×

Non-Fungible Token (NFT) และการกำกับดูแลของ ก.ล.ต.

06.01.2022
  • LOADING...
NFT

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • การกำหนดเกี่ยวกับ NFT ไว้โดยเฉพาะ แต่กำหนดขอบเขตของสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การกำกับดูแลไว้ 3 ประเภท
  • การประกอบธุรกิจ NFT ที่เข้าข่ายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในลักษณะการเป็นศูนย์กลางซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT โดยการจับคู่ให้ต้องได้รับใบอนุญาตประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
  • ปัจจุบันไทยยังไม่มี NFT Marketplace ที่ได้รับใบอนุญาต นอกจากนี้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตไม่สามารถนำ NFT ที่เข้าข่ายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ มาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้
  • ก.ล.ต. อยู่ระหว่างทบทวนหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแล NFT Marketplace เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการกำกับดูแลของสากล

ปัจจุบันกระแส Non-Fungible Token (NFT) หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้แสดงความเป็นเจ้าของ หรือให้สิทธิในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือที่มีลักษณะเฉพาะในแต่ละเหรียญ ไม่สามารถทดแทนกันได้ (Non-Fungible)* เช่น งานศิลปะ เพลง รูปภาพ ของสะสมเกี่ยวกับศิลปินหรือนักกีฬา กำลังได้รับความนิยม ทั้งจากผู้ที่สนใจจะนำทรัพย์สินหรือผลงานที่มีมาออกและเสนอขายในรูปของ Token ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะให้บริการแพลตฟอร์มในการซื้อขาย NFT ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง และผู้ที่สนใจซื้อขาย NFT ไม่ว่าจะด้วยความชื่นชอบในผลงาน เพื่อการใช้งาน หรือเพื่อการเก็งกำไร เนื่องจากการสร้างผลงานในลักษณะ NFT นั้นสามารถเพิ่มความสะดวกในการซื้อขายแลกเปลี่ยน ทำให้เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้นด้วยเทคโนโลยี และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ การแสดงสิทธิในทรัพย์สิน รวมถึงป้องกันการปลอมแปลงได้อีกด้วย

 

ตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ไม่ได้มีการกำหนดเกี่ยวกับ NFT ไว้โดยเฉพาะ แต่กำหนดขอบเขตของสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การกำกับดูแลไว้ 3 ประเภท ได้แก่

 

1. คริปโตเคอร์เรนซี เป็นเหรียญดิจิทัลที่ใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้า บริการ หรือสิทธิอื่นใด หรือแลกเปลี่ยนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกัน

 

2. โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) เป็นเหรียญดิจิทัลที่ให้สิทธิในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือกิจการใดๆ

 

3. โทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token) เป็นเหรียญดิจิทัลที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือในการได้มาซึ่งสินค้า บริการ หรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง โดยแบ่งเป็น Utility Token พร้อมใช้ และ Utility Token ไม่พร้อมใช้

 

a. Utility Token พร้อมใช้ ผู้ถือเหรียญสามารถใช้สิทธิแลกสินค้า หรือใช้บริการได้ทันทีตั้งแต่วันที่เสนอขายครั้งแรก

 

b. Utility Token ไม่พร้อมใช้ ผู้ถือเหรียญจะยังไม่สามารถใช้สิทธิแลก หรือใช้ประโยชน์สินค้าหรือบริการนั้นได้ในวันเสนอขาย แต่ ต้องรอใช้สิทธิในอนาคต

 

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะกำกับดูแลการออกเสนอขาย Investment Token และ Utility Token ไม่พร้อมใช้ ดังนั้นหากมีการเสนอขาย Investment Token หรือ Utility Token ไม่พร้อมใช้ ผู้ออกต้องได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. โดยเปิดเผยข้อมูลตามที่กำหนด และต้องเสนอขายผ่านผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต.

 

สำหรับกรณีของ NFT นั้นจะต้องพิจารณาว่าลักษณะของ NFT แต่ละเหรียญ เข้านิยาม ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ประเภทใดประเภทหนึ่งตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ หรือไม่

หากเป็น NFT ที่มีการกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้า บริการ หรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง เช่น มีการออก NFT ที่ให้สิทธิในการได้มาซึ่งทรัพย์สิน ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งของที่มีลักษณะทางกายภาพที่จับต้องได้ (Physical) หรือไฟล์ดิจิทัล หรือมีการสะสม NFT แล้วให้สิทธิแก่ผู้ถือไปแลกของหรือสิทธิอย่างอื่น จะเข้านิยาม Utility Token ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ดังนั้นการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ NFT ลักษณะนี้ จึงต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ภายใต้ พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ

 

แต่ถ้าหาก NFT นั้นเป็นตัวทรัพย์สินนั้นเอง เวลาซื้อขายหรือโอนก็ติดไปด้วยกัน ไม่อาจแยกกันได้ และไม่ได้มีการกำหนดสิทธิใดๆ เพิ่มเติม และไม่มีวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยน เช่น NFT ที่สร้างขึ้นโดยการเก็บ Digital File บน Interplanetary File System (IPFS) และสร้างเหรียญดิจิทัลขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการซื้อขายแลกเปลี่ยน (ไม่ว่าจะสร้าง NFT เหรียญเดียวหรือหลายเหรียญจาก Digital File ที่เก็บบน IPFS) โดย Digital File และเหรียญนั้นจะโอนติดไปด้วยกัน ไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลง และไม่สามารถแยกกันได้ เป็นต้น NFT ดังกล่าวจะไม่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล การดำเนินการเกี่ยวกับ NFT นั้นจึงไม่ถูกกำกับดูแลโดย พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ

 

สำหรับการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นคริปโตเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัล ผู้ประกอบธุรกิจต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด โดยปัจจุบันมีการกำกับดูแลธุรกิจ 5 ประเภท ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Broker) ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Dealer) ที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล (Investment Advisor) และผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (Private Fund)

 

ขณะที่การประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับ NFT ที่เข้าข่ายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ในลักษณะการเป็นศูนย์กลางหรือเครือข่ายใดๆ ที่จัดให้มีขึ้นเพื่อการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยน NFT โดยการจับคู่หรือหาคู่สัญญาให้ หรือการจัดระบบหรืออำนวยความสะดวกให้ผู้ซึ่งประสงค์จะซื้อขายหรือแลกเปลี่ยน NFT สามารถทำความตกลงหรือจับคู่กันได้ โดยกระทำเป็นการค้าปกติ (NFT Marketplace) ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

 

ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มี NFT Marketplace ที่ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นอกจากนี้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตไม่สามารถนำ NFT ที่เข้าข่ายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ มาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ตามข้อ 39/1 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ. 18/2564 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2564

 

ทั้งนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างทบทวนหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแล NFT Marketplace เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการกำกับดูแลของสากล

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X