×

ทอ. ยืนยันไม่มีการลงโทษทหารใหม่จนตาบอด แพทย์วินิจฉัยเป็นโรคตาขี้เกียจ ไม่ได้มาจากการฝึก วอนสังคมฟังความรอบด้าน

โดย THE STANDARD TEAM
05.07.2023
  • LOADING...
ลงโทษทหาร

วานนี้ (4 กรกฎาคม) พล.อ.ต. ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิป ระบุถึงพลทหารสังกัดหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ร้องว่าถูกทำโทษจนทำให้ตาบอด ว่าขณะนี้ พล.อ.อ. อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้สอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน พร้อมชี้แจงให้สาธารณชนทราบเพื่อแสดงถึงความโปร่งใส

 

โดยอยากขอให้สังคมฟังความอย่างรอบด้าน เนื่องจากกองทัพอากาศมีนโยบายที่ชัดเจน และเน้นย้ำอยู่เสมอไม่ให้มีการทำร้ายร่างกายทหารหรือการลงโทษที่เกินกว่าเหตุในระหว่างการฝึก อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของทหารกองประจำการให้ดีขึ้นมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม หากผลการสอบสวนพบว่ามีการกระทำที่ขัดต่อนโยบายดังกล่าว ก็จะมีการลงโทษตามระเบียบโดยไม่มีข้อยกเว้น

 

พล.อ.ต. ประภาส กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากผู้เกี่ยวข้อง พบว่าเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 พลทหารคนดังกล่าวรายงานตัวเข้ารับการฝึก ณ หน่วยฝึกทหารกองประจำการใหม่ ศูนย์การทหารอากาศโยธิน หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นโรคตาขี้เกียจ

 

วันที่ 16-17 พฤษภาคม 2566 มีการฝึกเบื้องต้น อาทิ ท่าตรง ท่าตามระเบียบพัก ท่าทำความเคารพ และการดำเนินการด้านธุรการต่างๆ ทั้งนี้ พลทหารรายนี้ไม่ได้เข้ารับการฝึกเนื่องจากแจ้งว่าปวดตา จึงได้รับอนุญาตให้พักโดยนอนที่เตียงสนามในเต็นท์ของหน่วยฝึกฯ รอดำเนินการเรื่องสิทธิการรักษาแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ได้เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) กรมแพทย์ทหารอากาศ โดยมีอาการปวดกระบอกตามากทั้งสองข้าง แสบตา น้ำตาไหล ลืมตาไม่ค่อยขึ้น ซึ่งเจ้าตัวแจ้งว่าเป็นมาตั้งแต่เด็ก โดยแพทย์โรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) วินิจฉัยว่าเป็นโรคตาขี้เกียจ สายตามีการมองเห็นที่เลือนรางสองข้าง และได้ทำการรักษาตามอาการ พร้อมทั้งวางแผนทำการตรวจรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยส่งตัวไปพบจักษุแพทย์เฉพาะทางที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ และสุดท้ายได้นัดส่งต่อไปตรวจพิเศษที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพิ่มเติม

 

พล.อ.ต. ประภาส กล่าวว่า ตลอดห้วงเวลาดังกล่าวพลทหารรายนี้ไม่ได้เข้ารับการฝึกแต่อย่างใด และหน่วยฝึกได้จัดบัดดี้ให้คอยดูแลตลอดเวลา ทั้งการรับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำ และการดำเนินชีวิตประจำวันอื่นๆ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการรับส่งพาไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง นอกจากนี้ในระหว่างการตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมองเพื่อหาสาเหตุในการบกพร่องทางสายตา ได้ตรวจพบเนื้องอกขนาดเล็กในสมองอีกโรคหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนกระบวนการตรวจรักษาเช่นกัน ทางหน่วยฝึกกองทัพอากาศได้แจ้งรายละเอียดกับผู้ปกครอง (มารดา) แล้วก่อนหน้านี้ และผู้ปกครองได้รับทราบตกลงให้ทางหน่วยฝึกฯ เป็นผู้ดูแลขณะที่ทำการตรวจรักษา และรอการปลดประจำการ ซึ่งมีขั้นตอนทางกฎหมายที่จะต้องใช้เวลาดำเนินการพอสมควร

 

ส่วนประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความวิตกกังวลและไม่เข้าใจในกระบวนการต่างๆ ทั้งที่ทางหน่วยฝึกฯ ได้ดูแลให้พลทหารได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์และได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องไปทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและตัวพลทหารเพิ่มเติมแล้ว จากการตรวจสอบเรื่องการทำร้ายร่างกายนั้นทั้งจากครูฝึกและทหารกองประจำการในผลัดเดียวกัน กองทัพอากาศขอเรียนยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายหรือการทำโทษพลทหารที่เกินกว่าเหตุแต่อย่างใด

 

“ขอเรียนเพิ่มเติมว่าผู้บัญชาการทหารอากาศให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตทหารกองประจำการ ด้วยการดูแลให้ได้รับสิทธิ สวัสดิการ รวมถึงปรับปรุงสภาพแวดล้อม ที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน และสร้างแรงจูงใจให้เข้ารับราชการในกองทัพอากาศหลังจากปลดประจำการ” พล.อ.ต. ประภาส กล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising