×

Netflix หั่นงบสร้าง ‘แอนิเมชัน’ ยกเลิกโชว์ ขณะที่พนักงานบางส่วนลาออกกลับค่ายเดิม เซ่นวิกฤตอันเลวร้ายที่เกิดจาก ‘ผู้ใช้’ ลดลง

25.04.2022
  • LOADING...
Netflix

ครั้งหนึ่งแอนิเมชันของ Netflix โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงเนื้อหาสำหรับเด็กและครอบครัว เคยถูกมองเป็นโอกาสอันล้ำค่า แต่เมื่อหุ้นล่วงแรงกว่า 30% หลังเผยตัวเลขผู้ใช้ลดลง ทำให้แผนกนี้ได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

เว็บไซต์ The Wrap รายงานว่า ตอนนี้ Netflix ได้ตัดสินใจหั่นงบสร้าง ‘แอนิเมชัน’ ซีรีส์หลายเรื่องที่เคยเป็นที่นิยมไม่ได้รับการติดสัญญา รวมไปถึงหลายเรื่องถูกยกเลิกการสร้าง เช่น Bone ตลอดจนยกเลิกโชว์ต่างๆ 

 

ที่สำคัญรายงานดังกล่าวยังชี้ด้วยว่า พนักงานที่เป็นดั่งมันสมองต่างทยอยลาออกเพื่อกลับค่ายเก่าไม่ว่าจะเป็น Cartoon Network, Disney และ Nickelodeon ตลอดจนย้ายไปอยู่กับยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ เช่น Apple TV+ และ Amazon

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ก่อนหน้านี้เคยมีการเปิดเผยว่า ในปี 2022 Netflix วางแผนที่จะทุ่มเงินกว่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5.8 แสนล้านบาท สำหรับการสร้าง ‘คอนเทนต์’ เพื่อเป็นอาวุธสำหรับการแข่งขันในสังเวียนสตรีมมิงที่ดุเดือด

 

ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 25% จากปี 2021 และเพิ่มขึ้น 57% เมื่อเทียบกับการใช้เงิน 1.08 หมื่นล้านดอลลาร์ใน 2020 โดย Netflix คาดหวังว่า การลงทุนดังกล่าวจะคุ้มค่าและช่วยให้กระแสเงินสดในปี 2022 เป็นบวก

 

แต่แล้ว Netflix กลับต้องเผชิญกับ ‘สัปดาห์’ ที่เลวร้ายหลังเผยผลประกอบการที่พบว่า ยอดสมัครสมาชิกลดลงกว่า 2 แสนราย ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2010 ซึ่งผิดไปจากการคาดการณ์เดิมว่าจะมียอดสมาชิกจากทั่วโลกเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านราย 

 

ที่สำคัญ Netflix ยังประเมินว่า ยอดสมัครสมาชิกจะลดลงไปอีกราว 2 ล้านรายในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ 

 

แน่นอนนักลงทุนได้ฟังแบบนั้นแล้วยังยิ้มได้คงเป็นเรื่องที่น่าแปลกแล้ว ดังนั้นสึนามิที่ตามมาคือหุ้นที่ร่วงลงกว่า 35% ‘กวาดล้าง’ มาร์เก็ตแคปหายไปทันที 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.8 ล้านล้านบาท โดยนี่ถือเป็นการลดลงมากที่สุดใน 1 วัน นับตั้งแต่ปี 2004

 

ที่ผ่านมา Netflix เป็นดาวเด่นในสังเวียนสตรีมมิงจนขึ้นเป็น ‘บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ โดยหุ้นของ Netflix เพิ่มขึ้นประมาณ 20,000% นับตั้งแต่ติดนามสกุลมหาชนในปี 2002

 

ความหวือหวาดังกล่าวทำให้ Netflix มีประสิทธิภาพเหนือกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับดัชนี S&P 500 ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 500% จากผลตอบแทนรวมในช่วงเวลาเดียวกัน

 

แต่มีขึ้นก็ต้องมีลง Netflix ประสบกับภาวะตกต่ำหลายครั้งตลอดการทำธุรกิจ โดยเหตุการณ์ที่วิกฤตมากที่สุดคือปี 2011 ที่เร่งเปลี่ยนผ่านจากธุรกิจให้เช่าวิดีโอไปสู่ธุรกิจสตรีมมิง

 

Netflix เรียนรู้บทเรียนราคาแพงและสามารถกลับมายืนอย่างแข็งแกร่งได้อีกครั้ง ในขณะที่หุ้นมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สิ้นปี 2011 และติดลบเพียงครั้งเดียวในปี 2014

 

ยักษ์สตรีมมิงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้งในปี 2020 หลังเกิดโรคระบาดที่ทำให้ผู้คนต้องอยู่ในบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ Netflix เห็นสมาชิกใหม่หลายล้านรายหุ้นเพิ่มขึ้นเกือบ 70% ในช่วงปี 2020 และเพิ่มขึ้นอีก 11% ในปี 2021 ซึ่งเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันที่การเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัง 

 

สิ่งที่น่าจับตาคือ Netflix จะกลับมาเติบโตตามสถิติเดิมได้อีกหรือไม่ เพราะเมื่อนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้หุ้นได้ร่วงไปแล้วกว่า 64% ในขณะที่นักวิเคราะห์จาก 15 บริษัทต่างปรับลดคาดการณ์ราคาหุ้น

 

นี่จึงสะท้อนถึงวิกฤตที่ Netflix ต้องเผชิญ และต้องผ่านมันไปให้ได้ หากยังอยากรักษาตำแหน่ง ‘บริษัทสตรีมมิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ 

 

ภาพ: Brandon Bell / Getty Images

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising