เทนนิส พาณิภัค เส้นทางสู่เหรียญทองโอลิมปิก 2020

เหรียญทองนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะวินัยและความสามารถของ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดสาวไทยที่คว้าเหรียญทองแรกมาให้คนไทยได้สำเร็จในโตเกียวโอลิมปิก 2020 และนี่คือเส้นทางที่ทำให้เธอก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของวงการกีฬา

เปลี่ยนความแพ้มาเป็นพลังให้สู้ต่อ

หลังจากพ่ายแพ้ให้กับ คิมโซฮึย จากเกาหลีใต้ ในริโอเกมส์ ปี 2016 หลายคนอาจล้มเลิกหรือท้อจนไม่อยากสู้ต่อ แต่สำหรับเทนนิส เธอเลือกที่จะเดินหน้าต่อไปด้วยการฝึกซ้อมที่หนักขึ้นและโหดยิ่งขึ้น

เพราะทุกวันเธอต้องตื่นนอนตอน 05.30 น. เพื่อวิ่งรอบสนามราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนช่วงเย็นหลังเรียนที่จุฬาฯ เสร็จ ก็จะซ้อมต่อจนถึง 20.30 น. ก่อนกลับถึงห้องพักในเวลา 22.00 น. เพื่อพักผ่อน ก่อนตื่นมาซ้อมในวันถัดไป

ซ้อมหนักเท่าไร ยิ่งต้องกินให้ดีเท่านั้น

เทนนิสให้ความสำคัญกับเรื่องโภชนาการ ยิ่งซ้อมหนักมากเท่าไร ยิ่งต้องกินให้ถึงมากเท่านั้น เพื่อให้ร่างกายนำสารอาหารไปซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังมอบพละกำลังที่ต้องใช้ในกีฬาประเภทศิลปะการป้องกันตัวที่ต้องเตะไม่ยั้ง หลักของเธอไม่ซับซ้อน เพียงกินอาหารให้ครบ 3 มื้อ เน้นไปที่อาหารสะอาดถูกสุขอนามัยและมีแคลอรีที่ไม่สูงนัก เนื่องจากเธอต้องคุมน้ำหนักในช่วงการแข่งขัน หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้ท้องเสียหรือแพ้อาหารในวันสำคัญ

แต่ถ้าถามถึงอาหารโปรดของเทนนิส ต้องยกให้อาหารญี่ปุ่น เช่น ปลาดิบ ซูชิ รวมถึงอาหารอีสานอย่างตำชั่วหรือส้มตำปูปลาร้า

สร้าง Mindset ของผู้ชนะ

จะกล่าวว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เธอก้าวขึ้นมาสู่จุดนี้ได้ เกิดจากความไม่อยากแพ้ก็คงจะไม่ผิดนัก เมื่อครั้งหนึ่งเทนนิสเคยคุยกับนักจิตวิทยา ก่อนสารภาพว่าเธอกลัวแพ้จนไม่อยากลงแข่งขันอีกต่อไป เมื่อได้ยินดังนั้น นักจิตวิทยาจึงได้ให้คำแนะนำกับเธอว่า ถ้าความฝันของเทนนิสคือการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ก็ทำตามความฝันให้เต็มที่ ได้แค่ไหนก็ถือว่าเต็มที่แล้ว ได้ยินดังนั้นเทนนิสจึงทุ่มเททำทุกอย่าง เพื่อให้วันข้างหน้า เมื่อมองกลับมาแล้วไม่รู้สึกเสียดายอีก