×

‘โออิชิ’ ฉลอง 25 ปี ดึง 10 เชฟชื่อดังจากเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ท็อปเชฟไทยแลนด์ และมาสเตอร์เชฟ มาทำอาหารพิเศษเสิร์ฟตลอดทั้งปี

28.11.2023
  • LOADING...
โออิชิ

นับเป็นครั้งแรกหลังจากที่โออิชิออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ได้มีการจัดแถลงข่าว ซึ่งในครั้งนี้เป็นการทำแคมเปญฉลองก้าวสู่ปีที่ 25 ซึ่งจะมีการทำกิจกรรมตลอดทั้งปี

 

“เราให้ความสำคัญกับการนำเสนอประสบการณ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารญี่ปุ่น ด้วยการพัฒนาที่มีคุณภาพ ผสานการสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์ ตรงใจ เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการให้ดีขึ้นอยู่เสมอ นับตั้งแต่วันแรกของการดำเนินธุรกิจเมื่อวันที่ 9 เดือน 9 ปี 1999 เป็นต้นมา” นงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว

 

ไฮไลต์ของแคมเปญนี้อยู่ที่เมนูใหม่จากยอดเชฟแนวหน้าของเมืองไทย ทั้ง เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ท็อปเชฟไทยแลนด์ และมาสเตอร์เชฟ มาทำเมนูอาหารญี่ปุ่นจานพิเศษคาว-หวานต่างๆ ในเครือโออิชิ

 

สำหรับจำนวนสาขาของร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566)

 

ร้านอาหารระดับพรีเมียม

– OISHI GRAND (โออิชิแกรนด์) จำนวน 1 สาขา

– HOU YUU (โฮว ยู) จำนวน 5 สาขา

– SAKAE (ซาคาเอะ) จำนวน 1 สาขา

 

ร้านอาหารระดับพรีเมียมแมส

– OISHI EATERIUM (โออิชิ อีทเทอเรียม) จำนวน 10 สาขา

– OISHI BUFFET (โออิชิ บุฟเฟต์) จำนวน 6 สาขา

– NIKUYA By OISHI (นิกุยะ) จำนวน 5 สาขา

– SHABU By OISHI (ชาบู บาย โออิชิ) จำนวน 2 สาขา

 

ร้านอาหารระดับแมส

– SHABUSHI (ชาบูชิ) จำนวน 173 สาขา

– OISHI RAMEN (โออิชิ ราเมน) จำนวน 47 สาขา

– KAKASHI By OISHI (คาคาชิ) จำนวน 12 สาขา

– OISHI BIZTORO (โออิชิ บิซโทโระ) จำนวน 19 สาขา

 

รวมจำนวนสาขาทั้งหมด 281 สาขา

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในการแถลงทิศทางประจำปี ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากนำโออิชิออกจากตลาดหุ้น ก็ได้เริ่มจัดโครงสร้างใหม่ ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ ทั้งการพัฒนาแบรนด์ให้แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม และการขยายไปในตลาดใหม่ ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการชัดเจนมากขึ้น

 

เป้าหมายใหญ่ของทั้งเครื่องดื่มและอาหารภายใต้เครือโออิชิ คือการออกไปเติบโตในต่างประเทศ เริ่มจากกลุ่มเครื่องดื่ม จะนำโออิชิ กรีนที บุกหนักในตลาดเวียดนาม โดยจะนำอินโนเวชันด้านรสชาติใหม่ๆ เข้าไปสู้การแข่งขันในตลาดเวียดนาม 

 

“ยอมรับว่าตลาดชาพร้อมดื่มในเวียดนามเป็นตลาดใหญ่ และแข่งขันรุนแรงมาก ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์ ส่วนใหญ่จะเน้นแข่งเรื่องรสชาติและราคาเป็นหลัก ซึ่งเรามองว่าเป็นโอกาสเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาด” 

 

ส่วนธุรกิจอาหาร หลังจากโควิดคลี่คลายลง ตลาดเริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น เทรนด์การใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น ดังนั้นร้านอาหารในเครือไทยเบฟจะต้องเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากขึ้น 

 

รายงานของ SCB EIC ระบุว่า ธุรกิจบริการอาหารมีแนวโน้มฟื้นตัวดีต่อเนื่อง คาดว่ามูลค่าตลาดจะเติบโตราว 11% ในปีหน้า เนื่องจากการขยายตัวต่อเนื่องของการบริโภคภาคเอกชน การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ

 

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยที่คาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจที่ต้องติดตาม เช่น นโยบายปรับขึ้นค่าแรง จะส่งผลให้ต้นทุนปรับสูงขึ้นตาม เนื่องจากธุรกิจบริการอาหารเป็นธุรกิจที่พึ่งพาแรงงานที่รับค่าแรงขั้นต่ำจำนวนค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ธุรกิจบริการอาหารยังเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาในตลาด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising