×

ปรีดี ดาวฉาย ขุนคลังคนใหม่ กับยุทธศาสตร์แก้ปัญหาเศรษฐกิจจากโควิด-19

26.08.2020
  • LOADING...
ปรีดี ดาวฉาย ขุนคลัง

ปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทั่วโลกและไทยทุกภาคส่วน โดยช่วงที่ผ่านมาเพื่อรับมือกับผลกระทบดังกล่าว รัฐบาลเลือกใช้งบประมาณประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท หรือ 70,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 12% ของ GDP เพื่อประคับประคองครัวเรือนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด

 

ขณะที่เงินกู้มูลค่า 1 ล้านล้านบาท หรือ 32,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้ในการให้เงินช่วยเหลือโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งมีเป้าหมายการสร้างงานและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในระดับชุมชน รวมถึงเม็ดเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) อีก 9 แสนล้านบาท หรือ 28,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อทำให้แน่ใจว่าตลาดการเงินจะมีสภาพคล่องเพียงพอ

 

ทั้งนี้จะมียุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 ที่จะสร้างความมั่นใจในเศรษฐกิจและเป้าหมายในการลงทุน ได้แก่ 

 

  1. การประสานนโนบายและการตอบสนองที่รวดเร็ว เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เช่น การตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เพื่อประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐต่างๆ และกับภาคเอกชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังมองว่า Big Data และเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพในการช่วยเหลือกลุ่มที่มีความเปราะบาง ทั้งที่เป็นปัจเจกบุคคลและ SMEs เช่น คนตกงาน และธุรกิจที่อยู่ในความเสี่ยง ฯลฯ โดยปรับปรุงโครงข่ายระบบ E-Payment และ Big Data ของประเทศ อย่างเช่น พร้อมเพย์ และ Ai Screening เพื่อกระจายเม็ดเงินให้ไปถึงผู้ที่ต้องการอย่างทันท่วงที นโยบายประคับประคองกลุ่มเสี่ยงของเราก็สามารถไปถึงเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

 

  1. การลงทุนระยะยาวและอนาคตของอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องสร้างความสามารถทางการแข่งขันของประเทศเป็นเรื่องหลัก โดยกระทรวงการคลังเน้นการใช้จ่ายด้านการลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยผ่านหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจต่างๆ 

 

  1. กรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืนด้านการเงิน แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติหรือ GDP ต่ำกว่า 60% โดยยังสามารถที่จะใช้กลยุทธ์ในการกู้ยืมภาครัฐมาเป็นทางออกได้

 

เราอาจจะต้องหันไปพึ่งการกู้ยืมเมื่อจำเป็น แต่ยังมีข้อจำกัดในการทำงบประมาณที่จะใช้จ่าย ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมี 4 แนวทางปฏิบัติของรัฐบาลเพื่อรองรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ได้แก่

 

  1. มาตรการดูแลช่วยเหลือกลุ่มที่มีความเปราะบางและกลุ่ม SMEs
  2. เตรียมพร้อมประเทศรับกับกระแสได้เมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว
  3. การสร้างงานให้ภาคเอกชน
  4. ยุทธศาสตร์สร้างงานสำหรับคนที่จบใหม่

 

ซึ่งภาครัฐต้องมีความโปร่งใส กระตุ้นให้ทุกภาคส่วนของรัฐมีส่วนร่วมในนโยบายบริการสาธารณะ

 

“ผลกระทบของโควิด-19 ในภาคสังคม เศรษฐกิจ และกลุ่มที่ความเปราะบางเป็นหัวใจสำคัญของการกำหนดนโยบายของภาครัฐ และผู้มีส่วนร่วมเพื่อให้สามารถฟื้นตัวจากวิกฤตและประกันว่าไม่มีผู้ใดถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง และเราจะก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน” ปรีดีกล่าวในที่สุด

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising