วันนี้ (23 มกราคม) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การเฝ้าระวังโรคโควิดอย่างใกล้ชิด และปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 ที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ในช่วงวันที่ 25-26 มกราคมนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคกลาง ประชาชนจึงต้องเฝ้าระวังและป้องกันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจอนามัยโพล วันที่ 15-21 มกราคม 2565 พบว่า คนไทยร้อยละ 65 ยังมีความกังวลหากมีการระบาดของโรคโควิด และปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 สูง โดยเรื่องที่กังวลมากที่สุดคือ กลัวติดเชื้อจากการไปจับจ่ายซื้อของวันไหว้ในตลาดของเทศกาลตรุษจีน ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต ร้อยละ 51.8 รองลงมาคือ กลัวการติดเชื้อจากการรวมญาติที่บ้านหรือสถานที่พักอาศัย ร้อยละ 42 และห่วงผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงอาจติดเชื้อได้ง่าย มีอาการรุนแรง ร้อยละ 41.2
ขณะที่ร้อยละ 35 ไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากมีการป้องกันตนเองอย่างดีแล้ว, ร้อยละ 71.9 รู้สึกชินกับสถานการณ์ และได้รับวัคซีนครบแล้วตามเกณฑ์ ร้อยละ 29.7
นอกจากนี้ผลสำรวจอนามัยโพลยังพบว่า หากมีการระบาดของโรคโควิด และสถานการณ์ปัญหาฝุ่น PM2.5 ประชาชนร้อยละ 85.3 จะป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากป้องกันเมื่อไปที่สาธารณะ, ร้อยละ 72.5 ล้างมือบ่อยๆ และร้อยละ 64.3 ติดตามสถานการณ์ฝุ่นและการระบาดของโรคเป็นระยะๆ
“ทั้งนี้ประชาชนที่มีกิจกรรมช่วงวันตรุษจีน เช่น จับจ่ายซื้อของในวันไหว้ ทั้งในตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาเก็ต หรือมีการรวมญาติไหว้บรรพบุรุษ รวมถึงการกินอาหารร่วมกันภายในครอบครัว ขอให้ปฏิบัติตามหลัก UP (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดและการแพร่ของโรคโควิด โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคประจำตัว ควรให้ความระมัดระวังและดูแลเป็นพิเศษ พร้อมทั้งให้ร่วมกันลดปริมาณการเกิดฝุ่น PM2.5 โดยไม่เผากระดาษเงิน กระดาษทอง ไม่เผาขยะ ใช้ธูปสั้น หรือเปลี่ยนไปใช้ธูปไฟฟ้าแทน” นพ.สุวรรณชัยกล่าว