×

10 ปี Pacific Rim มหันตภัยกองทัพไคจู กับหุ่นเหล็กพิทักษ์โลก

12.07.2023
  • LOADING...
Pacific Rim

“การจะสู้กับปีศาจ เราต้องสร้างปีศาจของตัวเอง”

 

คำโปรยสุดฮึกเหิมที่ถูกป่าวประกาศในช่วงเวลาอันสั้นนี้ได้กลายเป็นเหมือนม่านที่รูดเปิดฉากเรื่องราวการต่อสู้ห้ำหั่นกันระหว่างเหล่าหุ่นยนต์กับกองทัพสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาที่ผุดขึ้นมาจากท้องทะเล

 

สถานการณ์อันคับขันของมนุษย์ถูกบอกเล่าออกมาเป็นเหมือนอารัมภบทอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที แต่ 5 นาทีที่ว่ากลับกลายเป็นมนตร์เสน่ห์ที่น่าลุ่มหลง เมื่อมันสามารถดึงคนดูเข้าไปอยู่ในโลกของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

 

Pacific Rim

 

“มีสองสิ่งที่ผมเคารพรักในชีวิต นั่นคือ ไคจู และ หุ่นยนต์รบ” Guillermo del Toro เผยถึงแรงบันดาลใจที่เขาใช้เป็นสารตั้งต้นในการทำ Pacific Rim

 

อาจกล่าวได้ว่า del Toro ทำหนังเรื่องนี้ตามจินตนาการที่ตัวเองเคยวาดเอาไว้ในวัยเด็กก็คงจะไม่ผิดนัก ทุกอย่างจึงไม่อิงขนบใดๆ แค่กำหนดให้เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงที่มนุษย์กำลังจะพ่ายแพ้ให้กับกองทัพสัตว์ประหลาดที่วันหนึ่งก็ผุดขึ้นมาจากใต้ท้องทะเลโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่แล้วทั้งโลกก็รวมตัวกันเพื่อสร้างหุ่นเหล็กขนาดใหญ่ที่มีกำลังมากพอจะต่อกรกับสัตว์ประหลาดเหล่านั้นได้

 

นี่คือพล็อตเรื่องที่แสนเรียบง่าย แต่กลับทรงพลังเมื่อ del Toro เลือกจะนำเสนอมันออกมาอย่างซื่อตรงเพื่อที่จะทำให้ผู้ชมรวมถึงตัวเขารู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอายุ 12 อีกครั้ง 

 

ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นว่าตลอดทั้งเรื่องนั้น หนังไม่ได้มีเรื่องราวที่เล่นท่ายากอะไรมากมายในเชิงบท มันมีแค่การต่อสู้ เดินหน้า พ่ายแพ้ และชนะ ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแนวทางหลักของหนังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดอยู่แล้ว

 

Pacific Rim

 

แต่สำหรับ del Toro เขาไม่ได้คิดว่าหนังเรื่องนี้ต้องมีแค่เรื่องราวของหุ่นยนต์กับสัตว์ประหลาดเพียงอย่างเดียว เพราะการนำเสนอตัวละครในฝั่งมนุษย์ให้กลายเป็นที่จดจำก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน การแบ่งสันปันส่วนให้ออกมาสมดุลไม่ขาดล้นจนเกินไปจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมตัวละครส่วนใหญ่ที่ปรากฏตัวในหนังถึงล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็น พระเอกที่เป็นนักขับหุ่นชาวอังกฤษ โดยมีนางเอกคู่หูเป็นคนญี่ปุ่น นายพลที่ยืนหยัดต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว สองนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง หรือกระทั่งพ่อค้าตลาดมืด ที่โผล่มาครั้งแรกเราทุกคนต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่าเขามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจริงๆ

 

การนำเสนอปูมหลังตัวละครจึงเป็นเหมือนพื้นหลังที่คอยขับความเข้มข้นของเนื้อหาให้ไม่ดูเด็กจนเกินไป ในขณะที่เหล่าหุ่นยนต์กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับกองทัพสัตว์ประหลาด ถึงกระนั้น ฝ่ายที่พัฒนาก็ไม่ได้มีแค่มนุษย์เพียงอย่างเดียว เพราะจุดเด่นสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของ Pacific Rim คือสัตว์ประหลาดมีพัฒนาการตามด้วย

 

โดยในช่วงแรกสัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวนั้นจะมีระดับอยู่แค่ 1-3 แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานวันมันก็เผยให้เห็นว่ามหันตภัยในครั้งนี้ได้เติบโตรุดหน้าพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ จากระดับ 3 ไปเป็นระดับ 4 และจากระดับ 4 ไปเป็นระดับ 5 ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นเหมือนนาฬิกาจับเวลาที่จะพาเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปสู่จุดจบ 

 

Pacific Rim

 

กรอบเวลาที่เหลืออยู่กลายเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่พาผู้ชมไปเผชิญหน้ากับความลุ้นระทึกของสถานการณ์ต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น การรวมตัวกันเพื่อหยุดยั้งหายนะจึงเป็นเหมือนเป้าประสงค์สุดท้ายของการต่อสู้ระหว่างหุ่นยนต์พิทักษ์โลกกับสัตว์ประหลาด

 

และฉากที่หลายคนน่าจะจดจำกันได้เป็นอย่างดีก็คือ การต่อสู้ระหว่างไคจูระดับ 4 สองตัวกับเหล่าบรรดาหุ่นยนต์เยเกอร์ทั้งสี่บนน่านน้ำฮ่องกง ที่เรียกได้ว่านอกจากมันจะมอบความตื่นเต้นและแอ็กชันสุดตระการตาให้กับผู้ชมแล้ว แสงสีรวมไปถึงความมันสะใจต่างๆ ล้วนถูกยกระดับขึ้นด้วยดนตรีปลุกเร้าที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศให้คล้ายกับการพาเราย้อนกลับไปเป็นเด็กน้อยที่นั่งชมหนังสัตว์ประหลาดอย่างสนุกสนานอีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องคิดถึงหลักเหตุผลใดๆ

 

แม้หุ่นยนต์หรือสัตว์ประหลาดบางตัวจะได้ออกแอ็กชันไม่นาน แต่สิ่งสำคัญคือ พวกเขาต้องโดดเด่นที่สุด โดย del Toro ที่เป็นผู้กำกับได้ว่าจ้างศิลปิน 16 คนให้มาช่วยกันออกแบบไว้หลายพันตัว จากนั้นในแต่ละสัปดาห์พวกเขาจะร่วมกันโหวตว่าแบบไหนคือ ใช่ หรือ ไม่ใช่ เพื่อคัดภาพร่างเหล่านั้นออกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ตัวที่โดนใจจริงๆ ก่อนจะส่งมอบให้กับ ILM เป็นผู้สานต่อ ซึ่ง del Toro ให้นิยามถึงช่วงเวลานั้นว่าเป็นเหมือนรายการ ‘American Idol

 

อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของเหล่าหุ่นยนต์และสัตว์ประหลาดก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยอ้างอิงจากเรื่องราวในโลกแห่งความเป็นจริง อย่างในกรณีของเยเกอร์ del Toro ตั้งใจที่จะให้พวกมันยืนได้ด้วยตัวเอง และมีต้นแบบมาจากเทคโนโลยีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนรายละเอียดของไคจู del Toro และทีมงานเองก็ได้หยิบยืมมาจากตำนานต่างๆ รายการ National Geographic หรือแม้กระทั่งหนังสัตว์ประหลาดชั้นครูของญี่ปุ่น ซึ่งนัยหนึ่งก็กลายเป็นเหมือนการให้ความเคารพต่อหนังเหล่านั้นด้วย

 

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้ผู้ชมจดจำเอกลักษณ์เฉพาะตัวบางอย่างของมันได้ ซึ่งเป็นสิ่งตอกย้ำที่ว่าทำไมงานดีไซน์ในหนังของ del Toro ถึงไม่เคยทำผู้ชมผิดหวัง

 

Pacific Rim

 

นอกจากนี้ เบื้องหลังของความสำเร็จเหล่านั้นทั้งตัวนักแสดงและผู้กำกับเองต่างก็ทุ่มเทให้กับผลงานชิ้นนี้เป็นอย่างมาก โดยนักแสดงที่ต้องรับบทเป็นคนขับเยเกอร์ต้องฟิตร่างกายกันอย่างหนักเพื่อให้พวกเขามีความพร้อมที่สุดยามต้องถ่ายฉากภายในห้องบังคับ เพราะภายในนั้นนักบินทุกคนต้องสวมใส่ชุดหนักอึ้งและออกแรงยื้อยุดฉุดกระชากกับเหล่าบรรดากลไกมากมายที่เชื่อมติดชุดเหล่านั้น ซึ่ง Rinko Kikuchi ผู้รับบทนางเอกเคยออกมาให้สัมภาษณ์ในตอนนั้นว่า “นี่คืองานที่ต้องทุ่มเทกายและใจมากที่สุดตลอดเส้นทางอาชีพของฉันเลย” พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายแบบติดตลกว่า “ฉันทั้งรักทั้งเกลียดการขับหุ่นเยเกอร์เลยค่ะ”

 

หรือแม้แต่ del Toro เองก็ทุ่มเทให้กับการหนังเรื่องนี้ชนิดที่ว่าทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบ 7 วันต่อสัปดาห์เพื่อหวังให้ผลงานชิ้นนี้ออกมาสมน้ำสมเนื้อกับมนตร์เสน่ห์ที่หล่อหลอมเขาให้กลายมาเป็นผู้กำกับในทุกวันนี้ 

 

Pacific Rim

 

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Pacific Rim ถึงยังคงเป็นภาพยนตร์แอ็กชันหุ่นยนต์ปะทะสัตว์ประหลาดที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบทศวรรษ นั่นก็เพราะมันมีความเป็นเด็ก แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทิ้งความเป็นผู้ใหญ่เสียทีเดียว และที่สำคัญคือองค์ประกอบต่างๆ ของหนังนั้นล้วนถูกสร้างขึ้นมาด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้กำกับที่ใครก็ยากจะเลียนแบบได้

 

ทุกสิ่งอย่างค่อยๆ ประกอบรวมกันกลายเป็นภาพจำของหนังที่ถึงแม้วันนี้จะผ่านไปนาน 10 ปี แต่ยังดูสดใหม่และสร้างความตื่นตาให้กับผู้ชมได้เสมอ 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising