อังกฤษเร่งสืบ หลังพบโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ระบาด ติดเชื้อแล้วกว่า 400 ราย

สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UK Health Security Agency: UKHSA) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 มกราคม) ว่า กำลังเร่งดำเนินการสืบสวนกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่เรียกว่า BA.2 หลังพบผู้ติดเชื้อในอังกฤษแล้วมากกว่า 400 ราย โดยนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดกำลังจับตาการแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์นี้อย่างใกล้ชิด

โอมิครอนสายพันธุ์ BA.2 นั้นถูกเรียกว่าเป็นโอมิครอนสายพันธุ์ล่องหน เนื่องจากการตรวจเชื้อที่พบได้ยากขึ้นแม้จะใช้ชุดตรวจแบบ PCR ซึ่งล่าสุด UKHSA กำหนดให้เป็นสายพันธุ์ที่อยู่ระหว่างการสืบสวน (Variant Under Investigation: VUI)

จำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอน BA.2 ที่ยืนยันว่าพบในอังกฤษมีทั้งหมด 426 ราย โดยรายแรกๆ นั้นพบตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม จากการวิเคราะห์เบื้องต้นคาดว่าอาจแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมที่เรียกว่า BA.1 แต่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่มีการยืนยันที่ชัดเจน และยังไม่มีการกำหนดให้โอมิครอน BA.2 อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่าเป็นกังวล (Variant of Concern)

ด้าน ดร.มีรา แชนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายเหตุการณ์ของ UKHSA กล่าวว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโอมิครอน BA.2 นั้นสามารถก่อให้เกิดอาการป่วยรุนแรงได้มากกว่าโอมิครอน BA.1 หรือไม่ ซึ่งเธอชี้ว่า การเกิดสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่เน้นย้ำความสำคัญในการเฝ้าระวังและตรวจสอบพันธุกรรมของไวรัส

“เป็นที่คาดการณ์ได้ว่าเราจะยังคงได้เห็นสายพันธุ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น การเฝ้าระวังทางพันธุกรรมอย่างต่อเนื่องช่วยให้เราสามารถตรวจพบพวกมันและประเมินได้ว่ามีความร้ายแรงหรือไม่” เธอกล่าว

ขณะที่ UKHSA เปิดเผยว่า จะมีการวิเคราะห์ข้อมูลของโอมิครอน BA.2 เพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบลักษณะการแพร่เชื้อ และทำความเข้าใจว่าโอมิครอนสายพันธุ์นี้จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ระบาดของโควิดในอังกฤษช่วงหลายสัปดาห์หลังจากนี้ได้อย่างไร

สำหรับพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อโอมิครอน BA.2 ในอังกฤษมากที่สุดคือ กรุงลอนดอน พบผู้ติดเชื้อ 146 ราย นอกจากนั้นพบในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ 97 ราย

ส่วนในต่างประเทศมีรายงานการตรวจพบกรณีการระบาดของโอมิครอน BA.2 แล้วกว่า 40 ประเทศ รวมถึงอินเดีย เดนมาร์ก สวีเดน และสิงคโปร์ ซึ่งในเดนมาร์กนั้นพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน BA.2 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2021 พบในผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 20% และเพิ่มเป็น 45% ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของปีนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง: