุดผ่านข้ามแดน ออกมาตรการควบคุมไฟฟ้า น้ำมัน และอินเทอร์เน็ต ที่จะผ่านไปฝั่งเมียนมา และสอบเส้นทางการเงินเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตในแม่สอด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising