วานนี้ (29 ธันวาคม) เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. จากเหตุการณ์บนทางพิเศษ (ทางด่วน) ฉลองรัช ขาออกมุ่งหน้าไปลาดพร้าว กิโลเมตรที่ 10 เหนือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงใกล้แยกประชาธรรม แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่พบร่าง กฤษฏิ์ อายุ 30 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร รวม 5 นัด จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้ประสบเหตุให้การว่า ขณะขับรถปฏิบัติหน้าที่กับเพื่อนร่วมงานอีก 1 คน พบรถตู้จอดเสียหลักชนขอบสะพานทางด่วน และมีชาย 2 คนทะเลาะวิวาทกัน ชายคนร้ายขึ้นไปนั่งคร่อมชายอีกคน ต่อมาได้ยินเสียงปืน 2 นัด จากนั้นคนร้ายได้ขับรถตู้หนีไป
เจ้าหน้าที่การทางพิเศษฯ จึงเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บ ชายที่ถูกยิงขอให้โทรไปบอกครอบครัว และพูดคุยด้วยตัวเองว่าถูกยิง บอกให้ภรรยาพาลูกหลบหนีออกจากบ้านพักเพราะกลัวคนร้ายตามไป
จากนั้นรถตู้คันที่ขับหลบหนีไปขับรถวนกลับมาจอดฝั่งตรงข้าม คนร้ายถือปืนลงมาหาคนเจ็บ และยิงคนเจ็บอีกหลายนัด ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่รถตู้และขับหลบหนีไป ต่อมามีรถโดยสารประจำทางสาย 34E ขับมาประสบเหตุพอดี จึงจอดรถโดยสารขวางผู้เสียชีวิตไว้ไม่ให้รถวิ่งมาทับ และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
หลังเกิดเหตุ ตำรวจสนธิกำลังร่วมกันจับกุมตัว ร.ต.ท. ณรงค์วัส ทะชาดา อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา เลขที่ 4841/2566 ด้วยข้อกล่าวหา ‘ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน’
ร.ต.ท. ณรงค์วัส ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือสังหารผู้เสียชีวิต ระบุว่าตนมีปัญหาหนี้สินในระบบ 2 ล้านบาท จากการกู้ไปลงทุนทำธุรกิจแล้วธุรกิจไปไม่รอด จากนั้นได้รู้จักกับผู้เสียชีวิต คอยทำงานเป็นคนขับรถ ดูแลความปลอดภัยให้ประมาณ 5 เดือน
ระหว่างทำงานผู้เสียชีวิตบอกว่าจะจัดการหนี้สินให้ รวมทั้งเรื่องตำแหน่งหน้าที่ แต่ตนยังไม่เห็นว่าจะทำอะไรให้ จนมาถึงวันเกิดเหตุมีปากเสียงกันเรื่องที่ว่าถูกหลอกใช้ จึงใช้อาวุธปืนของตัวเองยิงขาผู้เสียชีวิต และบังคับให้โอนเงินจำนวน 20 ล้านบาทให้ แต่ตกลงกันไม่ได้ มีการยื้อแย่งอาวุธปืนบนทางด่วน
ผู้ต้องหาได้ขับรถหนีไป แต่นึกได้ว่าทำโทรศัพท์ตกไว้ในที่เกิดเหตุ จึงวนรถกลับมาอีกรอบและบังคับให้โอนเงินอีกครั้ง เมื่อไม่ยินยอมจึงยิงอีกฝ่ายจนเสียชีวิต
ด้าน พล.ต.ต. ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยภายหลังเข้าสอบปากคำผู้ก่อเหตุนานกว่า 6 ชั่วโมง ระบุว่า ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องขอทำการสอบปากคำเพื่อขยายผลให้ครบถ้วนในประเด็นที่สงสัย โดยเฉพาะต้องขยายผลในเรื่องธุรกิจของผู้เสียชีวิตว่าทำไมต้องจ้างให้ผู้ต้องหาไปทำงาน แต่เบื้องต้นทราบว่าธุรกิจดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา ซึ่งหลังจากนี้จะเชิญครอบครัวผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
ภายหลังจากชุดสืบสวนนครบาล 4 สอบปากคำแล้วเสร็จ ก็จะส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ควบคุมตัว นำตัวไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังในวันพรุ่งนี้ (31 ธันวาคม)