ปากีสถานตอบโต้ทางการทูตอย่างรุนแรงต่ออินเดียโดยการสั่งระงับการออกวีซ่าให้กับชาวอินเดีย หลังเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงนักท่องเที่ยวในแคว้นแคชเมียร์ ซึ่งเป็นเขตปกครองของอินเดียและเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างทั้งสองประเทศตั้งแต่ปี 1947 หลังได้รับเอกราชจากอังกฤษ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน
นอกจากนี้ปากีสถานยังได้ขับนักการทูตอินเดียบางส่วนออกจากประเทศ ระงับการค้าและจำกัดเจ้าหน้าที่ทางทหารของอินเดียในสถานทูตให้เหลือเพียง 30 คน รวมถึงปิดน่านฟ้า ไม่ให้สายการบินของอินเดียบินผ่าน พร้อมทั้งปฏิเสธข้อกล่าวหาของอินเดียว่า ปากีสถานมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุในครั้งนี้
ทางด้าน นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้ออกมาแถลงการณ์อย่างแข็งกร้าวหลังเหตุกราดยิงว่า อินเดียจะตามล่าและลงโทษผู้ก่อเหตุและผู้อยู่เบื้องหลังอย่างสาสม ศัตรูของชาติกล้าทำร้ายจิตวิญญาณของประเทศ แต่จิตวิญญาณของอินเดียจะไม่มีวันถูกทำลายด้วยการก่อการร้าย
อินเดียเองก็ตอบโต้ด้วยการปิดด่านพรมแดน Attari-Wagah และระงับวีซ่าชาวปากีสถาน โดยเบื้องต้นทางการอินเดียกำลังเร่งสอบสวนคดีนี้ พร้อมเผยว่า ผู้ต้องสงสัย 3 รายในคดีนี้เป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ Lashkar-e-Taiba (LeT) ซึ่งมีฐานอยู่ในปากีสถาน ซึ่งกลุ่มติดอาวุธนี้ เคยก่อเหตุโจมตีในอินเดียมาแล้วหลายครั้ง เช่น เหตุโจมตีในมุมไบเมื่อปี 2008 ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 170 คน
เหตุการณ์นี้ทำให้ความตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถานปะทุขึ้นอีกครั้ง โดยมีการตอบโต้ทางการทูต การค้าระหว่างประเทศ และการใช้มาตรการที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งในวงกว้าง หากไม่มีการเจรจาหรือไกล่เกลี่ยอย่างเร่งด่วน
ภาพ: Reuters
อ้างอิง: