วันนี้ (25 พฤษภาคม) ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถรับจ้างบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 7 คนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. … โดยเป็นการอนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้าง โดยการรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับประชาชนในการให้บริการ และส่งเสริมให้ผู้ขับรถยนต์ดังกล่าวสามารถประกอบอาชีพได้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เหตุผลและความจำเป็นในการออกร่างกฎกระทรวงดังกล่าวนั้น เนื่องจากปัจจุบันการให้บริการการเดินทางโดยการเรียกใช้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นที่นิยมของประชาชน ซึ่งรถยนต์ที่นำมาให้บริการบางส่วนยังไม่สามารถนำมาจดทะเบียนได้ตามประเภทที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นจึงเห็นสมควรกำหนดให้มีรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นอีกแบบหนึ่งของรถยนต์รับจ้าง
ศักดิ์สยามกล่าวต่ออีกว่า สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะต้องออกประกาศกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข การรับรองผู้ให้บริการ และแอปพลิเคชันที่จะนํามาให้บริการตามฐานอํานาจที่กําหนดในร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว โดยจะรับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องและออกประกาศ โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน (30 วัน) หลังจากที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ ซึ่งกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับนั้น จะต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา
จากนั้นเมื่อผ่านขั้นตอนกรมขนส่งทางบกออกประกาศแล้ว ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันจะต้องยื่นเอกสารการทำงานของแอปพลิเคชัน ก่อนที่คณะกรรมการจะพิจารณาคุณสมบัติผู้ให้บริการ และรายละเอียดทางเทคนิคของแอปพลิเคชัน เมื่อผ่านการพิจารณาแล้วจะออกหนังสือรับรอง หลังจากนั้นจะเปิดลงทะเบียนของทั้งผู้ขับรถและผู้โดยสาร ก่อนจะเริ่มเปิดให้บริการต่อไป ส่วนจะสามารถเปิดให้บริการได้เมื่อไรนั้นจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ประกอบการ
ในส่วนของรายละเอียดในการดำเนินการของรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้างนั้น จะใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลเดิม โดยให้นายทะเบียนเปลี่ยนประเภทการจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในใบคู่มือจดทะเบียนรถ
ขณะที่ตัวรถจะต้องมีอายุใช้งานได้ไม่เกิน 9 ปี แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- ขนาดเล็ก (เครื่องยนต์ 50-90 kW)
- ขนาดกลาง (เครื่องยนต์ 90-120 kW)
- ขนาดใหญ่ (เครื่องยนต์มากกว่า 120 kW)
โดยจะมีลักษณะเป็นรถเก๋ง รถแวนสองตอนหรือสามตอนก็ได้ ต้องมีการทำประกันภัยเพิ่มเติมคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้โดยสาร และติดเครื่องหมายแสดงการใช้แอปพลิเคชันด้วย
ขณะที่คนขับรถนั้นกำหนดให้จะต้องมีใบขับขี่สาธารณะและผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และใช้แอปพลิเคชันของผู้ให้บริการแอปพลิเคชันที่ผ่านการรับรองจาก ขบ. ขณะที่อัตราค่าโดยสารจะแบ่งเป็น รถขนาดเล็ก, กลาง มีค่าโดยสารไม่เกินอัตราของรถแท็กซี่ในปัจจุบัน ด้านรถขนาดใหญ่ มีค่าโดยสารไม่เกินอัตราของรถแท็กซี่วีไอพีในปัจจุบัน โดยสามารถมีค่าบริการเพิ่มเติมกรณีอื่นได้ แต่ต้องไม่เกิน 200 บาท ทั้งนี้รัฐมนตรีฯ จะเป็นผู้ประกาศกำหนดอัตราค่าโดยสาร
สำหรับรายละเอียดของแอปพลิเคชัน จะต้องเป็นแอปพลิเคชันสําหรับเรียกใช้บริการรถยนต์รับจ้าง ในส่วนของผู้ขับรถจะต้องมีระบบยืนยันตัวตน เช่น Pin Code, Fingerprint, Face Scan เป็นต้น อีกทั้งมีระบบคํานวณเส้นทาง ระยะเวลา และค่าโดยสารโดยประมาณ มีระบบรับส่งข้อความ โทรศัพท์กับผู้โดยสาร ในส่วนของผู้โดยสารจะมีระบบลงทะเบียนผู้โดยสาร ระบบเรียกใช้งานรถยนต์รับจ้างแบบทันทีและแบบจองล่วงหน้า รวมถึงมีระบบคํานวณเส้นทาง ระยะเวลา และค่าโดยสารโดยประมาณ ระบบประเมินความพึงพอใจต่อผู้ขับรถ และระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน
ขณะที่คุณสมบัติของผู้ให้บริการแอปพลิเคชันนั้นจะต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนตามที่กำหนดในประกาศ (ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท) และต้องมีสถานที่ประกอบการในประเทศไทย รวมถึงมีความพร้อมในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และต้องไม่เคยถูกเพิกถอนในการได้รับอนุญาตเป็นผู้ให้บริการระบบ GPS ตามกฎหมายของ ขบ.
สำหรับการดำเนินการเรื่องดังกล่าวนั้น นับเป็นนโยบายเร่งด่วนตั้งแต่ที่ศักดิ์สยาม เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 หรือผลักดันมาโดยตลอดกว่า 1 ปี 10 เดือนที่ผ่านมา พร้อมทั้งเป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่ระบุไว้ว่า การส่งเสริมนโยบายดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มทางเลือกด้านการบริการให้กับประชาชนมากขึ้น โดยที่ราคาค่าบริการจะต้องเกิดความเป็นธรรมทั้งผู้บริโภคและผู้ขับขี่แท็กซี่ด้วย