นุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์ ภาพแรกที่หลายคนจำเธอได้ คือสาวน้อยยิ้มหวานหน้าสวยบนเวทีประกวดนางสาวไทย ผ่านมาหลายปีกับหลายบทบาทหน้าที่ในวงการบันเทิงที่เธอทำได้เป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง ในวันนี้เธอกำลังออกเดินไปบนเส้นทางใหม่กับบทบาทอันยิ่งใหญ่ของการเป็น ‘คุณแม่’ ที่เราเชื่อเหลือเกินว่า เธอจะทำได้ดีไม่แพ้บทบาทไหนๆ
ซินดี้ สิรินยา ชวน นุ้ย สุจิรา มาเปิดใจเกี่ยวกับบทเรียนที่ได้จากการเป็นแม่ และวิธีบริหารตัวเองให้สมดุลในหลายแง่มุมของชีวิต ในรายการ Balanced Mama Podcast
เราภูมิใจที่ได้ผ่านมันมาด้วยกัน
นุ้ยต่อสู้กับรดา (ลูกสาวคนโต) เรื่องอมข้าว ตั้งแต่ยังไม่ท้องลูกคนที่ 2 จนทุกวันนี้คลอดน้องออกมาแล้วก็ยังเป็นปัญหาของเราแม่ลูกอยู่ หาทางแก้ไขมาหมดแล้วทุกวิธี ทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง จนล่าสุดนุ้ยบอกลูกว่า “ถ้าหนูไม่กิน แม่จะไม่บังคับแล้ว แม่ไม่อยากทะเลาะกับรดา ถ้าหนูป่วยขึ้นมา แม่ก็มีหน้าที่พาไปหาหมอ” หลังจากนั้นก็ร่ายยาวถึงเหตุผลให้ลูกฟัง จับเข่าคุยแบบผู้ใหญ่เลย สักพักเขาก็หันมาบอกเราว่า “แม่ รดาจะไม่อมข้าวแล้วนะ” น้ำตาจะไหล ดีใจมาก
หลายอย่างที่นุ้ยเจอกับรดา เราก็เอามาปรับใช้และเปลี่ยนวิธีกับรพี (ลูกชายคนเล็ก) เช่น เรื่องความอดทนของคนเป็นแม่ ลูกคนแรกร้องไห้แค่นิดเดียว นุ้ยรีบอุ้มขึ้นมาโอ๋ทันที ทำให้รดาเป็นเด็กใจร้อน พอคนที่ 2 เราปล่อยให้เขาร้องไห้ไปก่อน แม้จะต้องอดทน แต่พอเราให้เกียรติลูก เชื่อในสัญชาตญาณเขา มันก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
คนที่มีพี่น้อง มักเข้าใจว่าแม่รักน้องมากกว่า แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ แม่รักพี่คนโต เพราะเป็นคนที่แม่ทุ่มเทใส่ใจให้ทุกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด แต่กับคนเป็นน้อง ด้วยความที่เด็กกว่าเลยได้รับการดูแลมากกว่า และแม่จะเป็นแบบนี้กับพี่คนโตไปตลอด เพราะทุกการเติบโตของลูกมันใหม่สำหรับแม่เสมอ
ถึงแม้เราจะเหนื่อยกับการมีลูกมากแค่ไหน แต่มันทำให้นุ้ยได้เจอความรักที่ถ้าไม่ได้เป็นแม่ เราจะไม่มีทางรู้สึกอย่างนี้
รู้จักการปล่อยวาง
ตอนเลี้ยงลูกคนแรก นุ้ยโทรมเป็นซอมบี้เลย เหมือนแม่ในการ์ตูนที่หัวกระเซิงและขอบตาดำเป็นชั้นๆ มันเหนื่อยจนไม่อยากคุยกับใคร เพราะเราทุ่มเทให้กับการเลี้ยงลูกเต็มร้อย
นุ้ยถึงขั้นต้องไปหาจิตแพทย์ เพราะกลัวว่าถ้าเลี้ยงลูกแล้วไม่มีความสุข นิสัยตรงนี้จะไปถึงลูก และทำให้บรรยากาศในครอบครัวไม่ดีตามไปด้วย นุ้ยเกิดความสงสัยเวลาเห็นแม่ท่านอื่นได้ทำเล็บ ได้แต่งตัวสวย ได้ทำสปา สงสัยไปถึงขั้นว่าทำไมเขายิ้มกับสามีตัวเอง สุดท้ายพอไปเจอหมอ หมอบอกว่าทุกอย่างเกิดขึ้นที่ตัวเรา เรากำลังทำตัวเอง ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาเอง และเอาตัวเองเข้าไปอยู่กรอบนั้น ถ้าคุณลองปล่อย พักผ่อนบ้าง ฝากลูกไว้กับคนที่เราไว้ใจ อย่างนุ้ยโชคดีที่แม่ยังแข็งแรง สามารถฝากหลานไว้ได้ หรือบางครั้งลองฝากลูกไว้กับสามีดูบ้าง ให้เขาได้ใช้เวลาดูแลลูก มันก็ทำให้หลายๆ อย่างผ่อนคลายขึ้น
บางครั้งเวลามีคนอื่นมาเลี้ยงลูกเรา มันจะเกิดความรู้สึกไม่ถูกใจ คิดว่ากับลูกเราต้องไม่ทำแบบนี้สิ ลูกไม่ได้ชอบแบบนั้น แต่จริงๆ แล้วมันอาจจะไม่ใช่ความต้องการของลูก แต่เป็นความต้องการของเราเองก็ได้
ทุกการแสดงออกของลูก ทำให้แม่ย้อนกลับมามองตัวเอง
ตอนแรกนุ้ยไม่อยากมีพี่เลี้ยงเลย แต่พอท้องคนที่ 2 เราเลือดออก เกิดภาวะแท้งคุกคาม เลยเอาพี่แม่บ้านมาช่วยเลี้ยง จนกระทั่งวันหนึ่ง รดาร้องไห้แล้วเรียกชื่อพี่เลี้ยงแทนชื่อเรา นุ้ยหน้าชา โลกแตกสลาย เสียใจยิ่งกว่าโดนผู้ชายทิ้ง รีบโทรไปปรึกษาคุณหมอทันที และท่านให้คำตอบมาว่า เด็กรู้ดีว่าใครคือคุณพ่อคุณแม่ ยังไงเขาก็รักพ่อแม่มากที่สุด แต่เมื่อไรที่เราดุ เด็กก็ต้องการหลุมหลบภัยสำหรับตัวเอง และนั่นมันทำให้เรากลับมามองตัวเองและพยายามปรับตัวมากขึ้น
ลูกเข้ามาในชีวิตเพื่อสอนธรรมะเราเยอะมาก นุ้ยรู้จักความอดทนอดกลั้นจนถึงที่สุด เพราะถ้าเราระเบิดอารมณ์ไปก็จะมีแต่แย่ลง การเลี้ยงลูกมันทำให้เรารู้ว่า ถึงใจร้อนไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แถมลูกยังพร้อมทำพฤติกรรมเลียนแบบตามเราทุกอย่าง เดี๋ยวนี้พอนุ้ยอารมณ์ขึ้นเมื่อไร เราต้องพยายามดึงสติตัวเองกลับมาทันที
เราไม่ใช่พระอิฐพระปูน แม่เป็นมนุษย์ มีสิทธิ์ที่จะปรี๊ดได้ แต่ถ้าเมื่อไรเผลอปรี๊ดออกไป ต้องรีบดึงสติกลับมา และพูดขอโทษลูก
การขอโทษลูกเป็นสิ่งที่ดีนะ เราจะต้องขอโทษให้ลูกเห็นว่า เมื่อไรทำผิด นั่นคือสิ่งที่ควรทำ เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาก่อน
#ทีมภรรยา ฝากถึง #ทีมสามี
นุ้ยอยากบอกสามีทุกคนว่าคุณเป็นคนกำหนดอารมณ์ภรรยาได้ ดังนั้นคุณควรเป็นตัวช่วยที่ดี อย่าวางใจว่าภรรยาจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก ลูกปลอดภัยแน่นอน แล้วตัวเองก็ไปใช้ชีวิตเฮฮากับเพื่อนฝูง จงอยู่กับภรรยาของคุณ ฝึกอุ้มลูกบ้าง เปลี่ยนผ้าอ้อมบ้าง หรือมีทักษะบางอย่างที่ทำจนชำนาญให้ภรรยารู้สึกไว้ใจ จะทำให้บรรยากาศในครอบครัวดีขึ้นอย่างแน่นอน
โรงเรียนในอุดมคติของแม่
Thai International School เป็นโรงเรียนที่มาจากความตั้งใจของคุณแม่คุณปอนด์ (สามีของคุณนุ้ย) ท่านอยากเปิดโรงเรียนอินเตอร์ที่ยังมีความเป็นไทย โดยยกทีมคณะผู้บริหารมาจากโรงเรียนสาธิตเกษตร ซึ่งเป็นทีมที่นุ้ยไว้ใจ เราเห็นผลผลิตคุณภาพของเขามาก่อน อย่างปอนด์เองก็ใช่ พอลูกเราถึงเวลาเข้าโรงเรียน เราก็เชื่อใจให้คุณครูดูแลต่อเลย
บทเรียนสำคัญที่สุดที่ได้จากการเป็นแม่
การเป็นแม่ทำให้นุ้ยได้รู้จักกับความรักที่วิเศษที่สุด ทำให้รู้ว่าการรักใครมากๆ แบบรักกว่าตัวเองเป็นอย่างไร ทุกอย่างเราให้เขาได้ แม้ว่ามันจะเหนื่อย แม้ว่าเราจะต้องเห็นภาพลูกปาดน้ำตา อ้วกแตก แต่ทุกอย่างล้วนเป็นความทรงจำที่ดี ที่นุ้ยและลูกตั้งใจผ่านมันมาด้วยกัน
ติดตาม BALANCED MAMA PODCAST ได้ทางหน้าเว็บไซต์ที่ TheStandard.Co/Podcast หรือถ้าคุณฟังพอดแคสต์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วย iOS หรือ Android ไม่ว่าจะใช้แอปฯ อะไรฟังอยู่ ใช้แอปฯ นั้นๆ เสิร์ชได้เลยว่า Balanced Mama หรือเสิร์ช THE STANDARD ก่อน แล้วดูลิสต์รายการพอดแคสต์ทั้งหมดในเครือ เมื่อเจอแล้วก็ Follow หรือ Subscribe เอาไว้ได้เลย
Credits
The Host ซินดี้ บิชอพ
The Guest สุจิรา อรุณพิพัฒน์
Show Creator ซินดี้ บิชอพ
Episode Producer ปวริศา ตั้งตุลานนท์
Episode Editor นทธัญ แสงไชย
Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ
Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค
Art Director อนงค์นาฎ วิวัฒนานนท์
Photographer อธิษฐาน กาญจนะพงศ์
Proofreader พรนภัส ชำนาญค้า
Webmaster จินตนา ประชุมพันธ์
Music Westonemusic
