หลายคนบ่นว่าทำไมช่วงนี้ตลาดแผ่ว พยายามเท่าไรก็ขายงานไม่ออก ทำตามคำแนะนำก็แล้ว แตก็ยังไม่สำเร็จ เริ่มท้อใจและรู้สึกว่าตัวเองเก่งไม่พอ จริงๆ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า กว่าที่ Bored Ape Yacht Club, Cool Cats หรือคอลเล็กชันอื่นๆ จะขายออกกันได้ มันต้องมีองค์ประกอบจำเป็นอื่นๆ อีกมายมาย โดยเฉพาะทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
-
นักวาด
สั้นๆ ง่ายๆ เลยคือคนที่ต้องออกแบบ NFT, โปสเตอร์, โลโก้, พื้นหลังเว็บไซต์ และทุกอย่างที่ใช้ในการเผยแพร่โปรเจกต์ให้ออกมาโดดเด่นและน่าสนใจ ซึ่งอาจจะมีเพียงหนึ่งคนหรือทีมจริงจัง แต่หลายคอลเล็กชันก็จ้างสตูดิโออื่นทำให้โดยไม่เปิดเผยข้อมูล เพราะอาจทำให้ความพิเศษลดลงในสายตานักสะสม
-
นักลงทุน
การตลาด การจ้างคน และขั้นตอนอื่นๆ ต่างก็ต้องใช้เงินทั้งนั้น เหตุนี้การมีทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะยิ่งการแข่งขันสูง ค่าอินฟลูเอนเซอร์และค่าโฆษณาลงเพจ NFT ต่างๆ จึงแพงหูฉี่เป็นหลายแสน การมีทุนที่หนานั้นจึงย่อมได้เปรียบแน่นอน บทบาทนี้สามารถเป็นคนเดียวหรือใช้การระดมทุนจากคนจำนวนมากก็ได้เช่นกัน
-
นักการตลาด
ส่วนนี้ควรต้องใช้ทีมงานต่อให้เราดังขนาดไหนก็ตาม เพราะการตลาดนั้นเป็นความรับผิดชอบใหญ่หลวงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ หน้าที่หลักคือการวางกลยุทธ์การสื่อสารในแต่ละช่องทาง ซึ่งต่างใช้เวลาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการโต้ตอบในดิสคอร์ด และการสร้างกิจกรรมต่างๆ ในนั้นเพื่อขยายฐานนักสะสม ฯลฯ
-
โปรแกรมเมอร์
การทำคอลเล็กชันแบบหลายพันชิ้นต้องมีคนเขียนโค้ดที่สามารถนำภาพวาดไม่กี่ชิ้นมาผสมกันทวีคูณ นอกจากนี้ก็ยังต้องจัดการไฟล์ ใส่ดาต้า เขียน Smart Contracts ทำเว็บไซต์ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้ภาษาโปรแกรมมิ่ง ที่เรียกว่า Solidity และ JavaScript และถึงแม้จะมีโค้ดสำเร็จรูปให้โหลด แต่การมีโปรแกรมเมอร์จะทำให้เราปรับโค้ดให้คอลเล็กชันออกมาในรูปแบบที่ต้องการ
องค์ประกอบเหล่านี้ ปัจจุบันมีบริษัทรับจ้างทำให้หมด ยกเว้นเรื่องทุน แต่การมีทีมของตัวเองจะช่วยให้ประหยัดเวลาได้มากกว่า ซึ่งคนเดียวอาจทำได้มากกว่าหนึ่งหน้าที่ ขึ้นอยู่กับศักยภาพ
จะเห็นได้ว่าแค่หาทีมก็ยากแล้ว ครีเอเตอร์ส่วนใหญ่จึงเน้นทำเป็นคอลเล็กชันเล็กๆ ที่สามารถทำได้คนเดียว ดังนั้น ขออย่าได้ผิดหวังหากขายงานไม่ออก เพราะอุปสรรคหลายอย่างนั้น ไม่สามารถทลายลงได้ด้วยความขยันเพียงอย่างเดียว
อ้างอิง:
