×

ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 20% รับสัญญาณบวก ซาอุฯ-รัสเซีย อาจสงบศึกสงครามราคา

03.04.2020
  • LOADING...
ราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นกว่า 20% เมื่อวันพุธ หลังมีสัญญาณว่าซาอุดีอาระเบียและรัสเซียอาจยุติการทำสงครามราคาน้ำมัน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงความคาดหวังว่าสองประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกจะลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อลดความผันผวนในตลาด และพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ร่วงไปมากกว่านี้

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 21% แตะระดับ 29.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) พุ่งขึ้นเกือบ 25% สู่ระดับ 25.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นสถิติการปรับตัวสูงสุดของทั้งคู่

 

เมื่อวานนี้ ทรัมป์ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ว่า “เขาคาดหวังว่าซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะสามารถตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 10 ล้านบาร์เรล หรืออาจมากกว่านั้น” 

 

ขณะที่ อเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซีย ก็เปิดเผยว่า มอสโกมีความพยายามที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดน้ำมัน พร้อมแย้มว่ารัสเซียอาจกลับเข้าโต๊ะเจรจากับซาอุดีอาระเบียในเร็วๆ นี้

 

ด้านฝ่ายวิเคราะห์ของ KTBST ให้ความเห็นว่า ถึงแม้ข่าวที่ทรัมป์บอกว่าซาอุฯ กับรัสเซียอาจตกลงกันได้ กับข่าวที่ว่าจีนเตรียมซื้อน้ำมันเข้าคลังสำรองอีก 10% นั้น จะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน แต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

 

KTBST มองว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) อาจไม่กลับลำง่ายๆ หากตัดสินใจทำสงครามราคาน้ำมันไปแล้ว ยิ่งถ้าเป็นนโยบายของซาอุฯ เองด้วยแล้ว โอกาสที่จะตกลงกันได้ภายในวันสองวันมีไม่มาก สิ่งที่จะเป็นไปได้คือการกลับเข้ากระบวนการเจรจา ซึ่งเป็นไปในลักษณะการประชุมนอกรอบกันก่อน แล้วจึงเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนหรือธันวาคมตามระบบของ OPEC ต่อไป

 

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ถึงแม้ซาอุฯ และรัสเซียไม่ทำสงครามราคากัน ราคาน้ำมันก็มีแนวโน้มร่วงลงอยู่แล้ว จากแรงกดดันของสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อดีมานด์การใช้น้ำมันทั่วโลก ยิ่งเศรษฐกิจชะลอตัว ภาคการผลิตหยุดชะงัก ความต้องการใช้น้ำมันก็ยิ่งลดลง ขณะที่ KTBST คาดว่า การใช้น้ำมันทั่วโลกในช่วง 3 เดือนข้างหน้าจะลดลง 10-20 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปัจจัยที่จะส่งผลต่อราคาน้ำมันในระยะสั้นน่าจะยังเป็นสถานการณ์โควิด-19 มากกว่า

 

KTBST ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า สหรัฐฯ มีการขยับก่อนโดยลดการผลิตน้ำมันประเภท Shale Oil ซึ่งช่วยลดแรงกดดันและความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด เนื่องจากผู้ผลิตในสหรัฐฯ กำลังประสบปัญหาราคาน้ำมันต่ำกว่าทุน ที่ราวๆ 38-47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากปล่อยไปเช่นนี้จะกระทบอุตสาหกรรมผู้ผลิตและเซกเตอร์พลังงานในประเทศ ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงเป็นตัวเร่งให้สหรัฐฯ พยายามเข้ามาเป็นตัวกลางช่วยไกล่เกลี่ยระหว่างซาอุฯ กับรัสเซีย

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising