×

รอบชิงฯ NBA 1998 ในรอยจำ

03.06.2023
  • LOADING...

ขณะที่ไมอามี่ ฮีต กับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ กำลังขับเคี่ยวเพื่อหาตำแหน่งแชมป์ NBA ทีมล่าสุด ความทรงจำของผมก็นึกย้อนกลับไปถึงคู่ชิงฯ ที่รู้สึกตื่นเต้นหรือมีดราม่าว่าเกิดขึ้นในช่วงใดบ้าง

 

เนื่องจากเป็นความทรงจำของผม จึงไม่นำเอารอบชิงฯ​สมัยคู่แค้น เลเกอร์ส เซลติกส์ ฟาดฟันกันยุค 80 มาสาธยายได้ เพราะไม่เคยได้ดูกับตา การถ่ายทอดสดก็ยังไม่มีในประเทศไทย

 

ความประทับใจรอบชิงฯ หลายคนอาจนึกถึงซีรีส์ ซึ่งต้องแข่งกัน 7 เกม อย่างเช่น คลีฟแลนด์ แคฟเวเลียร์ส คัมแบ็กใส่ โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ปี 2016 หรือลูกอัศจรรย์ของ เรย์ แอลเล่น ส่องใส่ ซาน แอนโตนิโอ สเปอร์ส มีส่วนทำให้ ไมอามี่ ฮีต คัมแบ็กมาครองแชมป์ 2013

 

หรือจะเป็นสมัย โคบี้ ไบรอันท์ นำทัพเลเกอร์ส ฟาดฟัน พอล เพียร์ซ ของบอสตัน เซลติกส์ ในปี 2010

 

 

ผมก็เช่นกัน แต่ใช้คำว่าประทับใจไม่น่าได้

 

ยุคนั้นผมเพิ่งเริ่มเข้าทำงาน ในฐานะแฟนกีฬาหลากหลาย ทั้งฟุตบอลอังกฤษ, บาส NBA หรือว่าจะเป็น NFL

 

ปี 1994 ผมยังทำงานไปและเชียร์บาสไปในฐานะแฟนนิว ยอร์ค นิกส์ เพราะตามโค้ชแพท ไรลี่ย์ ตั้งแต่สมัยมาดสุดเท่คุมอยู่เลเกอร์สแล้ว ท้ายที่สุดกลับโดนฤทธิ์เดช ฮาคีม โอลาจูวอน เสาหลัก ฮิวสตั้น ร็อคเก็ตส์ เข้าไป จนต้องปราชัย 3-4 เกม ทั้งที่ขึ้นแท่นซีรีส์ก่อน

 

คงไม่มีใครเขียนเรื่องชอกช้ำได้ถนัดสักเท่าไรหรอกครับ สู้เรื่องน่าประทับใจไม่ได้ 3 ซีรีส์ที่ผมยกมาอยู่ในอันดับแน่นอน

 

แต่ในเมื่อผมจั่วหัวว่าเป็นรอยจำ ก็คงต้องย้อนอดีตนานหน่อยถึงเหตุการณ์เมื่อปี 1998

 

นั่นคือรอบชิงฯ ที่คนดูทางทีวีเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA แซงแม้แต่เวิลด์ซีรีส์

 

มันคือหนแรกของสหรัฐอเมริกาที่รอบชิงฯ บาสเกตบอล เรียกเรตติ้งได้เหนือกว่า เมเจอร์ ลีก เบสบอล

 

กระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่มีปีไหนหรือคู่ไหนยกระดับขึ้นมาเทียบเคียงได้

 

ใช่แล้วครับ ผมหมายถึงชิคาโก้ บูลล์ส ปะทะ ยูท่าห์ แจซ โดยลงเอยกันแค่ 6 เกม

 

รอยจำของผมเวลาถามตัวเองถึงเหตุการณ์รอบชิงฯ NBA เดอะลาสท์ช็อต (ขณะนั้น) ของ ไมเคิ่ล จอร์แดน ตำนานบูลล์สจะขึ้นมาก่อนใคร เพราะทำหน้าที่บรรยายอยู่พอดี

 

 

ซีซันดังกล่าวจอร์แดนประกาศรีไทร์เอาไว้ล่วงหน้า แข่งที่ไหนสนามก็แทบแตก แม้จะมีเมฆหมอกดำรอเคลื่อนตัวเข้ามา เพราะข้อตกลงเพื่อประโยชน์ร่วมกันระหว่างทางลีกกับสหภาพผู้เล่นหมดลงโดยไม่สามารถเจรจาได้อย่างลงตัว แต่แฟนบาสเกตบอลขออยู่กับปัจจุบันเอาไว้ก่อน

 

ขณะที่รอบชิงฯ ปีนั้นยังเป็นศึกล้างตาให้ คาร์ล มาโลน, จอห์น สต็อคตั้น เสาหลัก แจซ หลังจากซีซัน 1997 เพิ่งพ่ายบูลล์ส 2-4 เกม โดย 3 เกมที่พวกเขาแพ้ 82-84 (เกมแรก), 88-90 (เกม 5 คาบ้าน ทำให้ตกเป็นรอง 2-3 เกม ทั้งๆ จอร์แดนป่วยก่อนแข่งยังลงมาสกอร์ 38) และศึกตัดสิน 86-90 (โดนทีเด็ดของ สตีฟ เคอร์ เข้าไป) จะไม่ให้คาใจยังไงไหว?

 

มาเจอกันใหม่ แม้กระแสจอร์แดนจะแรงมาก แต่แจซปราบบูลล์สทั้งสองเกมฤดูกาลปกติ 101-94 และ 101-93

 

ดังนั้นเมื่อสถิติฤดูกาลปกติเท่ากัน 62-20 ความได้เปรียบของการแข่งรอบชิงฯ ในบ้านจะเป็นของยูท่าห์ด้วยกฎเฮดทูเฮด

 

บูลล์สผ่าน 2 รอบแรกไม่ยาก เจอนิว เจอร์ซี่ย์ เน็ตส์ กับชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ แต่ต้องเจอกระดูกชิ้นโตอย่างเรจจี้ มิลเลอร์ และขุนพลอินเดียนา เพเซอร์ส โดนมิลเลอร์ ชู้ตปลิดชีพใส่ในเกม 4 กว่า เฉือนชนะรอบชิงฯ ​ตะวันออก ไป 4-3 เกม โดยเกม 7 ตัดสินที่ยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ สนามของชิคาโก้ 88-83

 

 

พักแค่ 2 วันก็ต้องสู้ต่อรอบชิงชนะเลิศ

 

ส่วนแจซออกแรงหนักรอบแรก เมื่อเจอด่านสุดเก๋าอย่างร็อคเก็ตส์ มีตัวลายครามแบบ โอลาจูวอน, คลายด์ เดร็กซ์เลอร์ และ เควิน วิลลิส เฉือนไป 3-2 เกม

 

ก่อนจะผ่านทั้งสเปอร์ส ซึ่ง ทิม ดันแค่น ยังเป็น Rookie of the Year 4-1 เกม, เคี้ยวเลเกอร์สง่ายดาย 4-0 เกม แม้ตอนนั้นตำนานแอลเอทั้ง แช็คคิลล์ โอนีล และ โคบี้ จะเริ่มจับคู่กันแล้วก็ตาม แต่โคบี้ยังเป็นเพียงเด็กน้อย ตัวช่วยของแช็คคือ เอ็ดดี้ โจนส์ มากกว่า

 

การปิดฉากซีรีส์ชิงฯ ตะวันตก อย่างรวดเร็ว ทำให้แจซได้พักคล้ายนักเก็ตส์ปัจจุบัน ก็คือยาวถึง 10 วัน

 

รอบชิงฯ ปีดังกล่าวคือครั้งแรกตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งทั้งสองทีมหน้าเดิมมาเจอกัน

 

สายตาผู้เชี่ยวชาญมองว่า แจซมีโอกาสล้างแค้น ครองแชมป์สมัยแรกของแฟรนไชส์เหมือนกัน

 

ขัดกับทางเวกัส ยังให้บูลล์สเป็นต่อด้วยราคา 6/5 แม้ต้องไปแข่งที่ยูท่าห์ก่อน 2 เกมแรก

 

ปรมาจารย์โค้ช ฟิล แจ็คสัน ไม่เสียแรงฉายา เซน มาสเตอร์ พยายามฝังหัวลูกทีมว่าพวกเขาคือพระรอง

 

“มันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง” สก็อตตี้ พิพเพ่น คู่หูจอร์แดนในขณะนั้น กล่าว “เราไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้ แบบที่โดนมองข้าม มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากกับการถูกมองว่ารองบ่อน เพราะทำให้คุณอยากลงไปพิสูจน์ว่าทุกคนมองผิด”

 

 

จอร์แดนก็ยอมรับหลังจากเพิ่งสยบเพเซอร์ส “เราต้องผ่านถึง 7 เกม ขณะที่พวกเขาพักมาเต็มๆ ได้เปรียบแข่งในบ้านมากกว่าอีก เราต้องต่อสู้กับหลายอย่าง”

 

แค่เกมแรกก็สูสีสุดๆ แล้ว บูลล์สคัมแบ็กควอเตอร์ 4 ที่ 20-12 ไล่ตีเสมอ ส่งผลให้การแข่งขันต่อเวลา ก่อนจะพลาดท่า 85-88

 

พวกเขาตั้งเป้าก่อนมาซอลท์ เลค ซิตี้ ขอเอากลับไปเกมหนึ่งก็ยังดี แล้วค่อยกวาด 3 เกมตรงกลางที่ยูไนเต็ดเซ็นเตอร์

 

ยุคนั้นรอบชิงฯ NBA ยังใช้ระบบ 2-3-2 หมายถึงทีมวางอันดับสูงแข่งในบ้านก่อน 2 นัด ไปเยือน 3 เกม และกลับมาบ้านตัวเอง 2 หนสุดท้ายของซีรีส์

 

(ระบบ 2-2-1-1-1 อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน เริ่มใช้ในรอบชิงฯ เมื่อปี 2014)

 

“ทุกคนฟันธงกันว่า เพราะแจซได้เปรียบที่แข่งในบ้าน พวกเขาก็จะฝ่ายชนะซีรีส์” พิพเพ่นกล่าว

 

“แต่เรามองว่า ขอแค่เดินทางไปเก็บสักเกม สถานการณ์จะพลิกกลับมาทางเราเต็มๆ ขอแค่ลงแข่งด้วยความตั้งใจเต็มที่ เราไม่คิดว่าพวกเขาได้เปรียบเลย มันเป็นเวลาให้พวกเราพิสูจน์ว่าสามารถเอาชนะซีรีส์โดยไม่ต้องได้เปรียบการแข่งในบ้าน”

 

จอร์แดนสำทับว่า “ผมมองพวกเรารองบ่อนก็จริง แต่ผมยังคิดว่าเราคือแชมเปียน ซึ่งยังไม่ตกบัลลังก์ ไม่ว่าใครจะฟันธงอย่างไร เราก็จะลงไปแล้วพิสูจน์ว่าเนื้อแท้พวกเราเป็นแบบไหน”

 

เกม 2 บูลล์สคัมแบ็กควอเตอร์ 4 อีกแล้ว 23-15 แซงคว้าชัย 93-88 โดยจอร์แดนทำคนเดียว 37 คะแนน เขา พิพเพ่น และ โทนี่ คูโคช แข่งกันแทบไม่พัก เกิน 40 นาที ไล่ตีเสมอซีรีส์ 1-1

 

 

จะว่าไปผมมองนักเก็ตส์คล้ายกับแจซด้วยซ้ำ เพราะมี นิโกล่า โยคิช กับ จามาล เมอร์รี่ย์ คือตัวชูโรงเหมือนมาโลนและสต็อคตั้น

 

ตัวประกอบนักเก็ตส์พวก ไมเคิ่ล พอร์เตอร์, แอร่อน กอร์ดอน หรือ บรูซ บราวน์ ก็คล้ายกับที่แจซมี บายร่อน รัสเซลล์, เจฟฟ์ ฮอร์นาเซ็ค, ฮาเวิร์ด ไอสลี่ย์ และ แชนด้อน แอนเดอร์สัน

 

เกม 3 ที่ช็อตฟิลอย่างมาก บูลล์สกลับไปบ้านไล่ถล่ม 96-54 แบบที่เป็นสถิติมาจนปัจจุบัน ทั้งต้อนขาดลอยสุด 42 คะแนน และเสียแต้มรอบชิงฯ น้อยที่สุด

 

โมเมนตัมเทมาทางบูลล์สเกือบหมด เมื่อยังเก็บเกม 4 86-82 ขึ้นแท่นซีรีส์ 3-1 จอร์แดนสกอร์ 34 พิพเพ่นอีก 28

 

ผมยังนึกว่ารอบชิงฯ 1998 คงจบเห่แค่ 5 เกมแน่ เพราะยังแข่งต่อที่ยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ โดยจอร์แดนจะได้แข่งเกมสุดท้ายที่นั่น คว้าแชมป์ที่นั่น ปิดจ็อบรีไทร์อย่างงดงาม มีการเตรียมคอนเฟตติร่วมร้อยกิโลกรัมเอาไว้บนหลังคาเพื่อเฉลิมฉลองกันแล้ว

 

ที่ไหนได้ มาโลนกลับระเบิดผลงาน ทำ 39 แต้ม โดย 17 ในนั้นเกิดขึ้นควอเตอร์ 3 ทั้งเกมชู้ตลง 17 จาก 27 ครั้ง ทำให้แจซขึ้นมาได้เปรียบ

 

บูลล์สไล่บดมาจากคูโคชซัดระยะ 3 ลง 81-82 เหลือเวลา 5.5 วินาที ฮอร์นาเซ็ค ตัวยิงโทษระดับ 88.5% ดันพลาดฟรีโทรวหนหนึ่ง ก่อนจบเกม 1.1 วินาที ยูท่าห์นำเพียง 2 คะแนน

 

โอกาสจะต่อเวลาเกิดขึ้นทันที

 

บูลล์สส่งเข้ากลางคอร์ต บรรยากาศตึงเครียดมาก เจอร์รี่ สโลน โค้ชแจซ และ แจ็คสัน โค้ชบูลล์ส ต่างขอเวลานอกวางแผนกัน

 

สต็อคตั้นปัดบอลส่งเข้าหนแรก เวลาลดเหลือ 0.8 วินาที ก่อนที่จอร์แดนจะพยายามชู้ตระยะ 3 โด่ง แล้วกลายเป็นแอร์บอล

 

แฟนๆ ในยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ตกตะลึงกันเป็นแถบ บูลล์สพ่ายคารัง 81-83

 

แจซไล่ซีรีส์เข้ามา 2-3 เกม และได้กลับบ้านที่เดลตาเซ็นเตอร์ 2 ตัดสินด้วย

 

เกม 6 รอบตรงกับเช้าวันที่ 15 มิถุนายน 1998 ตามเวลาประเทศไทย

 

พิพเพ่นคงเจ็บใจที่นัดก่อนเขาฟอร์มห่วย ยิงลงเพียง 2 จาก 16 ครั้ง ทำ 6 คะแนน

 

เปิดเกมมาจึงพยายามสแลมดังก์ ทำให้กล้ามเนื้อแผ่นหลังกระตุกจากการกรำศึกกำเริบ ฝืนแข่งช่วงเวลาที่เหลือด้วยอาการหลังแข็ง

 

ทั้งเกมลงได้ 26 นาที มี 8 แต้ม ชู้ตลง 4 จาก 7 หน

 

กลายเป็นจอร์แดนต้องรับบทเดอะแบก ชู้ต 35 จาก 67 ลูกของชิคาโก้

 

เขาลงแข่ง 44 นาที ทำ 45 คะแนน ขณะที่มาโลนก็ปักหลักสู้ไม่เบา แข่ง 43 นาที มี 31 แต้ม

 

แจซนำ 66-61 เมื่อเข้าควอเตอร์ตัดสิน ทำท่าจะยื้อซีรีส์ให้ถึงเกม 7 แค่เอื้อม

 

สต็อคตั้นซัดระยะ 3 สำคัญ ทีมยังคงเหนือกว่า 86-83 กับเวลาแค่ 41.9 วินาที

 

จอร์แดนเข้าเลย์อัพลง ตัดช่องว่างมาเหลือ 1

 

แต่แจซเป็นฝ่ายบุกและมีเวลาในมือ 18.9 วินาที พวกเขาครองบอลจนหมดเวลาก็จะคว้าชัย

 

ปราฏว่ามาโลนดันพลาดมหันต์ ขณะพยายามโพสต์ด้านในใส่จอร์แดน โดนฉกบอล!

 

จอร์แดนพาขึ้นไปเอง รัสเซลล์พยายามประกบ เหลือเวลาอีก 12 วินาที 11, 10… จอร์แดนครอสส์โอเวอร์ใส่จนรัสเซลล์เสียหลัก ขึ้นชู้ตระยะ 20 ฟุต บูลล์สแซงนำ 87-86 เหลือเวลาแค่ 5.2 วินาที

 

 

ในใจขณะที่ผมบรรยายเกม เอนเอียงไปฟากแจซด้วยซ้ำ แต่รอยจำที่จอร์แดนชู้ตลูกนั้นลงไปก็คือหัวใจยังอดเต้นระรัวไม่ได้

 

ลูกสุดท้ายของตำนาน NBA

 

ภาพหลังจากนั้นก็เบลอจนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าโค้ชสโลนขอเวลานอก เรียกแผนให้ สต็อคตั้นรับส่งเข้าชู้ตระยะ 3 พลาดเป้า

 

ผู้เล่นบูลล์สกรูกันลงมาฉลองแชมป์สมัยที่ 6 โดยที่จอร์แดนถูกโหวตให้เป็น MVP รอบชิงฯ สมัยที่ 6 เช่นกัน

 

มีการบันทึกว่า คนดูเกมดังกล่าวที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนมากถึง 35.9 ล้านคน

 

เรามาร่วมกันติดตามว่า ผลลงเอยระหว่างนักเก็ตส์-ฮีตในบั้นปลาย จะกลายเป็นรอยจำของหลายคนได้บ้างไหม?

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X