JIB จากเด็กวัดสู่เจ้าของอาณาจักรไอที 10,000 ล้านบาท ที่ตั้งเป้าเข้าตลาดหุ้นในปี 2021

จากเด็กวัดสู่เจ้าของอาณาจักรไอที 10,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเข้าตลาดหุ้นในปี 2021

จากเด็กบ้านนอก ลูกชายคนใช้แรงงาน สู่ซีอีโอบริษัทที่มีพนักงานถึง 1,200 คน

จากคนหลงรักคอมพิวเตอร์ เป็นพนักงานเงินเดือนธรรมดา สู่เจ้าของกิจการกว่า 144 สาขา ใน 51 จังหวัด ฟันรายได้เกือบ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ต่อยอดอีคอมเมิร์ซยอดขาย 100 ล้านบาทต่อเดือน สูงสุดเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศไทย

จากห้องเช่าเล็กๆ ในตึกเซียร์ รังสิต เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ก้าวสู่โรงงานใหญ่โตที่ใช้หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์แทนคน ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ซื้อลิขสิทธิ์เกมอี-สปอร์ต PUBG มีรายการสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์เป็นของตัวเอง

จากขาดทุนติดหนี้ 350 ล้านบาทต่อเนื่องเกือบ 3 ปี สู่บริษัทที่ให้ความสำคัญกับความสุขของพนักงานและลูกค้าเหนือสิ่งอื่นใด

เคน นครินทร์ สรุป 5 เคล็ดลับความสำเร็จจาก จิ๊บ-สมยศ เชาวลิต ผู้ก่อตั้งแบรนด์ JIB ในพอดแคสต์ The Secret Sauce

1. ขายบริการ ไม่ใช่แค่สินค้า และยกให้ ‘ลูกค้า’ สำคัญที่สุด

“การบริการที่ดีไม่ใช่แค่ลูกค้าพอใจ แต่ต้องทำให้ประทับใจด้วย”

คุณจิ๊บเชื่อเสมอว่า การบริการคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเลือกแบรนด์ JIB เขามักปลูกฝังพนักงานเสมอว่าต้องทำให้ดี และต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ

เขาไม่เชื่อว่าการบริการตามมาตราฐาน คือสิ่งที่เพียงพอแล้วสำหรับการทำงานในยุคนี้ เพราะการถามไถ่ทั่วไปว่าลูกค้ากำลังมองหาสินค้าอะไร เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่หากพนักงานมีความรู้ แนะนำสินค้าได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้ลูกค้ารู้สึกว้าวได้ นั่นต่างหากที่เป็นสุดยอดบริการที่แท้จริง

คุณจิ๊บแชร์เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้พนักงานมีใจรักบริการ นั่นคือการตั้งเป้าหมายที่ไม่ใช่ตัวเลขยอดขาย แต่เน้นเรื่องการบริการ โดยเฉพาะ 2 เรื่องสำคัญ ที่เขาเน้นย้ำเสมอ หนึ่ง เรื่องร้องเรียนจากลูกค้า ต้องมีให้น้อยที่สุด สอง พนักงานต้องได้รับคำชื่นชมมากที่สุด เพราะเขาเชื่อว่าสิ่งนี้คือที่มาของยอดขาย ทำให้คนอยากกลับมาซื้อสินค้าของ JIB นั่นเอง

“พนักงาน คือสินค้าสำคัญของบริษัท พวกเขาสะท้อนถึงภาพลักษณ์องค์กร ทำให้คนภายนอกรับรู้ได้ว่า ธุรกิจนี้กำลังถ่ายทอดอะไรไปถึงลูกค้า”

2. สร้างแบรนดิ้งชัดเจน

“ผมอยากให้คนจดจำว่า JIB เป็นแบรนด์ที่จริงใจกับลูกค้า สินค้าผ่านการคัดเลือกมาแล้วในระดับหนึ่ง เหมือนเราตั้งใจหยิบยื่นของดีให้เขา และเน้นเรื่องบริการทั้งหมด ลูกค้าไม่ต้องห่วงว่าซื้อไปแล้ว ถ้าสินค้ามีปัญหา จะได้รับการดูแลหรือเปล่า”

คุณจิ๊บเล่าว่า ภาพลักษณ์องค์กรเปรียบเหมือนคนคนหนึ่ง ถ้ามีคนจำนวนมากรู้สึกต่อคนนี้ในทิศทางเดียวกัน นั่นคือการสร้างแบรนด์สำหรับ JIB

แบรนดิ้งเป็นสิ่งที่สร้างได้ แต่ต้องใช้เวลา กว่าคนจะจดจำภาพแบรนด์ และพูดถึงปากต่อปาก ที่กำลังพยายามสร้างอยู่ เช่น การเปลี่ยนโลโก้ใหม่ การตกแต่งหน้าร้านให้ไปในทางเดียวกัน พนักงานมียูนิฟอร์มเฉพาะ ควบคู่ไปกับการทำการตลาดทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์

“ผมพยายามสอนลูกน้อง ถ้ามีร้านคู่แข่งอยู่ติดกัน ทุกอย่างในร้านเหมือนกัน สินค้า ราคา การตกแต่ง ต่างแค่ป้ายชื่อร้าน ทำอย่างไรให้ลูกค้าเห็น JIB แล้วเดินมาซื้อกับเรา ตรงนั้นคือแบรนด์ สิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธา ฉะนั้น สิ่งที่เราทำมาทั้งหมด มันจะตอบโจทย์เรื่องนี้”

3. มีศรัทธาอันแรงกล้าในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจทำ

พลังสำคัญที่ทำให้คุณจิ๊บก้าวมาถึงจุดนี้ได้ภายในเวลา 17 ปี คือ ความมุ่งมั่นอันแรงกล้า เขาอยากเป็นผู้ประกอบการ และเขารักในธุรกิจไอที เมื่อเขารักในสินค้าประเภทนี้ มีความชำนาญในสิ่งที่ทำ ทำให้เขาเข้าใจ พร้อมส่งต่อความรู้ไปถึงพนักงานและลูกค้า

4. วางแผน!

“ผมไม่ใช่คนเรียนเก่ง แต่มีความตั้งใจ คิดเสมอว่าต้องทำอย่างไรให้ตัวเองได้ที่ 1 ถ้าคนเก่งอ่านหนังสือรอบเดียวแล้วเข้าใจ ผมวางแผนอ่านซ้ำ 4-5 รอบ เพื่อให้เก่งได้เท่าพวกเขา”

คุณจิ๊บเป็นคนมุ่งมั่นตั้งแต่ยังเด็ก เขาวางแผนชีวิตตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงตอนทำงานประจำ ก่อนออกมาเปิดธุรกิจของตนเอง

เขาเล่าถึงแผนสำคัญของการบุกตลาดออนไลน์ของ JIB ที่มีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากยอดคนเข้ามาซื้อจำนวนครั้งถี่ขึ้นเรื่อยๆ หรือจำนวนสมาชิกในแต่ละเดือนที่เพิ่มมากขึ้น ในอนาคตเขาจะเริ่มเอาหุ่นยนต์เข้ามาใช้ เช่นเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon หรือ Alibaba Group แม้เป็นสิ่งที่ใช้ต้นทุนสูง แต่เขาเชื่อว่าจะคุ้มค่าต่อความเสี่ยงผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้

สำหรับเป้าหมายในอีก 2 ปีข้างหน้า เขาอยากได้รายได้จากออนไลน์ปีละ 300 ล้าน และอีกเป้าหมายใหญ่ในปี 2021 เขาอยากพา JIB เข้าตลาดหุ้นให้ได้ พร้อมวางยอดขายให้สูงขึ้นตามสัดส่วนการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น

“ผมอยากให้ JIB เป็นแบรนด์ที่ลูกค้านึกถึงมากที่สุด เหมือนกินสุกี้ก็คิดถึง MK Restaurant กินไอศกรีมก็คิดถึง Swensen’s และแน่นอน ถ้าอยากซื้อคอมพิวเตอร์ก็ต้องคิดถึง JIB เท่านั้น”

5. เริ่มเล็กๆ อย่าไปมองเจ้าใหญ่

“JIB สาขาแรกเริ่มจากต้นทุนแค่ 200,000 บาท ไม่ใช่เงินเก็บด้วย แต่เป็นเงินจากกองทุนสะสม หลังลาออกจากธนาคารที่ทำ”

คุณจิ๊บแนะนำสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ ว่าไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการเป็นเจ้าใหญ่ ขอให้เริ่มแค่เล็กๆ ตามที่เหมาะสมกับตัวเอง และอย่าลืมมีระบบการทำงานที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลครบถ้วนมาขยายธุรกิจต่อในอนาคตได้

JIB เก็บฐานข้อมูลลูกค้าแต่ละสาขาไว้ค่อนข้างละเอียด เขารู้ว่าลูกค้าคือใคร ซื้อสินค้าอะไรมากที่สุด สาขาไหนอะไรขายดี เช่น สาขาแรกคนชอบแบรนด์นี้ แต่อีกสาขาคนชอบอีกแบรนด์ เขาก็วางแผนกระจายสินค้าแต่ละประเภทไปตามพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายอย่ากลัวเจ้าใหญ่ อย่าคิดว่าไม่มีทางสู้ได้ ถ้าเป็นร้านเล็ก ลองเริ่มแข่งกับร้านในระดับเดียวกับตัวเองก่อน และทำมันให้ดีที่สุดก็พอ