×

ยอดผู้ใช้ Netflix พุ่ง 120 ล้านคน ซีอีโอติดลิสต์เศรษฐี Forbes เตรียมทุ่ม 8 พันล้านเหรียญสร้างคอนเทนต์ปีหน้า

19.10.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • หลังผ่านพ้นช่วงไตรมาส 3 ของปี 2017 นี้ (มิถุนายน-สิงหาคม) เน็ตฟลิกซ์มีสมาชิกหน้าใหม่สมัครใช้บริการของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีก 5.3 ล้านรายทั่วโลกแล้ว
  • รีด แฮสติงส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งเน็ตฟลิกซ์ ก้าวขึ้นมาเป็นชาวอเมริกันผู้มั่งคั่งในอันดับที่ 359 จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes ประจำปี 2017 ด้วยทรัพย์สินส่วนตัวมูลค่ากว่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 72,873 ล้านบาทเป็นครั้งแรก
  • ปี 2018 ที่จะถึงนี้ เน็ตฟลิกซ์ประกาศเตรียมทุ่มงบไม่อั้นจำนวน 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 265,000 ล้านบาท เพื่อหันมาผลิตคอนเทนต์ออริจินัลของตัวเองเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม 50%

     วินาทีนี้ใครก็หยุดกระแสความนิยมของบริการสตรีมมิงออนดีมานด์ ‘เน็ตฟลิกซ์’ (Netflix) ไม่อยู่แล้วจริงๆ

     ล่าสุดเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Recode เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีรายงานว่า หลังผ่านพ้นช่วงไตรมาส 3 ของปี 2017 นี้ (มิถุนายน-สิงหาคม) เน็ตฟลิกซ์มีสมาชิกใหม่สมัครบริการของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีก 5.3 ล้านรายทั่วโลก ซึ่งเป็นตัวเลขที่เหนือการคาดการณ์ในตอนแรก

     เดิมทีเน็ตฟลิกซ์เชื่อว่าพวกเขาจะดึงลูกค้าหน้าใหม่ๆ เข้ามาสมัครสมาชิกบริการดูหนังและซีรีส์ทั่วโลกแค่เพียง 4.4 ล้านรายเท่านั้น โดยแจ้งยอดคร่าวๆ กับตลาดหุ้นวอลล์สตรีทไว้ว่าน่าจะมีผู้ใช้บริการในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอีก 750,000 ราย และผู้ใช้บริการทั่วโลกอีก 3.65 ล้านราย

     แต่ผลปรากฏว่าเมื่อผ่านพ้นช่วงไตรมาส 3 (มิถุนายน-สิงหาคม) ของปี 2017 นี้ไปแล้ว พวกเขากลับทำผลงานได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ในตอนต้น โดยมียอดผู้สมัครใช้บริการรายใหม่ในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกเพิ่มขึ้นจำนวน 850,000 ราย และ 4.45 ล้านรายตามลำดับ

     ส่วนในไตรมาสที่ 4 นี้ (กันยายน-พฤศจิกายน) พวกเขาตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องเพิ่มยอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก 6.3 ล้านรายให้ได้ ซึ่งจะทำให้ยอดผู้ใช้บริการเน็ตฟลิกซ์ทั่วโลกพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์จนไปจบอยู่ที่ 115.6 ล้านรายเลยทีเดียว

     ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รีด แฮสติงส์ (Reed Hastings) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งเน็ตฟลิกซ์ได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ลงทุนว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวบริษัทสามารถทำรายรับรวมมากกว่า 2.79 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 94,000 ล้านบาท จากยอดผู้ใช้บริการมากกว่า 104 ล้านคน

 

ซีอีโอบริษัทตบเท้าสู่ทำเนียบเศรษฐี Forbes เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์!

     จากผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมและทำกำไรได้ดีวันดีคืน จึงส่งผลให้รีด แฮสติงส์ ก้าวขึ้นมาเป็นชาวอเมริกันผู้มั่งคั่งในอันดับที่ 359 จากการจัดอันดับประจำปี 2017 ของ Forbes ด้วยทรัพย์สินส่วนตัวมูลค่ากว่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 72,873 ล้านบาท

     นับเป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารวัย 57 ปีจากรัฐแคลิฟอร์เนียรายนี้ก้าวเข้ามามีชื่อในการจัดอันดับดังกล่าวได้สำเร็จ

     ถึงอย่างนั้น ดูท่าว่ารีดเองคงจะต้องรับมือกับเสียงวิพากษ์ระลอกใหม่ที่ผู้บริโภคมีต่อบริการของเขาด้วยเช่นกัน หลังเน็ตฟลิกซ์ประกาศเพิ่มอัตราค่าบริการในแพ็กเกจสแตนดาร์ดและพรีเมียมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา

     จากเดิมที่ผู้ใช้บริการแพ็กเกจสแตนดาร์ดจะต้องชำระเงินแค่เดือนละ 9.99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 330 บาท จะถูกเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเป็น 10.99 เหรียญสหรัฐ หรือ 364 บาท

     ส่วนบริการแบบพรีเมียมก็เพิ่มค่าบริการจากเดือนละ 11.99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 397 บาท มาเป็น 13.99 เหรียญสหรัฐ หรือ 463 บาท ขณะที่บริการแพ็กเกจปกติจะไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด ซึ่งนี่ถือเป็นการปรับขึ้นราคาครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา

     แต่ถึงแม้ว่าการประกาศขึ้นราคาในครั้งนี้จะส่งผลกระทบเชิงลบในมุมผู้ใช้บริการ แต่ในทางตรงกันข้าม มันกลับส่งสัญญาณเชิงบวกต่อเหล่านักลงทุนทั้งหลาย โดยทันทีที่เน็ตฟลิกซ์ประกาศขึ้นราคาค่าบริการออกมา เว็บไซต์ CNBC ก็ได้รายงานในเช้าวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคมว่าราคาซื้อขายหุ้นของพวกเขาก็ทะยานขึ้นแตะหลัก 200 เหรียญสหรัฐ และกลายเป็นสถิติใหม่ทันที

 

ปีหน้าเตรียมทุ่มงบไม่อั้นอีก 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตคอนเทนต์ของตัวเองเพิ่มขึ้น 50%

     มีรายงานเพิ่มเติมอีกด้วยว่าในปี 2018 ที่จะถึงนี้ เน็ตฟลิกซ์ได้ประกาศเตรียมทุ่มงบไม่อั้นจำนวน 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 265,000 ล้านบาท เพื่อหันมาผลิตคอนเทนต์ออริจินัลของตัวเองเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

     เชื่อกันว่าสาเหตุที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจทุ่มงบมากมายเพื่อผลิตคอนเทนต์ของตัวเองขนาดนี้เป็นผลมาจากศึกการแข่งขันในตลาดบริการสตรีมมิงออนดีมานด์กับคู่แข่งรายอื่นๆ อย่าง Hulu หรือ Amazon ที่ดุเดือดขึ้นมากๆ

     เช่นเดียวกับการที่ Disney ถอดคอนเทนต์บนเน็ตฟลิกซ์ออกทั้งหมด เนื่องจากเตรียมหันมาเปิดบริการสตริมมิงของตัวเอง

     ทั้งนี้เน็ตฟลิกซ์ตั้งใจจะนำงบประมาณจำนวนดังกล่าวมาใช้ผลิตคอนเทนต์ออริจินัล ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ ภาพยนตร์ และแอนิเมะให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 50% โดยเท็ด ซารานโด (Ted Sarando) หัวหน้าฝ่ายผลิตคอนเทนต์ประจำองค์กรได้แย้มเป็นนัยว่า ในปีหน้าจะมีภาพยนตร์ที่ผลิตขึ้นในนามเน็ตฟลิกซ์ออริจินัลมากถึง 80 เรื่อง

     ถ้อยแถลงการณ์โดยเน็ตฟลิกซ์ระบุว่า “พวกเราเริ่มต้นได้ดี แต่งานของพวกเราคือการพัฒนาเน็ตฟลิกซ์ให้เติบโตได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และยืนอยู่เหนือคู่แข่งรายอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้นี้”

     การเปิดเผยข้อมูลยอดผู้ใช้บริการหน้าใหม่ รวมถึงกลยุทธ์ที่องค์กรจะใช้ในครั้งนี้จึงแสดงให้เห็นว่าเน็ตฟลิกซ์กำลังมีกราฟการเติบโตในทิศทางที่สดใสมากๆ ในอนาคต

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X