×

รัสเซียเตือน เครื่องบินรบสหรัฐฯ อาจตกเป็นเป้ายิงในซีเรีย หากบินผ่านน่านฟ้า ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรตีส

20.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 mins read
  • เครื่องบินรบสหรัฐฯ ไล่ยิงเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดของรัฐบาลซีเรียตกในจังหวัดรักกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้กระทรวงกลาโหมของรัสเซียตัดสินใจประกาศเตือน เครื่องบินรบสหรัฐฯ อาจตกเป็นเป้ายิงในสมรภูมิซีเรีย
  • รัฐบาลรัสเซียจะปิดช่องทางสื่อสารผ่านสายด่วนกับกองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐฯ ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว เพื่อลดความขัดแย้งและอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในน่านฟ้าซีเรีย
  • ฝ่ายสหรัฐฯชี้แจงว่า ได้พยายามติดต่อเครื่องบินซีเรียลำดังกล่าวแล้ว แต่ไม่เป็นผล ฝ่ายกองกำลังสัมพันธมิตรจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิในการป้องกันตนเองและเหล่าพันธมิตรในสมรภูมิซีเรีย

     การเผชิญหน้ากันระหว่างมหาอำนาจอย่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกาตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 มิ.ย.) กระทรวงกลาโหมของรัสเซียประกาศเตือน เครื่องบินรบสหรัฐฯ อาจตกเป็นเป้ายิงในสมรภูมิซีเรีย เนื่องจากกรณีที่เครื่องบินรบสหรัฐฯ ไล่ยิงเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดของรัฐบาลซีเรียตกในจังหวัดรักกา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

 

Photo: STRINGER/AFP     

 

     รัฐบาลรัสเซียมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ก้าวร้าว (Act of Aggression) ของกองทัพพันธมิตร จึงตัดสินใจที่จะปิดช่องทางสื่อสารผ่านสายด่วนกับกองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐฯ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อลดความขัดแย้งและอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในน่านฟ้าซีเรีย

     และประกาศเตือนว่า จากนี้ไปหากพบเครื่องบินรบหรืออากาศยานใดของกองทัพพันธมิตรออกปฏิบัติการบริเวณฝั่งตะวันตกของเเม่น้ำยูเฟรตีส เครื่องบินรบนั้นอาจจะถูกกองกำลังของกองทัพรัสเซียที่ประจำการอยู่ติดตามและตกเป็นเป้าโจมตี

 

Photo: VASILY MAXIMOV/AFP     

 

     โจเซฟ ดันฟอร์ด นายพลระดับสูงของสหรัฐฯ ยืนยันผ่านสื่อว่า ช่องทางการติดต่อผ่านสายด่วนระหว่างหน่วยบัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ในกาตาร์ และหน่วยกองกำลังต่อต้านของรัสเซียในซีเรียที่จัดตั้งขึ้นเมื่อ 8 เดือนก่อนยังคงเปิดอยู่และยังใช้การได้ดี อีกทั้งยังยืนยันว่ากองทัพพันธมิตรมีการติดต่อสื่อสารกับทางฝั่งรัสเซียบ่อยครั้ง

     รัฐบาลรัสเซียเคยขู่จะปิดช่องทางการสื่อสารนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพอากาศของรัฐบาลซีเรีย

     นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งสหราชอาณาจักร ออกมาเรียกร้องให้รัสเซียยังคงเปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารนี้ไว้ เพราะมันอาจช่วยลดโอกาสเกิดความขัดแย้งและการเผชิญหน้าที่รุนแรงของสองมหาอำนาจในสมรภูมิซีเรียได้

     ด้านโฆษกประจำทำเนียบขาว ฌอน สไปเซอร์ ยืนยันว่า สหรัฐฯ จะยังคงช่องทางการติดต่อผ่านสายด่วนเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดเหตุความรุนแรงในสมรภูมิซีเรียนี้ไว้ อีกทั้งยังเรียกร้องให้ทางการรัสเซียปฏิบัติตามด้วยเช่นกัน

 

Photo: VASILY MAXIMOV/AFP

 

     กระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงว่า ฝ่ายกองกำลังสัมพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐฯ ไม่ได้ติดต่อสื่อสารเข้ามาผ่านช่องทางสายด่วน ก่อนหน้าที่จะมีการยิงเครื่องบินของรัฐบาลซีเรียลำดังกล่าว และกองทัพรัสเซียจะดำเนินมาตรการยุติการปฏิบัติการในบันทึกความร่วมมือที่เคยทำไว้กับกองทัพสัมพันธมิตรอีกด้วย

     นายโจเซฟยังชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า ฝ่ายสหรัฐฯ ได้พยายามติดต่อเครื่องบินซีเรียลำดังกล่าวแล้ว แต่ไม่เป็นผล ฝ่ายกองกำลังสัมพันธมิตรจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิในการป้องกันตนเองและเหล่าพันธมิตรในสมรภูมิซีเรีย

     ทางการรัสเซียยังชี้แจ้งเพิ่มเติมอีกว่า เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดที่ถูกเครื่องบินรบสหรัฐฯ ยิงตกนั้นไม่ได้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ที่เป็นกลุ่มกองกำลังผสมระหว่างนักรบชาวเคิร์ดและชาวอาหรับที่สหรัฐฯ เเละพันธมิตรให้การสนับสนุนอยู่ แต่กำลังปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มไอเอสอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองรักกา ที่เป็นเสมือนเมืองหลวงของกลุ่มไอเอสในซีเรียราว 40 กิโลเมตร

     สถานการณ์ความรุนแรงในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่มไอเอสยังคงดำเนินต่อไป โดยมีชาติมหาอำนาจและพันธมิตรกระโจนเข้ามาในสมรภูมิซีเรียเเห่งนี้ โดยมีผลประโยชน์แห่งชาติและความมั่นคงระหว่างประเทศเป็นเดิมพัน

 

อ้างอิง:

  • www.nytimes.com/2017/06/19/world/middleeast/russia-syria.html
  • www.independent.co.uk/news/world/middle-east/russia-shoot-down-all-flying-objects-in-syria-us-regime-warplane-isis-terror-a7797101.html
  • www.theguardian.com/world/2017/jun/19/russia-target-us-led-coalition-warplanes-over-syria?CMP=Share_iOSApp_Other
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising