แม้จะถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นมา แต่ ‘โอลิวิเยร์ บรง’ แม่ทัพของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ในแวดวงธุรกิจห้างสรรพสินค้า และยังเคยร่วมงานกับ Galeries Lafayette ห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีสมาแล้ว แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้ออกมาพูดคุยกับสื่อมวลชน
ด้วยความที่เคยทำงานกับลูกค้าของแดนน้ำหอม โอลิวิเยร์ได้เปรียบเทียบความแตกต่างกับลูกค้าคนไทยใน 3 ข้อคือ 1. คนไทยเป็นคนที่ใช้เทคโนโลยีตลอดเวลา 2. คนไทยเป็นคนที่ชอบแฟชั่น และไวต่อการเปลี่ยนแปลงของแฟชั่น สุดท้าย 3. คนไทยสนใจเรื่องของโปรโมชัน โดยจะมีการเปรียบเทียบกับโปรของแต่ละที่ ดังนั้น “โปรโมชันจึงเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่จะดึงดูดความสนใจของลูกค้า”
โอลิวิเยร์เข้ามาในช่วงเวลาที่ท้าทายทั้งจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดที่ยังไม่จางหาย ซึ่งเขายอมรับว่า “ปี 2564 ถือเป็นปีที่ยากลำบาก” แต่โอลิวิเยร์ก็เชื่อว่าในไตรมาส 4 นี้ เขาจะ “ทำให้สดใสได้ทั้งจากแคมเปญที่กำลังจะออกมา การปรับโฉมของห้างสรรพสินค้า และผลงานของออมนิชาแนล”
โดยยอดขายของออมนิชาแนลเพิ่มขึ้น 120% (Year to Date) ยอดดาวน์โหลด Central App กว่า 4 ล้านครั้ง และยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 70% ขณะที่ Social Commerce มียอดขายเพิ่มขึ้น 100% และ Personal Shopper ที่ปัจจุบันมีจำนวนพนักงานรวมกว่า 1,000 คน สามารถสร้างยอดขายให้เติบโตถึง 300%
สิ่งที่น่าสนใจคือ ภายใต้การนำของโอลิวิเยร์ได้ตั้งเป้า 5 ปี (2564-2569) ยอดขายของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสันจะต้องเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่า 2 เท่า โดยเขามั่นใจว่า จะมาจากทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งส่วนหลังคาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนมาเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 20%
“ถึงเป้าหมายจะไม่ง่าย จะมีความท้าทายอยู่มาก แต่เรามั่นใจอย่างยิ่งว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้อย่างแน่นอน” โอลิวิเยร์ บรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้า ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าว
สำหรับในปี 2565 ได้วางงบลงทุนถึง 5 พันล้านบาทสำหรับปรับปรุงและขยายสาขาเพิ่มความแข็งแกร่ง โดยจะมีการปรับปรุงห้างในปี 2565 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ที่จะปรับโฉมใหม่ในปีหน้าเป็นต้นไป, ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว, ห้างเซ็นทรัลพระราม 2, ห้างโรบินสันฉะเชิงเทรา, ห้างโรบินสันศรีสมาน รวมถึงห้างโรบินสันในศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ในจังหวัดที่มีศักยภาพ อาทิ อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต และอีก 2 สาขาในปีหน้าเช่นกัน
พร้อมกันนี้ได้ทุ่มงบด้านเทคโนโลยีกว่า 3 พันล้านบาทภายใน 5 ปี พัฒนา Central App สู่การเป็น Super App ซึ่งในแง่ของเทคโนโลยีนั้นโอลิวิเยร์ระบุว่า เขายังไม่สนใจที่จะเปิดรับ ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ด้วยยังไม่ถึงช่วงเวลาที่สุกงอม แต่เขาก็จะศึกษาอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการเข้าสู่โลกของ Metaverse เช่นกัน
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
