วันนี้ (8 เมษายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เครื่องบินโดยสารจากเมียนมาจำนวน 1 ลำ ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด จังหวัดตาก ก่อนบินกลับประเทศเวลา 22.00 น. ของวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานจาก จักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่จักรพงษ์ได้ชี้แจงไปว่า เป็นการขนย้ายพลเรือนตามปกติ ไม่ได้มีการขนส่งทางการทหาร และมีการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่าง ไม่ได้เป็นการขนอาวุธหรือทหาร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ากระทรวงกลาโหมของเราได้มีการประสานกันอย่างถูกต้องตามขั้นตอนแล้วใช่หรือไม่ เศรษฐายืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (9 เมษายน) นั้น เรื่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ส่วนเรื่องใหญ่ที่เรียกประชุมคือเรื่องภายในเมียนมา จึงเชิญ ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้บัญชาการทหารบก รวมทั้งที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกำหนดทิศทางให้ไปในทิศทางเดียวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยและเมียนมามีชายแดนติดต่อกันยาว ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับหากมีประชาชนจากฝั่งเมียนมาทะลักเข้ามาในประเทศไทยจากการสู้รบหรือไม่ เศรษฐากล่าวยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องการการบริหารจัดการที่เป็นเอกภาพ ชายแดนไทย-เมียนมามีเขตติดต่อกันประมาณ 2,000 กิโลเมตร อีกทั้งเมียนมาเองก็มีประชากรเกือบ 70 ล้านคนเท่ากับเรา ความประสงค์ของรัฐบาลไทยมีความชัดเจนว่า อยากให้เมียนมาเกิดความสงบ เป็นหนึ่งเดียวกัน ก้าวหน้าและเจริญเติบโตไปตามศักยภาพที่มี อยากให้เกิดสันติภาพ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ไทยอยากให้มีสันติภาพเกิดขึ้นในเมียนมา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหากมีการทะลักเข้ามาของเมียนมา แผนรองรับของเราคืออะไร เศรษฐากล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่การทะลักเข้ามา และที่ได้รับรายงานที่เข้ามาแล้วก็ยังไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าที่ผ่านมาไทยถูกมองเรื่องของสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการส่งกลับผู้อพยพ เรื่องนี้มีแผนเตรียมการไว้อย่างไรบ้าง เศรษฐากล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคาดเดา เพราะยังไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ให้ความสำคัญกับเรื่องความสงบ และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
ด้าน จักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า “เรื่องเครื่องบินเมียนมาที่เป็นข่าว ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเรื่องการขอนำเครื่องบินพลเรือนมาลงเพื่อขนสิ่งของพลเรือน ไม่ได้มีการขนกำลังทหาร หรืออาวุธ หรือการขอลี้ภัยตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เป็นเรื่องคำขอทางการทูตเพื่อนำเครื่องบินพลเรือนมาขนย้ายสิ่งของทางการทูต ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติครับ”