รัฐบาลเมียนมา เปิดเผยในวันนี้ (21 พฤศจิกายน) ว่า ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา ตัดสินใจเป็นผู้นำทีมกฎหมายขึ้นให้การต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลกของสหประชาชาติ ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮีนจา เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
หลังรัฐบาลแกมเบีย ในฐานะตัวแทนองค์การความร่วมมืออิสลาม ซึ่งมีชาติสมาชิก 57 ประเทศ เป็นฝ่ายยื่นฟ้องเมียนมา ซึ่งการไต่สวนคดีจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ธันวาคม
“รัฐบาลเมียนมาได้จัดเตรียมทนายระหว่างประเทศที่เก่งกาจเพื่อต่อสู้คดีนี้ ซึ่งแกมเบียเป็นฝ่ายยื่นฟ้อง” กระทรวงที่ปรึกษาแห่งรัฐของซูจี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก
โฆษกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของซูจี เปิดเผยว่าซูจี ตัดสินใจรับหน้าที่ผู้นำทีมกฎหมายในคดีนี้ เพราะถูกกล่าวหาว่า ไม่ยอมออกมาพูดเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่พยายามยับยั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดกับชาวโรฮีนจา
ขณะที่วิกฤตกวาดล้างชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ของเมียนมา เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2016 จนถึงต้นปี 2017 และส่งผลให้เกิดวิกฤตผู้ลี้ภัย หลังชาวโรฮีนจากว่า 730,000 คน ต้องอพยพหนีตายด้วยการข้ามชายแดนไปยังบังกลาเทศ
ที่ผ่านมารัฐบาลและกองทัพเมียนมา ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจา โดยอ้างความจำเป็นในการเข้าปราบปราม และขับไล่กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮีนจา และยืนยันว่ามีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นแล้ว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: