×

Private Equity จะทำผลตอบแทนยากลำบากขึ้นในยุคสิ้นสุดของอัตราดอกเบี้ยต่ำ

16.01.2024
  • LOADING...
Private Equity

Marc Nachmann ผู้บริหารฝ่ายบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งระดับโลกของ Goldman Sachs กล่าวว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า Private Equity จะแตกต่างจากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะจะไม่สามารถพึ่งพาการกู้ยืมเงินท่ีถูกได้อีกต่อไป และจะต้องปรับปรุงการดำเนินการ เพื่อไปสู่รากฐานของการจัดหาข้อตกลงที่ดีและการปรับปรุงการปฏิบัติงานของบริษัท

 

ทศวรรษของอัตราดอกเบี้ยต่ำที่เกิดขึ้นหลังวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008-2009 ทำให้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Private Equity เนื่องจากผู้จัดการกองทุนเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากหนี้ที่ถูก เพื่อเริ่มซื้อกิจการอย่างสนุกสนาน อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้มูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นและลดต้นทุนของเงินทุน อย่างไรก็ตาม การสร้างผลตอบแทนวิธีนี้นั้นเริ่มยากมากขึ้น  

 

แม้นักลงทุนจะมองว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะถึงจุดสูงสุดแล้ว หลังจากการเพิ่มดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง Nachmann เตือนว่า Private Equity จะต้องมีวิธีการดำเนินการที่แตกต่างจากที่เคยประสบความสำเร็จในทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทหุ้นนอกตลาดจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

 

ที่ผ่านมา Private Equity ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งทำให้การประเมินมูลค่าลดลง และทำให้ต้นทุนของข้อตกลงทางการเงินเพิ่มขึ้น นี่หมายความว่ารูปแบบธุรกิจในปัจจุบันของ Private Equity อยู่ภายใต้ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้น

 

Nachmann กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนในหุ้นนอกตลาดกำลังเจาะลึก เพื่อดูว่าบริษัทต่างๆ สร้างผลตอบแทนได้อย่างไร โดยพยายามวัดว่าผลการดำเนินงานนั้นเกิดจากการยกระดับหรือการปรับปรุงการปฏิบัติงานหรือไม่ เขาแนะนำว่า Private Equity สามารถกลับไปสู่วิธีการทำงานก่อนหน้านี้ได้ เมื่อมุ่งเน้นไปที่การกำหนดเป้าหมายไปที่บริษัทที่อ่อนแอ และทำการปรับปรุงภายในที่สำคัญมากขึ้น

 

การลงทุนใน Private Equity คือการลงทุนในหุ้นนอกตลาดหรือหุ้นของบริษัทที่ยังไม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันมีบริษัทจำนวนมากที่มีศักยภาพ แต่มีเพียง 1% เท่านั้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Private Equity จึงเป็นโอกาสให้กองทุนสามารถเข้าไปร่วมลงทุนได้

 

สำหรับในประเทศไทย Private Equity กำลังเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่นักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามากที่สุด การลงทุนใน Private Equity สามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีและลดความผันผวนให้กับพอร์ตการลงทุนได้  

 

ล่าสุดตระกูลจิราธิวัฒน์เตรียมตั้งกองทุน Private Equity Fund มูลค่าหมื่นล้าน ด้านโรงแรม-อสังหา โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้จัดทำโครงการวีซ่าฟรีในหลายประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเติบโตต่อเนื่อง ทางบริษัท ซีจี แคปปิตอล แอดไวซอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท Private Equity Fund ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ จะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมในวันที่ 16 มกราคมนี้ พร้อมประกาศนโยบายการลงทุน รวมทั้งทิศทางในการดำเนินธุรกิจ และพัฒนาโครงการแรกที่ภูเก็ต ‘The Standard Residences Phuket Bangtao’ โครงการคอนโดมิเนียมเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายการลงทุนของบริษัท

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising