เหตุประท้วงในอินเดียกรณีต่อต้านกฎหมาย ‘ให้สัญชาติอินเดีย’ แก่ผู้อพยพเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายจำนวนหลายล้านคนจาก 3 ประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม ยังคงยกระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ (15 ธันวาคม) สำนักข่าว AFP รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอย่างน้อย 5 รายแล้ว ในจำนวนนี้ 3 ราย เสียชีวิตจากการถูกตำรวจยิง
เหตุประท้วงและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอินเดียมีสาเหตุมาจากกรณีที่รัฐสภาอินเดียได้ผ่านร่างกฎหมาย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อให้กรุงนิวเดลีออกสัญชาติอินเดีย และสิทธิการเป็นพลเมืองกับผู้อพยพที่หนีเข้าประเทศแบบผิดกฎหมายจากอัฟกานิสถาน, บังกลาเทศ และปากีสถาน ก่อนหรือภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2014 แต่ยกเว้นชาวมุสลิม ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากไม่พอใจ และพากันออกมาประท้วงตามท้องถนนเป็นระยะเวลาต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว
มีการเปิดเผยว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 รายนั้น 3 รายเป็นผู้เสียชีวิตจากการถูกยิง อีกรายเสียชีวิตในระหว่างที่นอนพักในร้านค้าแห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกวางเพลิง ขณะที่อีกรายเสียชีวิตระหว่างเข้าปะทะในเหตุชุมนุมประท้วง
ด้าน อามิต ชาห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย ได้ออกมาเรียกร้องให้เกิดความสงบสันติโดยเร็ว และระบุว่า วัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวอินเดียที่อาศัยในด้านตะวันออกเฉียงเหนือจะไม่ถูกคุกคาม และไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด แม้จะมีผู้อพยพจำนวนมากเข้ามาอาศัยก็ตาม
ขณะที่ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เปิดเผยถึงเหตุผลที่อินเดียตัดสินใจผ่านร่างกฎหมาย CAB นี้ว่า เป็นไปเพื่อให้ความช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาคริสต์หรือฮินดูที่อาศัยในอัฟกานิสถาน, บังกลาเทศ และปากีสถาน ซึ่งอาจจะถูกบีบคั้นหรือปฏิบัติอย่างไม่ชอบธรรมจากความแตกต่างด้านศาสนา
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า กฎหมายดังกล่าวที่มีข้อยกเว้นการให้สัญชาติกับผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ก็อาจจะส่งผลให้รากฐานของอินเดียอ่อนแอลงในที่สุด ทั้งยังนำไปสู่การตั้งคำถามด้านความเท่าเทียมของผู้คนและความต่างด้านศาสนาอยู่ดี
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
