×

Paper Planes กับปรากฏการณ์ ‘ทรงอย่างแบด’ และของขวัญแสนบริสุทธิ์ ที่ทำให้อยากเป็นคนดีกว่าเดิม

27.01.2023
  • LOADING...

นาทีนี้ไม่มีใครที่มาแรงในกลุ่มวัยรุ่นฟันน้ำนมได้เทียบเท่า Paper Planes วงร็อกแห่งสังกัด genie records เจ้าของซิงเกิลสุดฮิตโดนใจแก๊งฟันน้ำนมอย่าง ทรงอย่างแบด (Bad Boy) ซึ่งทั้งสองหนุ่ม ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ และ เซน-นครินทร์ ขุนภักดี ได้แวะมาเปิดใจพูดคุยถึงช่วงชีวิตของพวกเขาในรายการ On That Day ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางดนตรี, ตัวตนของ Paper Planes และมุมมองชีวิตแบบใหม่ที่เปลี่ยนไปจากเดิม หลังเกิดปรากฏการณ์ยอดนิยมในมวลหมู่เด็ก 

 

สามารถรับชมรายการ On That Day x Paper Planes ได้ที่: 

 

 


 

1.

 

 

“ตอนนั้นดนตรีมันคือเสื้อผ้าสำหรับเรา เวลาเราทำเพลงที่เท่มากๆ มันทำให้เราดูแตกต่าง ดูเป็นผู้นำ รู้สึกว่ามันไม่มีใครทำแบบเรา แต่ตอนนั้นมันมีความเท่แบบเดียวจริงๆ เราทำได้ล้ำกว่าคนอื่น ทั้งเรื่องของซาวด์ ทุกอย่างคือเราทำได้แบบข้ามไปหลายปีมากๆ เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ แต่เราไม่นึกถึงการสื่อสารมากพอ เราไม่ได้คิดว่าท่อนนี้มันต้องมาเพราะมันจำเป็นอะไรกับเพลง ถ้าเป็นอย่างตอนนี้มันก็จะคิดว่าทำไมต้องเป็นท่อนนี้ ท่อนนี้มีความสำคัญอย่างไรต่อเพลง ไม่มีก็ตัดออก แค่นั้นเลย”

 

ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day x Paper Planes กับการทำเพลงแบบติดเท่ช่วงก่อนๆ จนกระทั่งเห็นถึงความแตกต่างหลังจากนั้น

 


 

2.

 

 

“มันสำคัญตรงที่เราได้ทำเยอะ (อัลบั้ม EP : HERS) ได้ทำหลายแบบ พอเรารู้ว่าได้ทำหลายแบบปุ๊บ มันเลยเริ่มย้อนกลับมาที่ตัวเองว่าแบบไหนที่มันใช่จริงๆ พอเริ่มตกตะกอนได้มากขึ้น มันก็เริ่มทำสิ่งที่เป็นมิวสิกมากขึ้น เช่น แบบตอนแรกมันเท่ไปเลย เราเริ่มรู้สึกว่าดนตรีมันต้องทำให้คนรู้สึก แล้วเราก็เริ่มให้ความสำคัญของคนมากขึ้น ไม่ใช่ว่าต้องให้คนเข้าถึงเรามากขึ้นนะครับ แต่แค่เราทำออกไปแล้วมีคนที่สามารถรู้สึกกับเพลงที่เราทำได้”

 

เซน-นครินทร์ ขุนภักดี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day x Paper Planes ถึงการทำ EP : HERS ด้านดนตรีและสิ่งที่ได้ทดลอง

 


 

3.

 

 

“ในวันนั้นคือวันที่ทั้งสองเราทำเบื้องหลังมาถึงประมาณหนึ่ง มันเลยตกตะกอนได้มากขึ้น เราได้ทำวงไปด้วย ทำเบื้องหลังไปด้วย เราเลยได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง เราเลยรู้สึกว่าการทำให้วงมีชื่อเสียง มันไม่ได้มีเทมเพลตหรือแพตเทิร์นเหมือนกัน แค่มันต้องหาจุดเด่นของตัววงนั้นๆ ศิลปินนั้นๆ เอง 

 

“มันก็เลยเป็นโจทย์ของเราว่า Paper Planes มันคือวงร็อกนอกกระแส จะทำอย่างไรให้มันมีตัวตนอยู่ในกระแส หรืออยู่นอกกระแสแล้วมันเติบโตในแบบของมันได้ ถ้าถามถึงแนววง Paper Planes มันไม่มีเลยในตอนนี้ อันนี้คือจุดแข็ง แต่จุดอ่อนของเราคือการสื่อสาร เราจะสื่อสารอย่างไรให้มันเข้าไปอยู่ในคนที่ฟังเพลงแบบ Mass Platform มันเลยเป็นโจทย์ของเรา แต่ว่าเราก็ไม่ได้เอามาครอบวิธีของเราขนาดนั้น แต่เราแค่คิดว่ามันไม่ต้องทำเอาใจเขาก็ได้ ถ้าเราสื่อสารมากพอ มันจะมีคุณค่าของมัน”

 

ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day x Paper Planes ถึงมุมมองที่มีต่อวง Paper Planes

 


 

4.

 

 

“แค่เราไปปรากฏตัวที่นั่น (การแสดงที่ซาฟารีเวิลด์) มันคือตอบโจทย์ในใจเราแล้ว แต่พอไปถึงวันนั้น มันมากกว่าการไปเล่นแล้ว ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมได้เจอ ณ​ วันนั้นและหลังจากนั้นมันมากกว่านั้น คนดูเยอะมาก เด็กๆ เยอะมาก แล้วก็เด็กๆ ส่งต่ออะไรมาให้ผมเยอะมาก เด็กๆ เซ็นกระเป๋าแล้วเอามาให้ผม มันจะมีภาพหนึ่งที่เป็นไวรัล น้องยื่นกระเป๋าสีส้มมาให้ผมเซ็น ทุกคนเข้าใจว่าผมเซ็นกระเป๋าให้น้องแล้วน้องเอากระเป๋ากลับไป แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ น้องเอากระเป๋ามาให้ผม แล้วน้องเขียนมาให้ เป็นความรู้สึกที่ดีเหมือนกัน แต่ว่าเรื่องมันลึกซึ้งกว่านั้นมาก”

 

ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day x Paper Planes ถึงปรากฏการณ์ ทรงอย่างแบด ในซาฟารีเวิลด์ ที่มีแต่แฟนคลับวัยรุ่นฟันน้ำนมห้อมล้อมพวกเขา

 


 

5.

 

 

“มันคือความรู้สึกบริสุทธิ์ที่เขาอยากจะมอบให้เรา เขาไม่ได้คิดเยอะ สิ่งที่เรารับมามันก็คือสิ่งธรรมดาเหมือนคนให้ของเราปกติ น้องชอบเราแล้วให้เรา แต่กลายเป็นว่าพอเราเปิดสิ่งเหล่านั้นออกมา มันเบ่งบานเข้ามาทั้งในวิธีคิดของเรา ในอารมณ์ของเรา บุคลิกภาพ นิสัย สันดานของเราหมดเลย ทำให้เรารู้สึกว่าเราจะทำอะไรเพื่อเด็กพวกนี้ได้บ้างในวันที่เรามีโอกาส เพราะว่าเมื่อย้อนกลับไปเป็นเด็ก เราไม่มีแน่ โอกาสที่จะมาอยู่ในซาฟารีเวิลด์หรือโอกาสที่จะได้ฟังวงที่เราชอบ กลับกลายเป็นว่ามันลบคมเล็บของเราให้ทู่ลง เพื่อให้เราเป็นคนดีบ้าง”

 

ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day x Paper Planes ว่าพวกเขาอยากเป็นคนที่ดีขึ้น หลังจากได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเด็กๆ อย่างอบอุ่น

 


 

6.

 

 

“บางคนอาจจะรู้สึกว่าเราต้องอยากเป็นสักอย่างหนึ่ง แต่ความเป็นจริงแล้ว บางทีเราอาจจะลองทำหลายอย่างก่อน ทำให้เยอะจนเรารู้ว่าเราชอบอะไร หรือบางทีเราทำไปแล้วเราอาจจะรู้สึกว่าเราไม่ได้ชอบแค่อย่างเดียว พอรู้สึกว่าเด็กโตขึ้น บางทีเขาอาจจะโฟกัสกับสิ่งที่เขาหาสิ่งเดียว แต่จริงๆ แล้วพอโตขึ้นเขาอาจจะรู้สึกว่า เขาจะต้องเจอสิ่งที่ชอบหลายอย่างขึ้น ก็เลยไม่อยากให้ซีเรียสว่าตอนนี้ยังไม่เจออะไร”

 

เซน-นครินทร์ ขุนภักดี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ On That Day x Paper Planes ฝากถึงเด็กรุ่นใหม่เกี่ยวกับเรื่องการตามหาความเป็นตัวเอง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising