×

ซิโมน ไบลส์ ราชินียิมนาสติกผู้ขอปกป้องหัวใจตัวเองมากกว่าเหรียญโอลิมปิก

28.07.2021
  • LOADING...
Simone Biles

ในวันที่ 5 ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 เกิดเรื่องราวไม่คาดฝันขึ้นนอกจากการกระเด็นตกรอบ 3 ของ นาโอมิ โอซากะ นักเทนนิสหญิงเจ้าภาพที่เป็นตัวเก็งของการแข่งขันในเทนนิสหญิงเดี่ยวแล้ว ซิโมน ไบลส์ นักยิมนาสติกหญิงทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักยิมนาสติกที่เก่งกาจที่สุดตลอดกาล ได้ตัดสินใจขอถอนตัวจากการแข่งขันกลางคัน โดยเหตุเกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันยิมนาสติกหญิงประเภททีม ซึ่งเธอช็อกทุกคนเมื่อหันไปบอกกับผู้ฝึกสอนว่าฉันไม่ต้องการลงแข่ง ฉันพอแล้วก่อนที่จะหันไปขอโทษเพื่อนร่วมทีมทุกคน สวมกอดให้กำลังใจ และยังอยู่ในสนามเพื่อเชียร์เพื่อนต่อไป

 

แม้จะไม่มีไบลส์ ทีมชาติสหรัฐฯ ยังสามารถคว้าเหรียญเงินมาครองได้​ (ทีม ROC ได้เหรียญทองไปครอง) แต่คำถามสำคัญที่ทุกคนอยากรู้และจับตาดูคือ ราชินียิมนาสติกวัย 24 ปี จะกลับมาทำการแข่งขันต่อหรือไม่ในประเภทรวมอุปกรณ์ในวันพฤหัสบดีนี้

 

และเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่?

 

ความคาดหวังที่กลายเป็นยาพิษ

ด้วยความที่เธอกวาดแชมป์ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกมาได้ถึง 19 เหรียญ เป็นเจ้าของเหรียญโอลิมปิกมา 4 เหรียญ ทำให้ก่อนหน้าที่จะลงแข่งขันในรายการโตเกียวโอลิมปิกครั้งนี้ ทุกคนจึงคาดหวังว่าเธอจะมาสร้างตำนานบทใหม่อย่างแน่นอน

 

โดยเฉพาะการกวาดเหรียญทองครบ 6 เหรียญ ในการแข่งขันยิมนาสติกครั้งนี้ ซึ่งหากทำได้จะทำให้เธอกลายเป็นสุดยอดนักยิมนาสติกที่เก่งกาจที่สุดตลอดกาลเพียงคนเดียวอย่างแท้จริง ประหนึ่ง ไมเคิล เฟลป์ส ของวงการว่ายน้ำ หรือ ยูเซน โบลต์ ของวงการกรีฑา

 

แต่ความคาดหวังจากทุกคนนั้นค่อยๆ กดทับหัวใจของไบลส์ จนสุดท้ายเธอก็ยอมรับว่าเธอรับมันไม่ไหวอีกต่อไป

 

ฉันไม่เชื่อตัวเองมากเท่าที่ฉันเคยเชื่อ ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอายุหรือเปล่า ฉันรู้สึกประหม่ามากขึ้นเมื่อลงแข่งยิมนาสติก ฉันรู้สึกว่าฉันไม่สนุกกับมันอย่างที่ฉันเคยเป็นไบลส์กล่าว

 

การแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้คือสิ่งที่ฉันหวังเอาไว้ว่าจะทำเพื่อตัวเอง แต่เมื่อมาถึงแล้วฉันกลับรู้สึกว่าฉันกำลังทำเพื่อคนอื่นอยู่ มันทำให้ฉันเจ็บใจกับการทำสิ่งที่ฉันทำด้วยความรักถูกพรากออกไปเพื่อทำให้ทุกคนพอใจ

 

เบื้องหลังแรงกดดันของราชินียิมนาสติก

ในเบื้องหน้า ไบลส์ได้รับการยกย่องว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ที่โด่งดังที่สุดของการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้เคียงคู่กับ โนวัค ยอโควิช และ นาโอมิ โอซากะ และเป็นขวัญใจของชาวอเมริกันด้วยความเก่งกาจระดับมหัศจรรย์ของเธอ รวมถึงรอยยิ้มสดใสของเธอที่ว่ากันว่าเด็กที่เห็นรูปของเธอในซูเปอร์มาร์เก็ตก็ยังต้องยิ้มตอบเพราะคิดว่าเจอคนที่กำลังยิ้มให้จริงๆ

 

แต่ในเบื้องหลังแล้วซูเปอร์สตาร์ผู้นี้แบกรับความกดดันหนักหน่วงมาโดยตลอด ไม่นับสิ่งที่กระทบใจเธอไม่น้อย เธอต้องให้คำปรึกษาเกี่ยวกับคดีอื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์วงการยิมนาสติกของ แลร์รี นาสซาร์ อดีตแพทย์ประจำทีมที่กระทำการอนาจารล่วงละเมิดทางเพศแก่นักยิมนาสติกนับร้อยคน

 

สิ่งเหล่านี้เมื่อรวมถึงการเก็บตัวฝึกซ้อมและต้องลงแข่งขันในยุคโควิดที่ไม่มีผู้ชมในสนาม ทำให้ไบลส์ยอมรับว่าเธอสติแตกและไม่สามารถรับมือกับอารมณ์และความรู้สึกที่ต่อสู้กันอยู่ในหัวของตัวเอง

 

ทั้งนี้ ไบลส์ยืนยันว่าโค้ชสนับสนุนการตัดสินใจของเธอ เพราะรู้ว่าเธอผ่านอะไรมาบ้างและไม่คิดว่าการฝืนแข่งต่อไปจะเป็นสิ่งที่ควรทำ

 

พวกเขาเห็นตรงกันว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะเจ็บปวดต่อไปกับเรื่องที่โง่มากๆ ต่อให้มันเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่มากอย่างโอลิมปิกเกมส์ก็ตาม

 

แต่ที่สุดแล้วเราก็อยากจะเดินออกจากสนามเองได้ ไม่ใช่ถูกหามออกไป

 

ไบลส์ยังไม่ปฏิเสธโอกาสที่จะกลับมาทำการแข่งขันในประเภทรวมอุปกรณ์ในวันอาทิตย์นี้ แต่ซูเปอร์สตาร์สาววัย 24 ปี ได้ทิ้งปริศนาเอาไว้เมื่อถูกถามถึงเป้าหมายสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกของเธอในครั้งนี้

 

ฉันจะสนใจในความเป็นอยู่ที่ดีของตัวฉันเองก่อน เพราะชีวิตมันมีอะไรมากกว่าแค่การเล่นยิมนาสติก

 

สุขภาพจิตนักกีฬาคือสิ่งที่โลกต้องใส่ใจ

การออกมายอมรับความพ่ายแพ้ต่อหัวใจตัวเองของไบลส์ครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั้งโลกควรจะตำหนิติเตียนหรือตั้งข้อสงสัย

 

หากแต่มันกำลังนำไปสู่การตั้งคำถามใหญ่อีกครั้งของวงการกีฬาว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราได้ดูแลหัวใจและความรู้สึกของนักกีฬาดีพอหรือยัง

 

เพราะก่อนหน้าไบลส์จะยอมรับว่าตัวเองมีปัญหา ไม่ถึง 2 เดือนก่อนหน้า นาโอมิ โอซากะ เองก็เป็นคนจุดประกายในประเด็นนี้ขึ้นมาว่าทุกคนควรจะปฏิบัติกับนักกีฬาให้เหมือนกับคนธรรมดา เพราะนักกีฬาเองก็เจ็บได้ร้องไห้เป็น

 

และก่อนหน้านั้น ไมเคิล เฟลป์ส ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเองก็เคยประสบปัญหาแบบเดียวกันมาก่อน ซึ่งนั่นหมายความว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหล่านักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่

 

ปัญหาคือตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ด้วยความเป็นนักกีฬาที่มีภาพลักษณ์ต้องแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้การยอมรับว่าตัวเองมีหัวใจอ่อนแอเป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาดในวงการกีฬา

 

แต่ดูเหมือนสิ่งต้องห้ามจะเริ่มถูกทลายลงไป เริ่มจากการเป็นผู้เปิดประเด็นของโอซากะ ซึ่งมีผลอย่างยิ่งที่ทำให้ไบลส์เริ่มมั่นใจมากขึ้นว่านี่คือสิ่งที่เธอจะสามารถเปิดเผยได้เช่นกัน

 

เธอเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ไบลส์กล่าวไม่กี่วันก่อนฉันได้ดูสารคดีของเธอทาง Netflix และมันก็ได้ฉายแสงลงมายังเรื่องนี้ เธอคือหนึ่งในสุดยอดนักกีฬาของโลกและเธอยอมถอยออกมา แล้วลองมองดูเธอในตอนนี้ เธอได้กลับมาโอลิมปิกอีกครั้ง ดังนั้นบางครั้งมันก็โอเคที่จะยอมถอยบ้างแม้จะเป็นรายการที่สำคัญที่สุดก็ตาม

 

ไบลส์หวังว่าหลังจากนี้ประเด็นเรื่องของสภาพจิตใจของนักกีฬาจะเป็นสิ่งที่ได้รับการใส่ใจดูแลมากขึ้น

 

เราไม่ได้เป็นแค่นักกีฬา ที่สุดแล้วเราก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งราชินียิมนาสติกล่าวทิ้งท้าย

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising