อัปเดตงานวิจัยล่าสุด ชี้ว่าอนาคตมนุษย์อาจเป็นอมตะ

เชื่อหรือไม่! มีผลวิจัยใหม่ที่จะทำให้มนุษย์สามารถย้อนวัยจากคนแก่กลับไปเป็นหนุ่มสาวได้จริงๆ ด้วยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ตอนนี้กำลังเข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกที และสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการ Anti-Aging ไปทั่วโลก

เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีงานวิจัยสุดฮือฮาตีพิมพ์ออกมาว่าสามารถคิดค้นวิธีการบางอย่าง โดยทำให้สัตว์ทดลองอย่างหนูสามารถแก่และย้อนวัยกลับมาเป็นหนุ่มสาวได้ ซึ่งหากการค้นคว้าดำเนินต่อไป อีกไม่นานมนุษย์เราก็คงต้านความชรา และคงความหนุ่มสาวได้ยืนยาวด้วยเช่นกัน เอพิโสดนี้ ดร.ข้าว จะมาอธิบายให้ฟังถึงที่มาที่ไปงานวิจัยที่เป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกชิ้นนี้

มนุษย์อาจเอาชนะความแก่ได้จริง ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์

ความแก่ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่ใช่แค่เพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไป แต่ยังเป็นเรื่องของระบบอวัยวะภายในร่างกายที่เสื่อมถอยลงไปด้วยตามอายุการใช้งาน ทำให้มีนักวิจัยในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลายกลุ่มทั่วโลกพยายามทุ่มเทศึกษาว่า จะทำอย่างไรให้คนที่อายุมากแล้วกลับมามีผิวหนังเต่งตึง และอวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดีเหมือนตอนที่เป็นหนุ่มสาว

เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีการตีพิมพ์ผลงานของ ดร.เดวิด ซินแคลร์ ในวารสาร Cell ซึ่งผลการทดลองก็เป็นที่ฮือฮาจนทำให้วงการชะลอวัยทั่วโลกต้องตื่นเต้น เพราะเขาได้แสดงภาพถ่ายจุดเริ่มต้นการทดลองของหนูสองตัวที่มีอายุเท่ากัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาทำให้เห็นว่ามีวิธีการในการเปลี่ยนให้หนูที่แก่ สามารถย้อนวัยกลับมาเด็กลงได้ 50-75% เลยทีเดียว เขาทำได้อย่างไร

Epigenetic คืออะไร ทำไมทำให้คนแก่ช้าลงได้

ก่อนจะเข้าสู่คำอธิบายโดยละเอียดของงานวิจัยและเทคโนโลยี ต้องกลับมาที่เรื่องของ Epigenetic ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการไขความลับจักรวาลที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถคงความเป็นหนุ่มสาวเอาไว้ได้ราวกับเป็นมนุษย์อมตะ โดยเจ้า Epigenetic นี้เราเคยพูดถึงมันไปแล้วในเอพิโสดที่ว่าด้วยเรื่องของ Biological Age หรืออายุทางชีวภาพ

โดยปกติร่างกายของเราจะมีดีเอ็นเอ ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนตำราในการดำรงชีวิตของอวัยวะต่างๆ ทุกๆ เซลล์ไม่ว่าจะเป็น ตับ ไต ปอด สมอง กระดูก ตา ต่างก็ใช้ตำราเล่มเดียวกันเพื่อให้แต่ละเซลล์ของอวัยวะนั้นๆ ทำงานได้อย่างปกติ มากไปกว่านั้นแต่ละอวัยวะจะต้องอ่านตำราเฉพาะในส่วนของตัวเองเท่านั้น เปรียบเหมือนกับ ‘ที่คั่นหนังสือ’ ที่แยกส่วนของอวัยวะต่างๆ เอาไว้ เช่น เซลล์ตับ จะต้องทำงานจากตำราเฉพาะในส่วนของตัวเอง จะไปใช้ตำราของสมองไม่ได้ เป็นต้น ซึ่งคีย์เวิร์ดสำคัญคือ ‘ตำแหน่งที่ถูกต้องของที่คั่นหนังสือ’ จะเป็นตัวควบคุมว่าเซลล์ควรจะทำงานเมื่อไร ที่ไหน อย่างไร และเราเรียกสิ่งนี้ว่า Epigenetic นั่นเอง

ตอนที่เราเป็นเด็ก ตำแหน่งของที่คั่นหนังสือจะถูกวางเอาไว้อย่างถูกต้อง ทำให้เรายังไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ เซลล์ในร่างกายทำงานได้ปกติทุกอย่าง แต่เมื่ออายุมากขึ้น ต้องเผชิญมลพิษ กินอาหารไม่ดี มีความเครียด กินเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย สิ่งที่เกิดขึ้นคือตำแหน่งของที่คั่นหนังสือจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามไลฟ์สไตล์ของคนคนนั้น ยิ่งคนที่ใช้ชีวิตไม่เฮลตี้ ตำแหน่งก็จะเปลี่ยนเยอะตามไปด้วย ฉะนั้นยิ่งตำแหน่งผิดไปจากเดิมมากเท่าไร อายุร่างกายก็จะแก่ลงมากเท่านั้น เหมือนกับคนที่เป็นโรคชรา ฉะนั้นวิธีการที่จะทำให้เรากลับไปเป็นเด็กหรืออ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง คือการทำอย่างไรก็ได้ให้ที่คั่นหนังสือมันกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิมตอนที่เราเป็นเด็ก เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ ไม่ผิดเพี้ยน

อ่านต่อ: Top to Toe EP.8 – Biological Age รู้หรือไม่ อายุร่างกายจริงๆ ของคุณคือกี่ปี?

ดร.เดวิด ซินแคลร์ เริ่มคิดค้นวิธีการรีเซ็ตตำแหน่งที่คั่นหนังสือทั้งหมดเพื่อพิสูจน์สมมติฐานนี้ สิ่งที่เขาทำคือการเอาหนูอายุเท่ากันมาสองตัว ตัวหนึ่งถูกฉีดสารเคมีที่ประกอบด้วยเอนไซม์หลายๆ อย่างที่สามารถตัดต่อตำแหน่งที่คั่นหนังสือหรือดีเอ็นเอให้ผิดเพี้ยนไป สิ่งที่เกิดขึ้นคือหนูตัวนั้นมันแก่กว่าเดิมสองเท่าเลย คือมีอาการขนร่วง ผิวซีด ตาพร่ามัว กล้ามเนื้อและตับทำงานแย่ลง ในขณะที่อีกตัวหนึ่งยังมีผิวพรรณเต่งตึงเหมือนกับหนูวัยรุ่นอยู่ นี่คือสเต็ปแรกที่แสดงให้เห็นถึงข้อพิสูจน์เบื้องต้นว่า ที่คั่นหนังสือเป็นตัวกำหนดความแก่จริงๆ

สเต็ปที่สอง ดร.เดวิด ซินแคลร์ ได้เปิดเผยว่าเขาทดลองฉีดสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ยามานะกะ ค็อกเทล’ โดยฉีดเข้าไปที่ด้านหลังของดวงตาในส่วนที่เป็นเรตินา ปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไป ตาของหนูแก่ที่เคยพร่ามัวสามารถกลับมาทำงานได้ปกติ มองเห็นชัดอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงลองฉีดสารตัวนี้ไปที่จุดอื่นๆ เช่น ตับ กล้ามเนื้อ สมอง ผลปรากฏว่าหลังฉีดแล้วอวัยวะเหล่านั้นกลับมาทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเหมือนย้อนวัยกลับมาเป็นอวัยวะของหนุ่มสาวได้ถึง 50-75% ของอายุหนูในขณะนั้น

คำถามคือ…เราสามารถเอาสารที่ว่านี้มาใช้ในมนุษย์ได้เลยไหม คำตอบคือยัง เพราะก่อนจะมาถึงเฟสของคนได้จะต้องผ่านการพิสูจน์อีกนิดหน่อย โดยขั้นต่อไป ดร.เดวิด ซินแคลร์ จะขยับการทดลองจากหนูไปเป็นลิง ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับคนไปอีกขั้น และเราก็ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าผลการทดลองของลิงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกับหนูหรือเปล่า เพราะในการทดลองนี้มีสองอย่างที่เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิดไปพร้อมกัน อย่างแรกคือการทำให้อวัยวะภายในย้อนวัยจากแก่เป็นหนุ่มสาวได้ และอย่างที่สองคือเมื่อย้อนวัยได้จะต้องไม่มีโรคแทรกซ้อน เช่น มะเร็ง ตามมาด้วย ซึ่งหากการทดลองในลิงสำเร็จ ขั้นต่อมาคงได้เริ่มทดลองในคนอย่างแน่นอน

อยากแก่ช้าลงด้วยวิธีธรรมชาติ ต้องทำอย่างไร

การกิน เน้นอาหารที่เป็นผัก ผลไม้ และไม่ควรกินในปริมาณเยอะจนเกินไป
พักผ่อนให้เพียงพอ
อย่าเครียดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต พยายามทำชีวิตให้มีความสุขเข้าไว้
พาร่างกายไปออกกำลังกายเสียเหงื่อบ้าง อย่างน้อยวันละ 10 นาทีก็ยังดี

4 ข้อนี้ ไม่ใช่แค่หลักการที่ ดร.เดวิด ซินแคลร์ ยืนยันเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สาย Anti-Agine ต่างก็พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน เพราะเขาได้เก็บข้อมูลมหาศาลจากทั่วโลกมาวิเคราะห์แล้วว่า คนส่วนใหญ่ที่มีอายุทางชีวภาพน้อยกว่าหรือเด็กกว่าคนทั่วไปนั้นมีปัจจัยสำคัญมาจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตจริงๆ แค่กินดี นอนดี อารมณ์ดี และออกกำลังกายดี เท่านี้ก็ทำให้เราแก่ช้าลงได้ด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือยิ่งเริ่มเร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น

Credits

The Host ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์

Episode Producer อธิษฐาน กาญจนะพงศ์
Creative Care Label

Video Editor จุฑาภัทร มนตรีศาสตร์

Sound Director กฤตพล จียะเกียรติ

Sound Designer เดชาณัฏฐ์ ธีรดุริยสฤษฏ์

Sound Recording Engineer ขจีพรรณ วิจิตรรัตน์

Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค

Graphic Designer ธนิดา โตวิวัฒน์
Channel Manager เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์

Channel Admin นิพพิชฌน์ ชุลีนวน, พฤกษา แซ่เต็ง

Proofreader ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

Webmaster ไชยพร ศิริกลการ