วันนี้ (22 เมษายน) เมื่อเวลา 09.30 น. ณ ห้องโดม ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือทางโทรศัพท์กับ โจโก วีโดโด ประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นมิตรประเทศที่สำคัญในวันนี้ ฝากความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดีอินโดนีเซียและครอบครัว ชื่นชมบทบาทอินโดนีเซียในเวทีอาเซียน ที่ได้ผลักดันให้มีการประชุมผู้นำอาเซียนเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมาที่สำนักเลขาธิการอาเซียน กรุงจาการ์ตา ในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2564
นายกรัฐมนตรีมีความกังวลต่อสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และตระหนักดีว่าสถานการณ์ในเมียนมาเป็นประเด็นที่มีความท้าทายอย่างยิ่งต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค อย่างไรก็ดี ในฐานะนายกรัฐมนตรีไทย มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศ จึงไม่สามารถเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ที่กรุงจาการ์ตาได้
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนพิเศษ (Special Envoy) เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งด้วยความห่วงใยในสถานการณ์ นายกรัฐมนตรีได้ฝากความเห็นเพื่อให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้นำเสนอในที่ประชุม พร้อมทั้งอวยพรให้การประชุมประสบผลสำเร็จ ส่งผลให้สถานการณ์ในเมียนมาเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งประเทศไทยพร้อมผลักดันการดำเนินการตามมติของที่ประชุม
ประธานาธิบดีอินโดนีเซียยินดีที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ขอบคุณ และชื่นชมบทบาทไทยในเวทีระหว่างประเทศเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางด้านต่างประเทศ และความคิดเห็นของไทยส่งผลสำคัญในการผลักดันภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ เข้าใจดีถึงการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาเซียนจะมีส่วนช่วยให้สถานการณ์ในเมียนมาคลี่คลาย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า