×

โบกรถได้ทันที! Grab เตรียมเปิดตัว GrabNow สู้ศึกสองล้อในอินโดนีเซีย

22.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • Grab เตรียมทดลองให้บริการ GrabNow ในประเทศอินโดนีเซียเป็นแห่งแรก จุดเด่นของบริการนี้ก็คือผู้ใช้สามารถเรียก GrabBike บนท้องถนนได้เลย
  • GrabNow จะต้องรับมือกับ Go-Jek สตาร์ทอัพท้องถิ่นระดับยูนิคอร์นที่ครองตลาดบริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์ของอินโดนีเซียในปัจจุบัน ซึ่งครอบคลุม 25 เมืองทั่วประเทศ

     นับวันศึกประชันของบริการเรียกรถเดินทางยิ่งดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่า ทราวิส คาลานิก (Travis Kalanick) จะถอนตัวจากการเป็นซีอีโอของ Uber แล้ว แต่การแข่งขันระหว่าง Uber กับ Grab และบริการขนส่งทางบกรายอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น

     นอกจากจะมีบริการคล้ายกัน ทั้งสองยังวางจุดยืนว่าเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีอย่างชัดเจน

 

 

     Uber นั้นได้เปรียบในฐานะ First Mover ที่เปิดตัวบริการรถร่วมเดินทางหรือ Ridesharing ตั้งแต่ปี 2010 และเน้นเจาะตลาดรถยนต์ส่วนตัวก่อน ปัจจุบันให้บริการใน 613 เมืองทั่วโลก ทั้งยังลงทุนพัฒนารถไร้คนขับตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ถ้ามองในระดับภูมิภาค บริษัทคู่แข่งจากสิงคโปร์อย่าง Grab ที่ก่อตั้งตามมาติดๆ (ปี 2012) ถือว่ามาแรงสุดในตลาดนี้ โดยเปิดให้บริการ 55 เมืองทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมตั้งแต่สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และไทย ที่สำคัญ Grab ยังทำการบ้านเรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ที่ยังไม่ชินกับการจ่ายเงินทางออนไลน์เท่าไรนัก ก่อนที่จะสนับสนุนให้ใช้ทีหลัง ขณะที่ Uber ไม่รับเงินสด

     เมื่อต้นปีทั้ง Grab และ Uber ต่างก็พยายามขยายตลาดใหม่ไปยังเมียนมาในเวลาไล่เลี่ยกัน โดย Grab ประกาศทดลองให้บริการในเมียนมาในเดือนมีนาคม ขณะที่ Uber ก็โต้กลับด้วยการเปิดบริการในเมืองย่างกุ้งอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

 

 

     ล่าสุด Grab ยังประกาศเปิดตัวบริการใหม่ GrabNow ที่ผู้โดยสารสามารถโบกเรียกรถ GrabBike บนถนนได้ทันที ผ่านเทคโนโลยี Proximity API ที่คอนเน็กต์คนขับกับคนเรียกได้โดยไม่ต้องสแกน QR Code ใดๆ และจะเริ่มทดลองให้บริการในประเทศอินโดนีเซียเป็นแห่งแรก ทั้งนี้ตัวแทนฝ่ายประชาสัมพันธ์ Grab อธิบายกับ THE STANDARD ว่าสาเหตุที่เลือกกรุงจาการ์ตาก็เพราะว่ามีสัดส่วนการใช้มอเตอร์ไซค์รับจ้างสูงมาก จึงเหมาะกับการนำร่องบริการเพื่อทดสอบระบบและความพึงพอใจของผู้ใช้งาน ก่อนจะนำไปปรับใช้กับประเทศอื่นๆ ในอนาคต

     แน่นอนว่าอินโดนีเซียเป็นตลาดระดับแม่เหล็กที่ดึงดูดนักลงทุนและเหล่า VC ชั้นนำของโลก เพราะมีจำนวนประชากรเยอะราว 263 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งภูมิภาค ยิ่งไปกว่านั้นความท้าทายของการบุกตลาดในภูมิภาคนี้ก็คือ ความหลากหลายของประชากร ทั้งสัญชาติ เชื้อชาติ ภาษา และวัฒนธรรม ทำให้ธุรกิจใหญ่ถอนตัวไปแล้วหลายราย หากสตาร์ทอัพรายไหนสามารถเจาะตลาดอินโดนีเซียได้สำเร็จ ก็เท่ากับว่าได้เค้กก้อนโตไปครอง

     อย่างไรก็ดี หาก Grab จะตีตลาดอินโดนีเซียอย่างจริงจัง GrabBike (หรือ GrabNow) ก็ต้องชนกับ Go-Jek สตาร์ทอัพยูนิคอร์นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอินโดนีเซีย และเพิ่มโอกาสการหาเลี้ยงชีพให้กับชาวอินโดนีเซีย Go-Jek ยังเคลมว่าสามารถครองตลาดบริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์ผ่านแอปฯ มากถึงครึ่งหนึ่งและแทบจะผูกขาดตลาดบริการเดลิเวอรีอาหารด้วยสัดส่วนร้อยละ 95

 

 

     ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการกว่า 25 เมืองทั่วอินโดนีเซีย และมีผู้ขับมากกว่า 250,000 ราย นอกจากบริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ยังครอบคลุมถึงการขนส่งเอกสารและพัสดุ และมีข่าวว่าจะบุกสิงคโปร์ในอนาคต (บริการดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายของสิงคโปร์) ไม่ว่าจะมองทางไหน นี่ก็คือคู่แข่งรายสำคัญของ Grab ในตลาดนี้

     ทั้งนี้เราต้องไม่ลืมว่า Grab ยังมีนักลงทุนรายใหญ่หนุนหลัง ไม่ว่าจะเป็น SoftBank Group ของญี่ปุ่น และ Didi คู่แข่งตัวฉกาจที่เอาชนะ Uber ในศึกการตีตลาดบริการเรียกแท็กซี่ในจีน นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า Alibaba กำลังเจรจาร่วมระดมทุนในรอบต่อไปของ Grab อีกด้วย จึงเป็นไปได้ว่าสายป่านที่ยาวกว่าจะทำให้ Grab กำชัยในศึกอินโดนีเซียไปได้ในที่สุด

     ยกเว้นเสียแต่ว่าจะเจอด่านทางกฎหมาย เหมือนกับกรณีที่กรมการขนส่งได้สั่งให้ UberMOTO และ GrabBike ยุติให้บริการในไทยเมื่อปีที่ผ่านมา

 

Photo: Bay ISMOYO/AFP

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising