×

เพื่อไทย เปิดเอกสารลับจีทูจีซื้อเรือดำน้ำ ส่อเป็นโมฆะ เตรียมขอ กมธ. งบฯ ชุดใหญ่ โหวตใหม่อีกรอบ

โดย THE STANDARD TEAM
23.08.2020
  • LOADING...
เพื่อไทย เรือดำน้ำ เพื่อไทย เปิดเอกสารลับจีทูจีซื้อเรือดำน้ำ ส่อเป็นโมฆะ เตรียมขอ กมธ. งบฯ ชุดใหญ่ โหวตใหม่อีกรอบ

วันนี้ (23 สิงหาคม) ที่พรรคเพื่อไทย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เปิดเผยถึงกรณีที่ประชุมอนุกรรมาธิการมีมติเห็นชอบงบจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีนของกองทัพเรือ จำนวน 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาทว่า ที่ประชุมอนุกรรมาธิการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในตอนแรกมีมติเสมอกัน 4 ต่อ 4 แต่สุดท้าย ประธานอนุกรรมาธิการฯ คือ สุพล ฟองงาม ก็ลงมติเห็นชอบ ทั้งที่ตำแหน่งประธานไม่ควรลงมติ เนื่องจากต้องวางตัวเป็นกลาง แต่สุพลกลับมาลงอีกหนึ่งเสียง ทำให้มติเป็น 5 ต่อ 4 ที่เห็นชอบการจัดซื้อเรือดำน้ำ

 

ต่อมาก็มีการตั้งคำถามว่า มีการล็อบบี้ในคณะอนุกรรมาธิการฯ หรือไม่ ซึ่งครั้งแรก กองทัพเรือเข้ามาเสนองบประมาณ แต่อนุกรรมาธิการเห็นว่าหากการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกไปแล้ว และไม่ได้ผูกพันลำที่ 2 และ 3 ก็ขอให้ชะลอไว้ก่อน อย่าเพิ่งซื้อ แต่กองทัพเรือไม่ยอม ดึงดันให้ซื้อให้ได้ สุดท้ายงบประมาณก็ถูกแขวนไว้ ไม่ให้ผ่าน เพราะอนุกรรมาธิการมีเสียงเป็นเอกฉันท์ว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำไม่จำเป็นในขณะนี้ และมีกรรมาธิการคนหนึ่งที่ออกเสียงไม่ซื้อเรือดำน้ำ ถึงกับบอกในห้องประชุมว่า ลองให้ทหารถอดเครื่องแบบแล้วถามชาวบ้านในต่างจังหวัด ก็จะพบว่าชาวบ้านไม่ยอมให้ซื้อเรือดำน้ำแน่นอน แต่สุดท้ายการลงมติอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กรรมาธิการคนดังกล่าวนี้ก็โหวตให้ซื้อเรือดำน้ำ ดังนั้นจึงเชื่อว่ามีการล็อบบี้จากผู้ใหญ่ในรัฐบาลอย่างแน่นอน

 

นอกจากนี้ ยุทธพงศ์ยังได้แสดงเอกสารบันทึกข้อตกลงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือต่อสื่อมวลชนที่มีการระบุว่า เป็นสัญญาจีทูจี โดยยุทธพงศ์ระบุว่าเมื่อมาตรวจสอบกลับพบว่าไม่ใช่สัญญาจีทูจี แต่เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงข้อตกลง และสัญญาที่เซ็นไปก็เป็นเพียงแค่การจัดซื้อเรือดำน้ำ 1 ลำเท่านั้น ไม่มีลำที่ 2 หรือ 3 ไม่มีข้อผูกพันอะไร ขณะเดียวกันเอกสารที่ลงนามสัญญาฝั่งไทยคือ พล.ร.อ. ลือชัย รุดดิษฐ์ ที่ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ ณ ขณะนั้นในปี 2560 และฝั่งจีนที่ลงนามด้วยคือ บริษัทเอกชน ไม่ใช่รัฐบาลจีน ซึ่งจุดนี้จะนำไปสู่หนังม้วนยาว 

 

“ขอตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมปกปิดเอกสารมาโดยตลอด ซึ่งหากเป็นสัญญาแบบจีทูจีจริง ผู้ลงนามฝั่งไทยก็ไม่มีอำนาจลงนามแทนรัฐบาลไทย เพราะผู้มีอำนาจคือนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อีกทั้งยังไม่มีหนังสือมอบอำนาจจากรัฐบาลไทยด้วย และตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือก็ไม่สามารถรับมอบอำนาจได้ คนที่รับมอบอำนาจได้คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเท่านั้น ดังนั้น สัญญาดังกล่าวจึงต้องเป็นโมฆะ แต่เรื่องนี้ในคณะอนุกรรมาธิการฯ กองทัพเรือไม่สามารถชี้แจงได้เลย อ้างแต่เรื่องความมั่นคงทางทะเล ทั้งที่ความอดอยากของประชาชน ทั้งภัยพิบัติ น้ำท่วมในขณะนี้ สำคัญกว่าเรือดำน้ำ” ยุทธพงศ์ กล่าว

 

ยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า แนวทางต่อไปที่จะต่อสู้ คือในวันพุธที่ 26 สิงหาคม เวลา 13.00 น. คณะกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่ จะให้อนุกรรมาธิการฯ ชี้แจงเรื่องเรือดำน้ำ และตนจะเสนอให้กรรมาธิการชุดใหญ่ทบทวนเรื่องนี้ พร้อมขอให้กองทัพเรือนำหนังสือสัญญามาแสดง หากแสดงไม่ได้ สัญญาจะต้องเป็นโมฆะ เนื่องจากไม่มีความโปร่งใส มีความไม่ชอบมาพากล ทั้งนี้ หากคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ดึงดันให้ผ่าน ตนจะเสนอให้มีมติในคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ โดยให้กรรมาธิการลงชื่อเป็นรายบุคคลแบบเปิดเผยชื่อ เพื่อดูว่าใครเห็นความสำคัญของเรือดำน้ำมากกว่าความอดอยากของประชาชน แต่หากโหวตแล้วยังแพ้เสียงส่วนใหญ่ในซีกรัฐบาล ตนก็จะเดินหน้าต่อไปเพื่อประชาชน เพราะเรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากลอย่างมาก

 

“ส่วนที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยประกาศว่า เลือกซื้อเรือดำน้ำจีน เพราะได้คุณภาพดีในราคาประหยัด อีกทั้งยังซื้อ 2 แถม 1 นั้น ยุทธพงศ์ระบุว่า แล้วทำไมวันนี้กลายเป็นว่าซื้อเรือดำน้ำทั้งหมด 3 ลำ แปลว่าอะไร” ยุทธพงศ์ กล่าว

 

ด้านครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการฯ ระบุว่า หลังจากที่พวกตนโหวตแพ้ ก็ได้ตั้งข้อสังเกตไว้และบันทึกไว้ว่า จะนำไปต่อสู้ในที่ประชุมสภาฯ ขณะลงมติวาระที่ 2-3 และจะเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป เพราะเรื่องนี้เหมือนเป็นใบสั่ง ตอนแรกทุกคนอภิปรายไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายก็โหวตเห็นด้วย  

 

“ผมไปนอนคิดสองวัน ผมว่ารัฐบาลป่วยแล้ว ลืมประชาชน ลืมสิ่งที่พูดไว้ว่าพี่น้องประชาชนต้องรัดเข็มขัด ต้องประหยัด แต่ก็มาดันเรื่องนี้ ผมว่ารัฐบาลไม่ได้เป็นง่อย แต่ป่วย เรื่องนี้ผมยืนยันว่า วาระ 2 เชื่อว่าเพื่อนร่วมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลที่ไม่ได้เป็นกรรมาธิการจะมาร่วมแจมด้วย เพียงแต่วันนั้น 4 ท่านในอนุกรรมาธิการคือโทรมาประสานได้ง่าย เดี๋ยวได้พิสูจน์กันว่าคนเป็นผู้แทนในภาวะวิกฤต หากยังแบกหามรัฐบาลอยู่ก็เชิญตามสบาย หากเห็นว่าพร้อมยุบสภาฯ ไหม ผมพร้อม วันนี้คนไทยกำลังโดนต้ม 2 แถม 1 บ้าง ทำเอ็มโอยูบ้าง ทั้งที่จริงๆ ไม่มีอะไรเลย เรื่องนี้ไม่จบแน่ ผมเดินหน้าเตรียมฟ้องประชาชน” ครูมานิตย์กล่าวในที่สุด

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising