วานนี้ (11 ตุลาคม) NASA เปิดเผยว่า ยาน DART (Double Asteroid Redirection Test) ที่ทำภารกิจพุ่งเข้าชนดาวเคราะห์น้อย Dimorphos เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมานั้น สามารถเบี่ยงวิถีโคจรของดาวเคราะห์น้อยได้สำเร็จ โดย NASA ได้เปิดเผยชุดข้อมูลจำนวนหนึ่งที่สนับสนุนการประเมินภารกิจดังกล่าว ซึ่งรวมถึงรูปภาพใหม่ที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล และภาพจากยานอวกาศขนาดเล็กของอิตาลีที่อยู่ห่างจากการชนไปราว 50 กิโลเมตร
โดยหลังเสร็จสิ้นภารกิจพุ่งชนไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทีมนักดาราศาสตร์บนโลกก็ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดินสังเกตค่าความเร็ว รวมทั้งมุมโคจร ในขณะที่ดาวเคราะห์น้อย Dimorphos ซึ่งเป็นดาวเคราะห์น้อยบริวาร โคจรผ่านด้านหน้าและด้านหลังของดาวเคราะห์น้อยดวงแม่คือ Didymos
ก่อนหน้าที่ยาน DART จะพุ่งเข้าชน ดาวเคราะห์น้อย Dimorphos ใช้เวลา 11 ชั่วโมง 55 นาทีในการโคจรรอบดาวเคราะห์น้อยดวงแม่ แต่ปัจจุบันนักดาราศาสตร์พบว่า Dimorphos ใช้เวลาโคจรลดลงเหลือ 11 ชั่วโมง 23 นาที ซึ่งแปลว่ายาน DART สามารถเปลี่ยนวิถีโคจรของดาวเคราะห์น้อยได้ 32 นาที หรือคิดเป็นสัดส่วน 4%
ผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการนี้จะถูกนำไปใช้ต่อยอดในการออกแบบยานอวกาศที่จะใช้เบี่ยงเบนวิถีดาวเคราะห์น้อย หรือดาวหางที่จะสร้างขึ้นจริงในอีกหลายปีข้างหน้า เพื่อลดความเสี่ยงที่โลกของเราอาจถูกอุกกาบาตยักษ์พุ่งเข้าชน เหมือนเช่นทฤษฎีการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์เมื่อครั้งอดีต
บิล เนลสัน ผู้อำนวยการของ NASA กล่าวว่า “ภารกิจนี้แสดงให้เห็นว่า NASA กำลังพยายามเตรียมความพร้อมรับมือกับสิ่งที่จักรวาลอาจเหวี่ยงมาใส่เรา ผมเชื่อว่าจากภารกิจนี้ NASA ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าเราจริงจังกับการพิทักษ์โลก”
ภาพ: NASA / ESA / STScI / Hubble
อ้างอิง:
- https://www.theguardian.com/science/2022/oct/11/nasa-dart-spacecraft-asteroid-successful
- https://edition.cnn.com/2022/10/11/world/nasa-dart-success-update-scn/index.html
- https://www.bbc.com/news/science-environment-63221577
- https://www.nasa.gov/press-release/nasa-confirms-dart-mission-impact-changed-asteroid-s-motion-in-space