×

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธรอบใหม่ ขู่พร้อมตอบโต้สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรรุนแรงกว่าเดิม

17.11.2022
  • LOADING...

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอีกครั้งในวันนี้ (17 พฤศจิกายน) หลังจากที่ได้ออกมาขู่ว่าจะทำการตอบโต้ทางทหารที่รุนแรงกว่าเดิม หลังจากที่สหรัฐอเมริกาเปิดฉากปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับชาติพันธมิตรเพื่อยกระดับความมั่นคงในภูมิภาค โดยประกาศว่าพฤติกรรมเหล่านั้น ‘เป็นการเดิมพันที่สหรัฐฯ จะต้องเสียใจ’

 

กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธจากเมืองวอนซานในเวลา 10.48 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ โดยเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ และตกลงสู่ทะเลตะวันออก ซึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือได้กระหน่ำยิงทดสอบขีปนาวุธมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ อีกทั้งยังมีการยิงปืนใหญ่หลายร้อยนัดลงสู่ทะเลในช่วงที่สหรัฐฯ จัดการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้

 

ก่อนหน้าที่เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง โชซอนฮุย (Choe Son-hui) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ได้กล่าวประณามการประชุมระดับไตรภาคีของสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 พฤศจิกายน) ซึ่งผู้นำจากทั้งสามชาติได้วิพากษ์วิจารณ์การทดสอบอาวุธของเกาหลีเหนือ และให้คำมั่นว่าจะประสานความร่วมมือด้านความมั่นคงมากขึ้น โดยในระหว่างการหารือ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะเสริมการป้องปรามและปกป้องชาติพันธมิตรทั้งสองอย่างเต็มที่

 

โชกล่าวว่า การซ้อมรบของทั้งสามชาติไม่สามารถควบคุมเกาหลีเหนือได้ แต่จะนำมาสู่ ‘ภัยคุกคามที่รุนแรงกว่าเดิมและหลีกเลี่ยงไม่ได้’

 

ภายหลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ก็ได้จัดการซ้อมรบเพื่อป้องกันขีปนาวุธเป็นการตอบโต้ ขณะที่คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์ประณามเกาหลีเหนือ ระบุว่า “เราขอเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการยิงขีปนาวุธหลายชุดโดยทันที ซึ่งเป็นการยั่วยุอย่างร้ายแรงที่ทำลายสันติภาพและเสถียรภาพ” หัวหน้าร่วมระบุในถ้อยแถลง

 

อนึ่ง นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้กล่าวเตือนว่าเกาหลีเหนืออยู่ในระหว่างเตรียมการที่จะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 แต่ไม่อาจทราบถึงกำหนดการที่ชัดเจน โดยเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธได้ในระยะทางไกลที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมีขีปนาวุธบางส่วนที่ทะยานข้ามดินแดนของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชียทวีความรุนแรงขึ้น

 

ภาพ: ANTHONY WALLACE / AFP

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising