×

พิธายืนยัน ขับปดิพัทธ์ออกจากก้าวไกลไม่ใช่นิติกรรมอำพราง ยินดีหากอุ๊งอิ๊งเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะได้มีการแข่งขันทางการเมืองมากขึ้น

โดย THE STANDARD TEAM
30.09.2023
  • LOADING...

วันนี้ (30 กันยายน) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และสมาชิกพรรคเขตวัฒนา เดินทางมาร่วมประชุมสมาชิกพรรคเขตวัฒนา เพื่อเลือกตัวแทนประจำเขตและพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะในพื้นที่

 

พิธาได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เตรียมยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบกรณีพรรคก้าวไกลมีมติขับ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ออกจากพรรค เพื่อต้องการรักษาตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ซึ่งอาจเข้าข่ายฉ้อฉลหรือนิติกรรมอำพรางหรือไม่

 

พิธากล่าวว่า เรื่องนี้ส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับปดิพัทธ์ แต่คิดว่าไม่น่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอะไร ซึ่งความจำเป็นก็เป็นไปตามที่พรรคก้าวไกลได้มีแถลงการณ์ออกไปแล้ว เพราะพวกเราต้องการทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และต้องการที่จะมีผู้นำฝ่ายค้าน แต่ขณะเดียวกันปดิพัทธ์ก็มีความต้องการที่จะทำรัฐสภาให้โปร่งใส และเมื่อเป็นอย่างนั้นก็คงต้องแยกกันเดินในช่วงนี้ เพื่อให้ต่างคนต่างบรรลุเป้าหมายให้ได้ แต่ในที่สุดก็คือการคิดถึงการทำงานของรัฐสภา รวมถึง สส. ของพรรคการเมืองเป็นหลัก 

 

เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวมีการใช้คำว่านิติกรรมอำพราง ฉะนั้นข้อกล่าวหาดังกล่าวถือว่ารุนแรงไปหรือไม่ พิธาระบุว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าเป็นสิทธิที่จะวิจารณ์อะไรก็ได้ ก็น้อมรับไว้ แต่ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าตรงไปตรงมา พร้อมทั้งมีการอธิบายเป็นขั้นเป็นตอนไปแล้วว่าพรรคก้าวไกลต้องการเป็นฝ่ายค้าน ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญก็ไม่อนุญาตให้มีรองประธานสภาอยู่ในพรรคที่มีผู้นำฝ่ายค้าน 

 

ส่วนปดิพัทธ์ก็ตัดสินใจอยากจะทำภารกิจเรื่องรัฐสภาให้มีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพต่อ ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่พรรคก้าวไกลต้องขับปดิพัทธ์ออก และปดิพัทธ์ก็ต้องหาพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งมันก็ตรงไปตรงมาแค่นี้ ไม่ได้มีอะไรอำพรางแม้แต่เล็กน้อย 

 

เมื่อถามว่า หากมีหน่วยงานเรียกไปชี้แจง พรรคพร้อมหรือไม่ พิธาระบุว่าแน่นอน และพรรคก็ได้ชี้แจงไปแล้ว และเท่าที่ทราบปดิพัทธ์ก็ได้แถลงข่าวที่รัฐสภาไปแล้ว ตนคิดว่าก็ชัดเจนทั้งสองฝ่าย 

 

เมื่อถามต่อว่า บางพรรคการเมืองวิจารณ์ว่าพรรคก้าวไกลกำลังถอยหลังลงคลอง เนื่องจากบอกว่าจะเล่นการเมืองใหม่แต่กลับไปเล่นการเมืองแบบเก่า พิธากล่าวว่า ตนคิดว่ามันไม่ได้เป็นการเมืองเก่าหรือใหม่ แต่ว่าตั้งใจเดินหน้าตามเป้าหมายตามที่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ว่าเป็นไปในลักษณะแบบไหน เราต้องการเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกอย่างที่เคยพูดไว้ ส่วนปดิพัทธ์ก็มีความต้องการอยากจะเป็นรองประธานสภาที่ต้องการทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในรัฐสภา และให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น 

 

เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นการกั๊กทั้งตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 และตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านไว้ใช่หรือไม่ พิธายืนยันไม่ใช่การกั๊ก เพราะถ้าเป็นการกั๊กก็ต้องเป็นในลักษณะที่ว่า ทำให้มันพร้อมกัน แต่เรื่องนี้เป็นเหตุผลของพรรคก้าวไกลและเหตุผลส่วนตัวของปดิพัทธ์ ซึ่งแยกออกจากกัน พร้อมย้ำว่าเรื่องขับออกจากพรรคไม่ใช่วิธีการที่ง่ายเกินไป เพราะเป็นไปตามกระบวนการ เมื่อพรรคตัดสินใจเช่นนี้ จึงไม่สามารถให้ปดิพัทธ์ตัดสินใจเป็นอย่างอื่นได้ แต่เมื่อปดิพัทธ์ตัดสินใจเป็นอย่างอื่นก็ต้องออก ย้ำว่าเป็นกระบวนการที่ตรงไปตรงมาเท่านั้น 

 

ส่วนในอนาคตหากปดิพัทธ์มีความประสงค์จะกลับพรรคก้าวไกลก็พร้อมที่จะรับหรือไม่ พิธาตอบว่า ยังไม่เคยคิดถึงตรงนั้น แต่ตอนนี้ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้เต็มที่ และส่วนตัวก็ยังคงหยุดปฏิบัติหน้าที่อยู่ จึงต้องทำหน้าที่นอกสภาอย่างเต็มที่ 

 

ทั้งนี้ พิธากล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยอาจเสนอชื่อ แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า เป็นเรื่องที่ดี จะได้มีการแข่งขันทางการเมืองมากขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ทำให้การเมืองมีประสิทธิภาพ 

 

ส่วนตัววันนี้มาประชุมสมาชิกพรรคที่เขตวัฒนา รวมถึงเมื่อวานก็ได้ไปรับสมัครสมาชิกพรรคที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายให้สมาชิกมีส่วนร่วมทางการเมืองมากที่สุด เป็นพรรคของมวลชนให้ได้มากที่สุด ตั้งเป้าปลายปีมีสมาชิก 100,000 คน 

 

ทั้งนี้ หากแพทองธารเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ของเพื่อไทย พรรคก้าวไกลเองก็มี ชัยธวัช ตุลาธน เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ หวังว่าจะมีการแข่งกันในการนำเสนอนโยบาย การบริหารพรรคที่ยึดโยงกับมวลชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประชาธิปไตย 

 

พิธายังกล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังได้ทำงานมาประมาณหนึ่งเดือนว่า ยอมรับว่าไม่ได้ติดตามการทำงานของนายกรัฐมนตรีมากนัก ซึ่งพรรคก้าวไกลมีวาระ 100 วันแรกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ SME และสุราก้าวหน้า รวมถึงประชามติในการแก้รัฐธรรมนูญ เชื่อว่าจะเป็นทางออกของปัญหาประเทศไทย จะได้ไม่ต้องแก้ไขกฎหมายงบประมาณมาก และขอให้นายกรัฐมนตรีโฟกัสเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาโครงสร้าง รวมถึงเรื่องการลดราคาค่าไฟฟ้า ขณะที่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตก็มีประชาชนทวงถามความชัดเจนระหว่างการลงพื้นที่

 

สำหรับวาระ 100 วันแรกของพรรคก้าวไกล หากรัฐบาลเห็นว่ามีประโยชน์ก็สามารถนำไปทำได้ และหวังว่าหากร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าเข้าสู่สภาก็จะได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยขับเคลื่อนเรื่องนี้มาในสมัยไทยรักไทยเหมือนกัน 

 

ทั้งนี้ ยังไม่ขอให้คะแนนรัฐบาล เพียงแต่ฝาก สส. ในสภาอภิปรายการจัดทำงบประมาณ ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ พร้อมฝากให้ประชาชนติดตามเรื่องนี้ด้วย

 

พิธากล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ทั้งจังหวัดเชียงใหม่ แพร่ และลำปาง ว่าได้ประสาน สส. ในพื้นที่ของพรรคก้าวไกลให้ดูแลประชาชน เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมปีนี้ค่อนข้างแรง และห่วงว่าสถานการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่อาจกระทบถึงพื้นที่ตัวเมือง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising