สหราชอาณาจักรและทั่วโลกร่วมอาลัยเจ้าชายฟิลิป พระราชสวามีคู่บารมีควีนเอลิซาเบธที่ 2

สหราชอาณาจักรไว้อาลัยทั่วประเทศ หลังสำนักพระราชวังบักกิงแฮมแถลงการณ์การสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร

แถลงการณ์ระบุว่า “เป็นเรื่องเศร้าสลดอย่างสุดซึ้งที่สมเด็จพระราชินีนาถทรงประกาศการสิ้นพระชนม์ของพระสวามี เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระองค์ทรงจากไปอย่างสงบในเช้าวันนี้ ณ ปราสาทวินด์เซอร์ การประกาศใดๆ จะมีขึ้นต่อไปเมื่อถึงเวลาอันสมควร ราชวงศ์อังกฤษร่วมกับผู้คนทั่วโลกแสดงความอาลัยต่อการสูญเสียพระองค์”

สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ของอังกฤษ ทั้ง BBC, ITV, และ Channel 4 ตัดเข้าสู่การรายงานข่าวด่วนเกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์และสารคดีพระราชประวัติ ธงยูเนียนแจ็คที่พระราชวังบักกิงแฮมถูกลดลงครึ่งเสา ประชาชนเริ่มรวมตัวกันที่หน้าปราสาทวินด์เซอร์ วางดอกไม้และการ์ดเพื่อร่วมแสดงความอาลัยหน้าปราสาท

พระองค์ถือเป็นพระราชสวามีในพระมหากษัตริย์ที่ทรงดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ พระองค์ทรงเข้ารับการรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาล King Edward VII ในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ และจากนั้นทรงรับการรักษาอาการทางพระหทัยที่ทรงประสบอยู่ก่อนแล้ว ณ โรงพยาบาลอีกแห่งในกรุงลอนดอนเช่นกัน และเสด็จออกจากโรงพยาบาล King Edward VII กลับไปประทับ ณ ปราสาทวินด์เซอร์ ช่วงกลางเดือนมีนาคม

พระองค์มีพระราชสมภพเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1921 ณ เกาะคอร์ฟูของประเทศกรีซ ทรงเป็นพระราชโอรสในเจ้าชายแอนดรูว์ แห่งกรีซและเดนมาร์ก กับเจ้าหญิงอลิซ แห่งบัทเทินแบร์ก พระองค์และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พบกันครั้งแรกที่โรงเรียนทหารเรือ Dartmouth Naval College ในครั้งที่สมเด็จพระราชินีนาถดำรงพระยศเป็นเจ้าหญิงเอลิซาเบธ และเสด็จมายังโรงเรียนแห่งนี้ ส่วนเจ้าชายฟิลิปทรงเป็นนักเรียนนายเรือ โดยรับราชการทหารเรือและร่วมปฏิบัติหน้าที่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย ซึ่งทั้งเจ้าชายฟิลิปและสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ยังติดต่อกันทางจดหมายอย่างต่อเนื่อง

พระองค์ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าจอร์จที่ 6 ให้ทรงสมรสกับพระราชธิดาคือ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ในเวลาต่อมา จากนั้นทรงเข้าพิธีอภิเษกกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธในวันที่ 20 พฤศจิกายน 1947 หรือ 5 ปีก่อนที่เจ้าหญิงจะเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นสมเด็จพระราชินีนาถ ทั้งสองพระองค์มีพระราชโอรสและพระราชธิดา 4 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายชาร์ลส์, เจ้าหญิงแอนน์, เจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด นอกจากนี้ยังทรงมีพระราชกรณียกิจในการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม และทรงเป็นประธานองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลของสหราชอาณาจักรในปี 1961 แม้จะทรงเผชิญกับเสียงวิจารณ์กรณีมีภาพหลังการล่าเสือที่ทรงฉายร่วมกับสมเด็จพระราชินีนาถขณะเสด็จพระราชดำเนินเยือนอินเดียก็ตาม

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เปิดแถลงหน้าบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ระบุว่า พระองค์ทรงช่วยนำทางแก่พระราชวงศ์และสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ยังคงเป็นสถาบันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสมดุลและความสุขของชีวิตประชาชน จอห์นสันยังกล่าวถึงความเป็นนักสิ่งแวดล้อมของพระองค์และโครงการมอบรางวัลแก่เด็กและเยาวชนที่พระองค์จัดตั้งขึ้น ซึ่งหล่อหลอมและเป็นแรงบันดาลใจแก่ชีวิตของเยาวชนจำนวนมาก

“เราระลึกถึงพระองค์ในเรื่องทั้งหมดนี้ และเหนือสิ่งอื่นใดสำหรับการสนับสนุนอย่างแน่วแน่ต่อสมเด็จพระราชินีนาถ ไม่ใช่เพียงแค่ในฐานะคู่ครองแห่งพระมหากษัตริย์ที่อยู่เคียงข้างพระองค์ในทุกวันที่ทรงครองราชย์ แต่ยังอยู่ในฐานะพระราชสวามีที่เป็น ‘ความแข็งแกร่งและผู้สนับสนุน’ ของสมเด็จพระราชินีนาถมามากกว่า 70 ปี” บอริสกล่าว

ขณะที่ นิโคลาร์ สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ กล่าวว่า เธอรู้สึกเสียใจกับการสิ้นพระชนม์ในครั้งนี้ และทวีตข้อความว่า “ฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ทั้งโดยส่วนตัวและของรัฐบาล ตลอดจนประชาชนในสกอตแลนด์ แด่สมเด็จพระราชินีและครอบครัวของพระองค์” ส่วนอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐอเมริกา สดุดีพระเกียรติคุณโดยกล่าวว่า เจ้าชายฟิลิปทรงมี “พระชนม์ชีพที่ยืนยาวและน่าทึ่ง” และได้ทรง “อุทิศตนเพื่อเจตนารมณ์อันทรงคุณค่าและเพื่อผู้อื่น”

ขณะที่ สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ระบุส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ว่า ทรงเป็นตัวแทนของผู้คนในรุ่นหนึ่ง ซึ่งพวกเราจะไม่มีวันได้พบเห็นอีกแล้ว ส่วน จาซินดา อาเดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ก็กล่าวแสดงความเสียใจในนามรัฐบาลและประชาชนชาวนิวซีแลนด์

ขณะที่ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวแสดงความเสียใจต่อชาวอังกฤษและสมาชิกพระราชวงศ์ และระบุว่า เจ้าชายฟิลิปทรงมีเส้นทางอาชีพที่โดดเด่นในกองทัพ ตลอดจนทรงอยู่แนวหน้าในการริเริ่มการบริการแก่ชุมชนมากมาย ขณะที่นายกรัฐมนตรีของมอลตาและประธานาธิบดีของลิทัวเนียก็ร่วมแสดงความเสียใจเช่นกัน

นอกจากนี้สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปแห่งเบลเยียมทรงส่งข้อความส่วนพระองค์ไปยังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และตรัสว่า ทรงหวังที่จะได้ตรัสกับสมเด็จพระราชินีนาถด้วยตนเองเมื่อเป็นไปได้ ส่วนสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน ทรงยกย่องว่าเจ้าชายฟิลิปเป็นพระสหายที่ยิ่งใหญ่สำหรับราชวงศ์สวีเดนมานานหลายปีด้วย

ภาพ: Danny Lawson – WPA Pool / Getty Images

อ้างอิง: