×

‘เมื่อคุณค่าความเป็นคน อยู่เหนือคำสั่งนาย’ ทหาร-ตำรวจเมียนมาจึงลี้ภัยไปอินเดีย แทนการเข่นฆ่าประชาชนร่วมชาติ

23.03.2021
  • LOADING...
ทหาร-ตำรวจเมียนมา

ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมาจำนวนไม่น้อยที่ไม่ยินยอมให้คำสั่งนายอยู่เหนือคุณค่าของความเป็นมนุษย์ และเลือกที่จะถอยไปตั้งหลักลี้ภัยยังประเทศเพื่อนบ้าน ดีกว่าที่จะต้องเข่นฆ่าพี่น้องประชาชนร่วมชาติที่ยืนอยู่คนละฝั่งกับกองทัพ และเพียงต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นในสังคมที่เป็นประชาธิปไตย

 

นี่คือภาพของเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ไม่ยินยอมปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การปกครองของระบอบเผด็จการทหาร ที่เดินทางข้ามพรมแดนประเทศไปลี้ภัยยังรัฐมิโซรัม รัฐทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย โดยพรรคการเมืองท้องถิ่นของรัฐนี้พยายามยื่นเรื่องถึงรัฐบาลอินเดีย ขออนุญาตให้ชาวเมียนมาเดินทางเข้าประเทศได้ในฐานะผู้ลี้ภัย หลังทางการนิวเดลีปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว 

 

ทางด้านกระทรวงมหาดไทยของอินเดียมีคำสั่งให้รัฐตามแนวชายแดนที่ติดกับเมียนมาป้องกันการเดินทางเข้าประเทศของบรรดาผู้ลี้ภัยจากเมียนมา ยกเว้นในบางกรณีที่มีความจำเป็นให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อีกทั้งกระทรวงยังระบุว่า แต่ละรัฐไม่มีสิทธิ์ในการรับรองสถานะผู้ลี้ภัยให้กับผู้ที่เดินทางมาจากเมียนมา โดยอินเดียไม่ได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย ปี 1951 และพิธีสาร ปี 1967

 

ทางการอินเดียเผย มีชาวเมียนมาเดินทางข้ามพรมแดนมายังอินเดียกว่า 300 รายแล้วในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ครอบครัวยังอยู่ในเมียนมา เพราะเกรงว่าหากพาเดินทางลี้ภัยไปพร้อมกันคราวเดียวจะยิ่งเป็นอันตราย อีกทั้งการเดินทางข้ามพรมแดนค่อนข้างยากลำบาก หากทางการอินเดียยินยอมให้สถานะผู้ลี้ภัย จึงจะหาทางติดต่อกับสมาชิกครอบครัวให้เดินทางมาสมทบอีกที บางส่วนรอดูท่าทีกลุ่มกองกำลังติดอาวุธกลุ่มต่างๆ ว่าจะร่วมต่อสู้กับกองทัพเพื่อทวงคืนประชาธิปไตยหรือไม่ และอาจเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธดังกล่าว 

 

จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่รัฐรายหนึ่ง หากมีการฝ่าฝืนและขัดคำสั่ง โทษหนักสุดอาจถูกจำคุกนานถึง 13 ปี หรือถูกประหารชีวิต สื่อท้องถิ่นเมียนมาระบุ มียอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 254 ราย ถูกจับกุมและควบคุมตัวสะสมกว่า 2,200 ราย

 

ทหาร-ตำรวจเมียนมา

“กองทัพสั่งให้เราฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ คนอย่างแม่และพ่อของเรา ทำไมฉันถึงต้องฆ่าพี่น้องประชาชนในชาติตัวเอง ฉันจึงหนีมาอินเดีย” – จอ (นามสมมติ), ทหารเมียนมาที่ลี้ภัยมายังอินเดีย

 

 

ทหาร-ตำรวจเมียนมา

“ถ้าเราถูกจับได้ขณะที่กำลังหลบหนี กองทัพจะสั่งให้เราทำตามสิ่งที่เขาต้องการ ถ้าหากเราขัดคำสั่ง เราอาจถูกจำคุก 13 ปี หรืออาจถูกฆ่าตาย” – อ่อง (นามสมมติ), ตำรวจเมียนมาวัย 28 ปีที่ลี้ภัยมายังอินเดีย

 

 

ทหาร-ตำรวจเมียนมา

“ฉันหนีมาที่นี่ เพราะตำรวจคือคนกลุ่มที่สองที่ได้รับอนุญาตให้ถืออาวุธปืน กองทัพสั่งให้เรายิงประชาชน และมอบหมายให้ตำรวจเป็นการ์ดปกป้องให้พวกเขา… ฉันต้องการประชาธิปไตยกลับคืนมา ถ้ากลุ่มชาติพันธ์ุติดอาวุธจะเข้าช่วยต่อสู้กับคณะรัฐประหาร ฉันจะเข้าร่วมกับพวกเขา” – เชวะ (นามสมมติ), ตำรวจหญิงชาวเมียนมาที่ลี้ภัยมายังอินเดีย

 

 

ทหาร-ตำรวจเมียนมา

“ถ้าเรายังอยู่ที่นั่น ผมมั่นใจว่า ไม่ช้าก็เร็ว เราจะถูกบังคับให้ทรมานและเข่นฆ่าประชาชนที่ไม่มีอาวุธ มันสกปรกและผิดกฎหมายที่จะต้องแบกรับหน้าที่ที่ไร้มนุษยธรรมเช่นนั้น” – อ่อง (นามสมมติ), ตำรวจเมียนมาวัย 28 ปีที่ลี้ภัยมายังอินเดีย

 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 

 

ภาพ: Sajjad Hussain / AFP

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising